“สุเทพ” ชี้สถานการณ์บ้านเมืองเปราะบางหากเกิดเหตุจลาจลทำเศรษฐกิจชาติล่มจม หวั่นมีมือที่ 3-4 ก่อเหตุความไม่สงบใน กทม.พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุกระทบความมั่นคงผ่ายสายด่วน 1555 และให้กทม.ทำหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ต่างๆให้ประชาชนทราบทันที ระบุไม่ให้ทหาร ตำรวจ อาสมัครพลเรือนพกอาวุธเพราะไม่ได้เป็นศัตรูกับผู้ชุมนุม
วันนี้ (24 ก.พ.) เวลา 09.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์รักษาความปลอดภัยกรุงเทพมหานคร (ศรภ.กทม.) ซึ่งตั้งอยู่ ณ ห้องสุทัศน์ 1 ชั้น 2 ศาลาว่าการกทม. พร้อมเปิดเผยภายหลังว่าวันนี้ได้มาเปิดศูนย์รักษาความปลอดภัยกรุงเทพมหานคร สายด่วน 1555 และเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของศูนย์ซึ่งมีเครือข่ายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดกว่า 2,000 ตัวครอบคุลมพื้นที่ กทม.ทั้งหมด โดยศูนย์ฯนี้จะทำหน้าที่ติดตามดูแลเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกทม. นอกจากนั้น เราได้ยังขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเจ้าของเมืองตัวจริงให้ช่วยเป็นหูเป็นตาร่วมป้องกันกทม.ให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลายเนื่องจากว่าในช่วงนี้สถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างจะมีความอ่อนไหว รัฐบาลโดยคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง หรือคตม.ซึ่งมีตนเป็นประธานก็มีความห่วงใย มีความรับผิดชอบที่จะต้องเตรียมการทั้งหลายเพราะกลัวว่าอาจจะมือที่ 3 มือที่ 4 ผู้ไม่หวังดีก่อเหตุไม่สงบภายใน กทม.ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายเกิดการจลาจลซึ่งไม่เป็นผลดีกับกทม.และประเทศไทย ทั้งนี้ตนเชื่อว่าพี่น้องประชนทุกคนคงเข้าใจดีว่าขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่แจ่มใสที่จะมีการเติบโตในลักษณะที่เป็นบวกมากขึ้น และเราเชื่อมั่นว่าถ้าได้มีการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อกทม.ต่อประเทศไทยมันจะมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลประสบความสำเร็จด้วยความรวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ หลายประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์เปราะบางมากถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เป็นความรุนแรงในลักษณะใดลักษณะหนึ่งในทางการเมืองขึ้นมาก็จะเกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
“เราตระหนักดีว่าพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันดูแลปกป้องรักษาบ้านเมือง เราจึงได้จัดระบบที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นหูเป็นตาดูแลชุมชนของตนเองเพื่อให้สังคมของเรามีความร่มเย็นเป็นปกติหรือมีการแก้ไขอย่างทันท่วงทีโดยระบบที่เราจัดตั้งสายด่วน 1555 จะทำให้ประชาชนได้พบเห็นสิ่งที่ปิดปกติ การเริ่มก่อความไม่สงบรุนแรงหรือวัตถุหีบห่อที่แปลกปลอมที่น่าสนใจ หรือพบเห็นความเคลื่อนไหวในชุมชน หรือพบเบาะแส พิรุธต่างๆ ประชาชนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1555 ศรภ.กทม. ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าระงับเหตุหรือแก้ไขสถานการณ์ได้” นายสุเทพ กล่าว
ประธาน คตม. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนมีความภาคภูมิใจในคณะผู้บริหาร กทม.และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เตรียมการทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากประเด็นเพิ่มเติมเพื่อให้คณะผู้บริหารกทม. 2 เรื่องด้วยกันคือประเด็นที่ 1 ขอให้เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับชุมชนของประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่อประชาชนเช่นเดียวกับที่เคยเกดขึ้นเมื่อช่วงสงกรานต์ปีที่แล้วที่เกิดขึ้นที่บริเวณนางเลิ้ง ราชเทวี หรือดินแดง โดยขอให้มีระบบเครือข่ายอาสาสมัครพลเรือน อาสาสมัครประชาชนคอยระวังเหตุ โดยเวลาแจ้งเหตุให้ใช้รหัสที่ได้รับแจ้งมายังสายด่วน 1555 เพื่อที่ศูนย์ฯจะได้ประสานไปยังตำรวจเข้าดูแลป้องกันประชาชนได้อย่างทันท่วงทีจะได้ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเหมือนที่นางเลิ้ง
