xs
xsm
sm
md
lg

เหตุการณ์ที่ “บางขุนพรหม” กับ 3 ป.!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผ่าประเด็นร้อน”

คำให้สัมภาษณ์แบบจงใจของ “เสธ.แดง” หรือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เมื่อสองสามวันก่อนระบุว่า “เหตุการณ์ที่แยกบางขุนพรหมเกี่ยวข้องกับ 3 ป.” เป็นเสมือนการโยนระเบิดเข้าใส่กลุ่ม “อำนาจใหม่” ในกองทัพโครมเบ้อเร่อ

แม้ว่าสถานะของ พล.ต.ขัตติยะ ในเวลานี้กำลังถูกสั่งพักราชการหลังจากหนีราชการและมีพฤติกรรมไม่เคารพผู้บังคับบัญชารวมไปถึงล่าสุดถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่คนร้ายใช้ระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่มห้องผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ภายในกองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเช้ามืดวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะล่าสุดเจ้าที่ตำรวจกำลังออกหมายเรียกเพื่อมาให้ปากคำในคดีครอบครองอาวุธสงคราม

ขณะเดียวกัน ในภาพลักษณ์ภายนอกอาจมองว่าเป็นคนเพี้ยน หรือมีพฤติกรรมติดลบในสายตาชาวบ้าน แต่เวลาเดียวกันแทบทุกครั้งที่มีการเตือนหรือคำทำนายเกี่ยวกับเหตุร้าย หรือการลอบใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลายครั้ง รวมไปถึงระบุเวลาในการลงมือส่วนใหญ่มักแม่นยำอยู่เสมอ หรือผิดเพี้ยนไปไม่มากนัก ราวกับว่าไปร่วมวางแผน หรือลงมือเองด้วยซ้ำไป

ที่ผ่านมาเขาได้แสดงตนอย่างเปิดเผยว่าได้เลือกยืนข้าง ทักษิณ ชินวัตร อย่างเต็มตัว อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการฝึกอาวุธให้กับกลุ่มที่เรียกว่า “นักรบพระเจ้าตาก” ซึ่งต่อมาคนกลุ่มนี้ยังทำหน้าที่ในการเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงระหว่างการชุมนุม รวมไปถึงแกนนำอีกหลายคน

ด้วยคำพูดและลักษณะการเคลื่อนไหวดังกล่าวและบุคลิกลักษณะ “พิเศษ” ของ พล.ต.ขัตติยะ ทำให้กลายเป็นที่จับตาของสังคมอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ไม่อยู่ในระเบียบวินัยชอบแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผิดวิสัยของข้าราชการทั่วไป ที่สำคัญเป็นข้าราชการทหารที่ต้องมีวินัยเข้มงวด แต่สำหรับ พล.ต.ขัตติยะ ดูเหมือนว่าข้อห้ามดังกล่าวนำมาใช้ไม่ได้ และที่ผ่านมาเจ้าตัวก็กล้าประกาศว่า เขาเป็นทหารยศนายพล ไม่มีใครสั่งลงโทษได้ไม่ว่าวินัยหรืออาญา จนสร้างความสับสนกับสังคมว่า “นายพล” ทำอะไรไม่ผิดหรือ

อย่างไรก็ดี นายทหารคนนี้ก็ยังมีบทบาทดังเช่นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องการประกาศนำทหารพรานออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลร่วมกับคนเสื้อแดง รวมไปถึงการระบุในทำนองว่า ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จ่ายเงินให้กับทหารพรานไม่ตรงกับตัวเลขที่ได้ประกาศเอาไว้ จนสร้างความเสียหายให้ผู้บัญชาการทหารบก แต่ก็ไม่ได้รับการตอบโต้หรือชี้แจงมากนัก

สิ่งที่น่าสังเกตมากไปกว่านั้นก็คือ พฤติกรรมและคำพูดของ เสธ.แดง ในทำนองก้าวร้าวและหลายครั้งได้สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ เพราะแม้กระทั่ง พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ถึงกับเคยกล่าวว่า “พล.ต.ขัตติยะ เป็นตัวอย่างของทหารเลว” จนกระทั่งเมื่อถูกกดดันจากสังคมกรณีเดินทางไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่กัมพูชา และข่มขู่ผู้บัญชาการทหารบกจนนำไปสู่การสอบสวนและสั่งพักราชการ และล่าสุดเมื่อเกิดเหตุ ระเบิดเอ็ม 79 ปริศนายิงถล่มห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ ในกองบัญชาการทหารบก จนนำไปสู่การตรวจค้นบ้านพักในเขตทหารและพบอาวุธสงครามมากมาย สามารถดำเนินคดีกับทหารคนใกล้ชิดจำนวน 2-3 คน ขณะที่ เสธ.แดง ถูกออกหมายเรียกไปให้ปากคำดังกล่าว

