เคาะข่าวริมโขง : “มาร์ค” เล่นกับไฟ รู้เต็มอกยื้อ 7 ตุลาฯ ช่วย “เทพอสูร” อุ้ม “ป๊อด” หลังได้หน้าปราบโกง สธ. แต่ฟอร์มงึกๆ งักๆ กลับมาทำเป๋ “สุเทพ” เดินเกมตะแบง กม. ช่วยน้องเลิฟ “บิ๊กป้อม”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันอังคารที่ 19 มกราคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้เชิญนายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายพิเชฏฐ พัฒนโชติ ปรึกษา รมว.สาธารณสุข มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีการยื้อมติ ป.ป.ช.เอาผิด 3 นายพลสั่งสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ หน้ารัฐสภา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
น.ส.วรรษมน กล่าวว่า เรื่องความวุ่นวายของ ก.ตร.ที่ดูเหมือนตอนนี้ จะมีขบวนการช่วยเหลือ 3 นายพล ให้พ้นผิดและกลับเข้ารับราชการ ได้มีการนำไปถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะที่เป็นประธาน ก.ตร.ได้นำมติ ก.ตร.อุ้ม 3 นายพล โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วันนี้ไม่ได้มีการนำเป็นวาระเข้าสู่การพิจารณา ครม. ซึ่งขั้นตอนต่อไปของคดี 7 ตุลาฯ อาจจะมีการส่งให้กฤษฏีกาตีความอีกครั้ง ด้านนายสุเทพกล่าวกรณีนี้ว่า ป.ป.ช.อาจไม่มีอำนาจชี้มูลในคดีที่ไม่เกี่ยวกับการทุจริต โดยความผิดของ 3 นายพล หากว่ากันไปตามจริงก็คงเป็นเรื่องบกพร่องทางวินัยราชการ
นายพิเชฏฐกล่าวประเด็นเดียวกันว่า ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานทุจริตหรือผิดวินัย หากเจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าที่มิชอบ ป.ป.ช.ก็มีอาจลงมติชี้มูล โดยเฉพาะ กรณีนี้มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชนด้วยอาวุธที่เป็นอันตราย ดังนั้น เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้น จะมาอ้างแบบข้างๆ คูๆ ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีบรรทัดฐานอยู่แล้วว่าในปี 2546 ทางศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยแล้วว่าคดีใดที่จะส่งมาให้พิจารณา ต้องเกิดขึ้นด้วยสาเหตุความขัดแย้งระหว่างองค์กรภายใต้ศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น ก.ตร.ไม่ได้เป็นองค์กรในสิทธิ์ดังกล่าว จึงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ที่น่าคิดคือ ในเมื่อนายกฯ รู้อยู่แล้วว่าทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง ทำไมถึงไม่จัดการให้เด็ดขาด
นายประพันธ์กล่าวว่า นายกฯ เพิ่งได้หน้าจากการปราบทุจริตในกระทรวงสาธาณสุข แต่เวลานี้ กลับต้องมาเสียสูญอีกครั้งกับเรื่องความวุ่นวายของ ก.ตร. ที่เวลานี้นายอภิสิทธิ์มีท่าทีจะส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยส่งไปให้ตีความแล้วครั้งหนึ่ง โดยคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด 3 นายพล ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2551 ดังนั้น เวลานี้ผ่านมาเกือบปีแล้วที่เรื่องดังกล่าวยังมีการยื้อเพื่อช่วยคนผิด ทั้งที่จริงต้องมีการพิจารณาบทลงโทษภายใน 30 วัน แต่ก็มีการเตะถ่วงยังไม่ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการโยงว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร เสมือนเป็นการยืมมือ ครม.เพื่อทำให้ภายนอกมองว่าเป็นความขัดแย้ง
นายชัชวาลย์กล่าวว่า ตนอยากฝากนายอภิสิทธิ์ว่าอย่าไปเล่นตามเกมนายสุเทพมากนัก เพราะไม่เช่นนั้นนายกฯ อาจจะกลายเป็น “เทพอสูร” เนื่องจากคดี 7 ตุลาฯ มีการโยงเรื่องกฎหมาย เพื่อทำให้เกิดความสับสน จะได้ออกมาตะแบงช่วยเหลือคนผิด ซึ่งเรื่องนี้ นายสุเทพ ถือว่าใช้ไม่ได้ ที่ปกป้อง พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อเอาใจตำรวจ และเกรงใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม
