xs
xsm
sm
md
lg

แดงยก 5

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

ไม่ว่าจะเรียกมันว่า..ปฏิบัติการบันได 5 ขั้นที่คุณน้อง “ยะใส” ว่า หรือจะแตกย่อยเป็นบันได 216 ขั้นเท่ากับขั้นบันไดที่ปราสาทพระวิหารก็ตาม แต่บทสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับตรงกันก็คือ..

มันมาแน่ มันเอา “มาร์ค” แน่ มันเอา “ป๋าแน่” เพราะนี่มันเป็นมวยไทยยก 5 หรือ มวยสากลยก12 ยกสุดท้าย...เป็นสงครามครั้งสุดท้าย ถ้ามันไม่น็อก มันก็จะต้องถูกน็อก..

ครับ ผมพูดไปราวกับว่ามีอารมณ์ขันกับชะตากรรมของบ้านเมืองที่มีโอกาสจะขึ้นจากห้วยพอๆ กับดิ่งลงเหวนรก.... เปล่าเลยครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้ ต้องว่ากันตรงๆ..

เมื่อทำใจให้ว่างๆ แล้วผมลองตั้งข้อสังเกตเล็กๆ ต่อสงครามครั้งสุดท้ายของทักษิณผ่านกองทัพคนเสื้อแดงที่มีทั้งแดงคอมมิวนิสต์ แดงคอมมิชชัน แดงสยาม แดงสู้แล้วรวย แดงรักทักษิณ แดงตามน้ำ แดงตามแห่..และแดงแด๊งแดง..แดงตะแรดแต๊ดแต๋ทั้งหลายสัก 6 ประการดังนี้

1) การประกาศชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่มีความเป็นเอกภาพเรื่องวันเวลาของการปฏิบัติการ บางปีกเห็นว่าใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษาเดือนธ.ค.เป็นเดือนมหามงคลจะสูญเสียการเมือง แต่เมื่อ 3 เกลอหัวขวดประกาศไปแล้วก็ต้องเดินหน้ากันต่อ

2) แม้พวกเขาจะประกาศน็อกรัฐบาลในวันแรก ( 28 พ.ย.) แต่ก็เป็นไปไม่ได้ การชุมนุมรอบแรกถูกวางไว้ 28 พ.ย.ถึงเช้าตรู่วันที่ 2 ธ.ค. รวม 4 วัน จะเริ่มตั้งแต่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เมื่อไม่เป็นผลก็จะไต่ระดับข้อเรียกร้องเป็นล้มรัฐบาล...และไปสู่เป้าหมายสูงสุด...

3) ระหว่างการต่อสู้...จะมีการต่อรองกับผู้มีอำนาจรัฐ ประมาณว่าสู้ไปเจรจาไป ต่อรองไป และในที่สุดอาจมีปฏิบัติการสร้างสถานการณ์ทำให้ที่ชุมนุมบาดเจ็บล้มตาย ซึ่งจะนำไปสู่การจลาจล เผาบ้านเผาเมือง กองกำลังใต้ดินหรือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย (แต่อยู่ข้างทักษิณ) จะลุกฮือปฏิบัติการซึ่งอาจจะไม่เพียงในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่อาจจะเลือกพื้นที่ในต่างจังหวัดด้วย

4) แกนนำคนเสื้อแดงปีก 3 เกลอหัวขวดโม้ว่าหนนี้จะมีผู้มาชุมนุมเป็นล้านคน ตอนหลังๆ บอกว่าอย่างน้อย 5 แสนคน ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้น 4 วันเศษของปฏิบัติการรอบนี้อาจเป็นปฏิบัติการรอบแรก ก่อนจะพักการชุมนุมรอบแรก แล้วมาลุยใหม่ในกลางเดือนธ.ค.หรือเลื่อนไปหลังปีใหม่

5) ถ้ารอบนี้น็อกรัฐบาลไม่ลง โค่นอำมาตย์ไม่ได้ แนวรบคนเสื้อแดงอาจระส่ำ มีโอกาสที่จะเกิดปฏิบัติการอิสระของคนเสื้อแดงบางปีก ความรุนแรงอาจจะกระจัดกระจาย

6) ไม่ว่าจะชุมนุมกี่รอบ เป้าหมายที่แท้จริงของทักษิณและแกนนำเสื้อแดงก็คือ รัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลเฉพาะกาลที่มีภารกิจสำคัญคือ นิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่าย (รวมทั้งทุกคดีของทักษิณ ชินวัตร) ที่ผ่านมาทั้งทักษิณ ชินวัตร และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พูดซ้ำแล้วซ้ำอีกในความหมายที่ว่า..จะขอพึ่งพระบารมีจากพระเจ้าอยู่หัว พระองค์จะต้องลงมาคลี่คลายสถานการณ์

นั่นหมายความว่าบ้านเมืองจะต้องปั่นป่วนจลาจลนองเลือด ฆ่ากันกลางเมือง ล้มตายแบบพฤษภาทมิฬหรือหนักหนากว่านั้น

นับเป็นความหมิ่นเหม่ บังอาจ เป็นความมิบังควรเป็นอย่างยิ่ง เข้าลักษณะ “ดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก แยกแผ่นดิน”

ไม่มีใครที่จะบังอาจไปกำหนดให้พระองค์ท่านเสด็จฯ หรือไม่เสด็จฯ ลงมาได้... เป็นพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์...