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คำให้สัมภาษณ์ตอบโต้ของ พล.ต.ขัตติยะ ระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดระบุขึ้นมาลอยๆ ว่า “เหตุการณ์ที่แยกบางขุนพรหมมี 3 ป.เกี่ยวข้อง” ทำให้หลายคนหูผึ่งทันที แม้ว่าจะเป็นคำพูดของ เสธ.แดง แต่ในกรณีแบบนี้น่าจะมีข้อยกเว้น และต้องรับฟัง เพราะหลายคนเชื่อว่าในวงการ “กองทัพ” เขาน่าจะรู้เรื่องดีไม่น้อย

จากนั้นก็ต้องมาทำความเข้าใจกันว่า เหตุการณ์ที่แยกบางขุนพรหมคืออะไร ซึ่งในที่นี้น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามนานาชนิดหมายลอบสังหารที่แยกบางขุนพรหมเมื่อเช้ามืดวันที่ 17 เมษายน 2552 เหตุการณ์ดังกล่าวคนร้ายได้ลงมืออย่างอุกอาจและท้าทายอย่างยิ่ง เพราะกำลังอยู่ในช่วงของการประกาศภาวะฉุกเฉิน เต็มไปด้วยกำลังทหาร-ตำรวจลาดตระเวณทั่วเมือง อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุยังอยู่ใจกลางพระนคร

ทุกฝ่ายจึงฟันธงว่าคนที่ลงมือต้องเป็นคนมีสี และคนที่อยู่เบื้องหลังสั่งการก็ย่อม “โคตรไม่ธรรมดา” แน่นอน ซึ่งก็มีแนวโน้มเป็นอย่างนั้น เมื่อมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในเบื้องต้นจำนวน 3 คน เป็นตำรวจ 1 นาย และทหารจากศูนย์บัญชาการสงครามพิเศษ 2 นาย แต่ในที่สุดคดีก็ไม่มีความคืบหน้า สะท้อนให้เห็นว่า “ไอ้โม่ง” ที่อยู่เบื้องหลังการสั่งการไม่ธรรมดาจริงๆ

สำหรับ 3 ป.ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่แยกบางขุนพรหมตามที่ เสธ.แดง กล่าวเป็นปริศนาเอาไว้คือใครนั้น ไม่มีใครกล้าฟันธงเพราะคนที่มีชื่ออักษรย่อ ป.ปลา มีอยู่มากมาย แต่หากจะให้แคบเข้ามาก็ต้องโฟกัสเข้าไปในแวดวงอำนาจสีเขียวกับสีกากี ก็คงมีไม่มาก ซึ่งในวงการก็น่าจะพอเดาออก

ที่สำคัญคนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาคือ พล.ต.ขัตติยะ ก็น่าจะมีข้อมูลเชิงลึก เหมือนกับที่เคยพูด และให้ข้อมูลมาหลายเรื่องแบบรู้เรื่องดีมาตลอด และคราวนี้ก็เช่นเดียวกันเป็นการพูดหลังจากตัวเองถูกค้นบ้านและพบอาวุธสงครามจำนวนมาก รวมไปถึงถูกออกหมายเรียกไปให้ปากคำกับตำรวจ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเขากำลังต้องการ “ต่อรอง” อะไรบางอย่าง หรือไม่

และ 3 ป.ที่กล่าวถึงนั้นหมายถึงใคร เพราะไม่ได้ระบุชื่อออกมาตรงๆ แต่ที่ผ่านมาเมื่อกล่าวถึงอักษรย่อ ป ปลา ในยุคนี้มันก็ช่วยไม่ได้ที่สังคมมักจะนึกไปถึง ป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณ ป๊อก-อนุพงษ์ เผ่าจินดา ป๊อด-พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และแถมไปอีก ป.คือ ประยุทธ จันทร์โอชา ส่วนจะใช่คนเหล่านี้ตามความหมายของ พล.ต.ขัตติยะ หรือเปล่าตำรวจต้องเค้นถามให้ได้ว่ามีข้อมูลแบบไหน และ 3 ป.เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่แยกบางขุนพรหมอย่างไร

ดังนั้นเมื่อ เสธ.แดง เปิดประเด็นร้อนขึ้นมาแบบนี้มันก็ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน ขณะเดียวกันก็ต้องคอยจัยตาดูว่าเมื่อมีคำพูดลอยลมออกมาแล้วจะทำให้คดีของเขาถูกเบี่ยงเบนไปอีกหรือเปล่า น่าจับตายิ่งนัก!!


กำลังโหลดความคิดเห็น