ประเด็นที่ 2 ขอให้เตรียมบุคลากรและระบบการรายงานข่าวต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงในทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตนมีความกังวลใจเรื่องการบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้เกิดความวิตกกังวลแก่ประชาชน ทั้งนี้หารมีเหตุการณ์ชุมนุมก็จะให้ทางกทม.สามารถรายงานข้อเท็จจริงกับประชาชนได้ทันที เช่น การปล่อยข่าวว่าทหาร ตำรวจใช้อาวุธทำร้ายผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับผู้ชุมนุมแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครพลเรือนที่จะเข้ามาดูและเหตุการณ์ในกทม.ไม่มีการพกพาอาวุธ ไม่มีเจตนาที่จะไปทำร้าย ปราบปรามผู้เข้ามาร่วมชุมนุม มุ่งประสงค์เพียงอย่างเดียวคือการรักษาความความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และปกป้องชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ปกป้องสถานที่ราชการให้สถานการณ์ปกติเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติซึ่งเป็นสิ่งที่เราเตรียมการเอาไว้ แต่ถ้าหากมีใครมาบิดเบือนใส่ร้ายเราจะให้เจ้าที่ของเราทุกฝ่ายรายงานข้อเท็จจริงความเป็นจริงให้พี่น้องได้ทราบโดยทันที
นายสุเทพกล่าวต่อว่า และขอยืนยันอีกครั้งว่าประชาชนอย่าได้วิตกกังวล โดยระบบที่กทม.ได้ตั้งศรภ.กทม. 1555 ทางกทม.สามารถประสานโดยตรงกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งได้จัดเตรียมชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็วพร้อมระงับเหตุในพื้นที่ภายใน 15 นาที และท้ายที่สุด เมื่อสงกรานต์ปีที่แล้วได้มีความพยายามของกลุ่มผู้ชุมนุมก่อเหตุวุ่นวายจลาจลเผาบ้านเผาเมืองทำให้การจราจรกทม.เป็นอัมพาตเจ้าหน้าที่ของเราได้เข้าไปแก้ไขเหตุการณ์จนคืนกลับสู่ความสงบเรียบร้อยแต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือความร่วมมือจากประชาชนในแต่ละชุมชนในวันนั้นให้สามารถแก้ไขเหตุการณ์ในเวลาไม่ยาวนานป้องกันความเสียหายให้กับกทม.เป็นอย่างดี ดังนั้นพลังประชาชนสำคัญอย่างยิ่งและจะเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ศูนย์นี้จะเป็นศูนย์ถาวรหรือเป็นศูนย์เฉพาะกิจตั้งขึ้นเฉพาะช่วงยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตน์ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ศูนย์นี้เป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชนอยู่แล้วแต่เมื่อรัฐบาลได้ขอความร่วมมือกทม.ได้เปลี่ยนสภาพจากศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ในปกติมาเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยของบ้านเมืองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งภารกิจเพราะฉะนั้นเราจะให้กทม.ได้ทำหน้าที่ในส่วนนี้ต่อไปจนกว่ามั่นใจว่าไม่มีอะไรจะต้องวิตกกังวลกันอีกแล้ว
ต่อข้อถามที่ว่า ตอนนี้สถานการณ์อาจไม่ค่อยเป็นปกติการโทรมาแจ้งเท็จ ล้อเล่น นายสุเทพกล่าวว่า ขอให้ทางกทม.จัดทำเครือข่ายมีรหัสการแจ้งอาสาสมัครประชาชนในชุมชนต่างๆมีหลายหมื่นคนในพื้นที่กทม.ซึ่งกทม.มีรหัสสำหรับการแจ้งเหตุให้กับอาสาสมัครในชุมชนต่างๆ เพื่อป้องกันข่าวหลอก ข่าวลวงต่างๆซึ่งหากพบสิ่งผิดปกติก็แจ้งดข้ามาได้โดยใช้รหัสจึงไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ระบุว่าสถานการณ์ค่อนข้างเปราะบางได้รับรายงานที่อาจจะเกิดความวุ่นวายหรือความรุนแรงอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้องไปพิจารณาอะไรเพราะเห็นกันอยู่แล้ว วันนี้ก็มีการเคลื่อนไหว เตรียมการคึกคักในหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด มีตัวแทนกลุ่มแดงธรรมดา แดงสยาม แดงขม แดงอะไรก็แล้วแต่ ออกมาพูดจากับประชาชนอยู่ทุกเวลาจะทำอย่างนั้น จะทำอย่างนี้ บางคนก็พูดจาเลยเถิดไปถึงการสั่งการให้เตรียมขวด เตรียมน้ำมัน ให้ไปศาลากลางจังหวัด ไปที่ต่างๆท่านทั้งหลายคงเห็นกันอยู่แล้ว ส่วนจะทำจริงหรือไม่จริง ตนไม่ทราบแต่เพราะหน้าที่ดูแลบ้านเมือง ดูแลประชาชนเราต้องไม่ประมาทก็ต้องเตรียมการให้พร้อมเอาไว้
ด้าน นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.กล่าวว่า ในส่วนของการสร้างเครือข่ายการแจ้งเหตุนั้น ปัจจุบัน กทม.มีอาสาสมัครในชุมชนเพื่อรับแจ้งเหตุอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการปิดโรงเรียนจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสั่งปิดโรงเรียนโดยจะต้องติดตามสถานการณ์ในวันที่มีการตัดสินซึ่งปกติผู้อำนวยการเขตสามารถสั่งการให้หยุดเรียนได้ไม่เกิน 3 วันอยู่แล้ว ในส่วนความมั่นคงเป็นหน้าที่ของทหาร ตำรวจ กทม.มีหน้าที่สนับสนุนหน่วยแพทย์พยาบาลให้พร้อม พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการเขตดูแลโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่สำคัญๆ ในพื้นที่ของตน