“วุฒิภาวะของนายสุเทพถือเป็นอันตรายต่อพรรคประชาธิปัตย์ โดยเวลานี้คนในพรรคที่เป็นมือกฏหมาย กำลังรู้สึกเป็นห่วงนายอภิสิทธิ์ เพราะว่ากำลังเล่นกับไฟ นอกจากนี้ยังปล่อยให้นายสุเทพเอาเรื่องนี้มาเล่น ทั้งที่มันเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงยังนับเป็นการเหยียบย่ำอำนาจ ป.ป.ช.ให้จมดิน” นายชัชวาลย์กล่าว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันอังคารที่ 19 มกราคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้เชิญนายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายพิเชฏฐ พัฒนโชติ ปรึกษา รมว.สาธารณสุข มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีการยื้อมติ ป.ป.ช.เอาผิด 3 นายพลสั่งสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ หน้ารัฐสภา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
น.ส.วรรษมน กล่าวว่า เรื่องความวุ่นวายของ ก.ตร.ที่ดูเหมือนตอนนี้ จะมีขบวนการช่วยเหลือ 3 นายพล ให้พ้นผิดและกลับเข้ารับราชการ ได้มีการนำไปถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะที่เป็นประธาน ก.ตร.ได้นำมติ ก.ตร.อุ้ม 3 นายพล โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วันนี้ไม่ได้มีการนำเป็นวาระเข้าสู่การพิจารณา ครม. ซึ่งขั้นตอนต่อไปของคดี 7 ตุลาฯ อาจจะมีการส่งให้กฤษฏีกาตีความอีกครั้ง ด้านนายสุเทพกล่าวกรณีนี้ว่า ป.ป.ช.อาจไม่มีอำนาจชี้มูลในคดีที่ไม่เกี่ยวกับการทุจริต โดยความผิดของ 3 นายพล หากว่ากันไปตามจริงก็คงเป็นเรื่องบกพร่องทางวินัยราชการ
นายพิเชฏฐกล่าวประเด็นเดียวกันว่า ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานทุจริตหรือผิดวินัย หากเจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าที่มิชอบ ป.ป.ช.ก็มีอาจลงมติชี้มูล โดยเฉพาะ กรณีนี้มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชนด้วยอาวุธที่เป็นอันตราย ดังนั้น เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้น จะมาอ้างแบบข้างๆ คูๆ ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีบรรทัดฐานอยู่แล้วว่าในปี 2546 ทางศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยแล้วว่าคดีใดที่จะส่งมาให้พิจารณา ต้องเกิดขึ้นด้วยสาเหตุความขัดแย้งระหว่างองค์กรภายใต้ศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น ก.ตร.ไม่ได้เป็นองค์กรในสิทธิ์ดังกล่าว จึงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ที่น่าคิดคือ ในเมื่อนายกฯ รู้อยู่แล้วว่าทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง ทำไมถึงไม่จัดการให้เด็ดขาด
นายประพันธ์กล่าวว่า นายกฯ เพิ่งได้หน้าจากการปราบทุจริตในกระทรวงสาธาณสุข แต่เวลานี้ กลับต้องมาเสียสูญอีกครั้งกับเรื่องความวุ่นวายของ ก.ตร. ที่เวลานี้นายอภิสิทธิ์มีท่าทีจะส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยส่งไปให้ตีความแล้วครั้งหนึ่ง โดยคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด 3 นายพล ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2551 ดังนั้น เวลานี้ผ่านมาเกือบปีแล้วที่เรื่องดังกล่าวยังมีการยื้อเพื่อช่วยคนผิด ทั้งที่จริงต้องมีการพิจารณาบทลงโทษภายใน 30 วัน แต่ก็มีการเตะถ่วงยังไม่ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการโยงว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร เสมือนเป็นการยืมมือ ครม.เพื่อทำให้ภายนอกมองว่าเป็นความขัดแย้ง
นายชัชวาลย์กล่าวว่า ตนอยากฝากนายอภิสิทธิ์ว่าอย่าไปเล่นตามเกมนายสุเทพมากนัก เพราะไม่เช่นนั้นนายกฯ อาจจะกลายเป็น “เทพอสูร” เนื่องจากคดี 7 ตุลาฯ มีการโยงเรื่องกฎหมาย เพื่อทำให้เกิดความสับสน จะได้ออกมาตะแบงช่วยเหลือคนผิด ซึ่งเรื่องนี้ นายสุเทพ ถือว่าใช้ไม่ได้ ที่ปกป้อง พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อเอาใจตำรวจ และเกรงใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม
“วุฒิภาวะของนายสุเทพถือเป็นอันตรายต่อพรรคประชาธิปัตย์ โดยเวลานี้คนในพรรคที่เป็นมือกฏหมาย กำลังรู้สึกเป็นห่วงนายอภิสิทธิ์ เพราะว่ากำลังเล่นกับไฟ นอกจากนี้ยังปล่อยให้นายสุเทพเอาเรื่องนี้มาเล่น ทั้งที่มันเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงยังนับเป็นการเหยียบย่ำอำนาจ ป.ป.ช.ให้จมดิน” นายชัชวาลย์กล่าว