หาไม่แล้วถ้ายึดตามสูตรนักโทษชายทักษิณ ในห้วงเมษาเลือดที่ผ่านมา พระองค์ท่านก็ต้องเสด็จฯ ลงมาคลี่คลายสถานการณ์น่ะสิ..

โธ่..แม้วเอ๊ย

หันมามองปฏิบัติการของรัฐบาลบ้าง ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตไว้เป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้ขบคิดกันต่อก็คือ

1) รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ควบคุมสถานการณ์การเดินทางไปทำภารกิจของนายกรัฐมนตรี ที่เชียงใหม่ในวันที่ 29 พ.ย. และใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ดูแลการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ

กรณีกรุงเทพฯ ผมไม่ติดใจใดๆ แต่กรณีเชียงใหม่ผมยังมองต่างเล็กน้อยว่า ไม่น่าจะถึงขั้นใช้ความ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพราะเป็นการให้ค่าให้ราคากับแดงอันธพาลไม่กี่คนมากเกินไป ต่อไปมันจะกลายเป็นว่านายกฯ ไปจังหวัดไหนโดนแดงอันธพาลไม่กี่คนพูดจาข่มขู่นิดหน่อย ก็คงต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ กันอย่างพร่ำเพรื่อ แต่ก็เอาเถอะ..ถ้าจะคิดกันว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน พ่อสอนไว้” ก็ไม่ว่ากัน

2) กองทัพภายใต้การนำของ “3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.จะมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับกองกำลังเสื้อแดง และหากสถานการณ์นองเลือดจลาจลคนเหล่านี้จะเป็นศูนย์อำนาจสำคัญศูนย์อำนาจหนึ่งที่ชี้ขาดว่าจะให้บ้านเมืองเดินไปทางไหน

3) แนวรบของรัฐบาลโดยรวมต้องบอกว่า 11 เดือนที่ผ่านมา เป็น 11 เดือนแห่งความผิดพลาดและล้มเหลวในด้านการใช้สื่อสารมวลชนของรัฐเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อประชาชน เปรียบเทียบกับการใช้สื่อของกองทัพเสื้อแดงแล้ววันนี้ถือว่า..แพ้ขาด

ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ขาหนึ่งของรัฐบาลคือพรรคภูมิใจไทยของเนวิน ชิดชอบ พยายามที่จะใช้สื่อรุกกลับทักษิณ-คนเสื้อแดงโดยการใช้เครือข่ายวิทยุชุมชน 90.25 MHz ในนาม “คลื่นปกป้องสถาบัน” แม้เนื้อหาบางส่วนจะโดนใจ แต่อีกหลายส่วนก็เป็นตัวเร่งให้เกิดสถานการณ์เผชิญหน้า นั่นยังไม่นับรวมที่คลื่นนี้เปิดศึกกับทุกสีเสื้อ แทนที่จะช่วยกันสลายสี...

4) ในส่วนของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงถึงเวลาที่จะต้องทำการบ้านเรื่องงานด้านความมั่นคงให้มากขึ้น และหาจุดความเหมาะสมให้กับที่ยืนที่อยู่ของตัวเอง ไม่ใช่เล่นเกมอำนาจ แต่เพื่อทำให้อำนาจของนายกฯ มีอยู่จริงและโดยชอบธรรม

5) การยุบสภาฯ ในนาทีนี้ก็คงแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นทางเลือกสุดท้ายที่อาจจะช่วยรักษาระบอบ-วิถีการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ได้ ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่าก่อนจะยุบสภาฯ น่าจะมีอะไรที่เป็นสัตยาบัน-สัญญาประชาคมของความเห็นที่แตกต่างบ้าง...

0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0

ขอใช้เนื้อที่ตอนท้ายคอลัมน์นี้ แสดงความเสียใจกับครอบครัวสุนทรเวช ที่สูญเสียอดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 สมัคร สุนทรเวช ไปเมื่อ 08.48 น. วันที่ 24 พ.ย.2552 ขณะวัย 74 ปี

แม้กว่า 10 ปีที่ผ่านมาจะไม่ได้พบปะสนทนากับคุณสมัครเลย (แถมยืนอยู่คนละมุมคนละโลกกับท่านอีกต่างหาก) แต่ก่อนหน้านั้นโดยเฉพาะในช่วงปี 2524 -2537 ได้พบปะแลกเปลี่ยนกับท่านอยู่เรื่อยๆ บางช่วงเวลาคุณสมัครคือ “แหล่งข่าว” คนหนึ่งของผม..คำว่า แหล่งข่าว หมายความว่าเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งของเราที่ต้องให้เกียรติ เคารพกันมิได้หมายความว่าเราต้องเชื่อหรือไม่เชื่อ...

ด้วยใจจริง ขออโหสิกรรม และขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของท่าน...

สมัคร สุนทรเวช นักการเมืองผู้สร้างสีสันและกรณีศึกษาทางการเมืองได้มากมายจริงๆ

                                       samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น