“ไอ้ตู่” ด่า “สุรชัย” เลวที่สุด ใส่ร้ายดอดพบ “ยี้ห้อย” ขู่เอาเรื่องแน่

แดงถ่อยกัดกันเอง “ไอ้ตู่” ด่า “สุรชัย” เลวที่สุดกล่าวหา 3 เกลอดอดพบ “ยี้ห้อย” ยันไม่เคยคบหาคนทรยศ ขู่จัดการตัดปัญหารำคาญ ทั้งซัด “สรรเสริญ” โกหกหน้าตาย อ้างไม่ได้อัดเสียงประชุมนายกฯ คุยรอดูคลิปของจริงเร็วนี้ เชื่อจับ 2 พนักงานเอสซี หวังพุ่งเป้าคนตระกูลชินวัตร ยังต้องป่วนนัดชุมนุม 5 ก.ย.นี้ ลั่นประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงอีก เลื่อนอีก

วันนี้ (1 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 14.05 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช.แถลงถึงกรณีที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ระบุว่า การประชุมเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2552 ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ที่ห้องประชุมยุทธการ ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมหารือกับผบ.ทุกเหล่าทัพ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เสนาธิการ ทบ.แม่ทัพภาค 1 ในขณะนั้น ไม่มีการบันทึกเทป ว่า เป็นการพูดเท็จโดยสิ้นเชิง เสียเกียรติภูมิของชายชาติทหารจนเพื่อนทหารของตนรู้สึกอายแทน เพราะกติกาของสถานที่ดังกล่าวจะมีการบันทึกเทปทุกครั้ง หากมีการประชุมตั้งแต่ระดับ ผบ.พันขึ้นไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่การประชุมที่มีบุคคลระดับผู้นำประเทศจะไม่มีการบันทึกเทป คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีที่ออกมานั้นฟังน้ำเสียงแล้วไม่ใช่มาจากรายการแต่มาจากในที่ประชุม ตนยืนยันว่า เสียงนี้ออกมาจากกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ แต่มีการดูดเสียงผู้ที่เกี่ยวข้องออกไป ส่วนการที่คลิปดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่นั้นเพราะเกิดการหักหลังในหมู่คนที่เคยโค่นอำนาจร่วมกันมา ซึ่งความแค้นจะมากกว่าปกติ 2-3 เท่า

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) เข้าจับกุม 2 พนักงานแผนกธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่อาคารชินวัตร 3 นั้น เมื่อดูรายชื่อนายตำรวจที่เข้ามาทำเรื่องนี้ปรากฏชื่อของ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก.สามี นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ซึ่งชัดเจนว่าเป็นประชาธิปัตย์ทั้งแท่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีการชี้แจงไปบ้างแล้วจากบริษัท เอสซี ว่า เป็นการได้รับมาแล้วส่งต่อไป ซึ่งยังไม่มีการเอาผิดเรื่องตัดต่อ แต่มีกระบวนการพยายามโยงใยให้เป็นถึงต้นตอ โฟกัสไปที่คนตระกูลชินวัตรเพื่อกลบเกลื่อนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิปและที่มาที่ไปของเสียงดังกล่าว วันนี้เรากำลังมองอย่างใจเย็น รอฉบับจริงออกมา

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ยืนยันว่า ยังเป็นไปตามเดิม คือ วันที่ 5 ก.ย.เวลา 13.00-24.00 น.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะใช้วิธีเตรียมพร้อมเรียกประชุม ครม.ฉุกเฉินเพื่อประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นประชาธิปไตย หากรัฐบาลตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเราก็จะเลื่อนการชุมนุมออกไปอีกเป็นวันที่ 12 ก.ย.อย่างไรก็ตาม สำหรับการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีรัฐประหารนั้น ยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในวันที่ 5 ก.ย.ระหว่างที่กลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมจะทำอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า หากประกาศในวันดังกล่าวเชื่อว่าป้องกันไม่ทันแน่ ส่วนตัวคิดว่าวันนี้รัฐบาลไม่กลัวคนเสื้อแดงมากเท่าไร แต่กลัวพวกเดียวกันเองมากกว่า ส่วนกรณีที่ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม ระบุว่า 3 เกลอไปพบ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นับจากนี้กลุ่มตนและกลุ่มสยามแดงของนายสุรชัย คงจะขาดจากความเป็นเพื่อน เพราะสิ่งที่นายสุรชัยพูดเป็นความเท็จทั้งสิ้น ถ้าตนนิ่งเฉย ประชาชนก็จะคิดว่าเป็นความจริง จึงต้องชี้แจง ถ้านายสุรชัยเป็นมิตรจริง ก็ไม่ควรนำความเท็จขึ้นมากล่าว เพราะจะทำให้ศัตรูนำข้อมูลมาใส่ร้ายพวกพวกเราได้ ไม่ทราบว่าสมัยนายสุรชัยอยู่พรรคคอมมิวนิสต์เขาเคยสอนหรือไม่ สมัยพวกตนรณรงค์ล่าชื่อถวายฎีกานายสุรชัยก็พูดผ่านสื่อคัดค้าน ครั้นพอตนชุมนุมที่สนามหลวง เพื่อเตรียมยื่นถวายฎีกา นายสุรชัย ก็จะมาขอขึ้นเวทีปราศรัย ถามว่าอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นคอมมิวนิสต์ตลบแตลงได้หรือไม่ ยืนยันว่า ตั้งแต่นายเนวิน ทรยศต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ พวกตนก็ไม่เคยพบนายเนวินอีกเลย และที่นายสุรชัย กล่าวหาว่า พวกตนต่อสู้เพื่อหวังเป็นรัฐมนตรีนั้น ขอเรียนว่า เวลานี้ตนเป็น ส.ส. อนาคตทางการเมืองต่อไปจะเป็นอะไรก็ไม่ทราบได้ ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช.อีกคนนั้น แม้จะมีการเลือกตั้งวันนี้และได้เป็น ส.ส.แต่ก็เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะอายุไม่ถึง แต่ นายสุรชัย ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ได้คะแนนเพียงเก้าพันกว่าคะแนน ขณะที่ผู้ชนะได้เป็นแสนคะแนน

“ผม 3 คนหารือกันแล้วเห็นว่า ถ้าศัตรูโจมตีด่าว่าก็จะไม่โกรธเท่าบุคคลที่เคยเป็นมิตรมาทำร้ายกันเช่นนี้ เพราะฉะนั้นต่างคนต่างอยู่ ต่อไปถ้านายสุรชัยพาดพิงอะไรพวกผมอีกก็จำเป็นต้องให้ฝ่ายกฏหมายฟ้องร้อง สำหรับ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ระบุว่า พวกเราเรียกระดมประชาชน เพราะหวังผลประโยชน์บางอย่างนั้น ผมก็ไม่อยากพูด แต่ขณะที่เราชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพเผ่นหนีโดยไม่บอกเพื่อนเลย ไปก่อนที่รัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เสียด้วยซ้ำ และเรื่องนี้เราไม่เคยห่วง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเข้าใจดีเรื่องระหว่างกลุ่มเรากับกลุ่มนายจักรภพ สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นจะมีคนมาร่วมเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่กลุ่มสยามแดงต้องมากังวลแทน ไม่มีคน ผม 3 คนกลับบ้าน ก็เท่านั้น” นายจตุพร กล่าว