“เทพเทือก” อ้างมติ ก.ตร.อุ้ม 3 นายพลแค่เห็นผิดวินัย ไม่ใช่ทุจริตร้ายแรง พร้อมเลี่ยงตอบข้อกฎหมายส่งศาลตีความหรือไม่อ้างไม่แม่น โบ้ยนายกฯ คนตัดสิน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเสนอให้ ก.ตร.หารือกับทางกฤษฎีกา หากยังมีข้อติดใจสงสัยว่า เรื่องนี้ต้องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาตินำเสนอเรื่องมาถึงนายกฯก่อนที่นายกฯจะตัดสินใจว่า จะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่ให้ความเห็น เมื่อได้ความเห็นมาแล้วจะวินิจฉัยอย่างไร ถือเป็นดุลพินิจของนายกฯ แต่ที่เป็นประเด็นเพราะมีข่าวออกไปก่อนที่เรื่องจะถึงนายกฯ ส่วนที่มีการนำเสนอให้ไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ตนเคยอธิบายไปแล้วว่า หากหัวหน้าฝ่ายบริหารสั่งการอย่างไรต้องถือเป็นข้อยุติ หากผู้เสียหายเห็นว่าไม่สามารถพึ่งพาช่องทางดังกล่าวได้ ก็ต้องไปหาช่องทางของศาลปกครองหรืออะไรก็ว่าไป ซึ่งในการประชุม ก.ตรได้มีการหยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาเทียบเคียงด้วย แต่ในคำวินิจฉัยเป็นกรณีเรื่องการทุจริต
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งและไม่ได้มีปัญหาเรื่องการตีความกฎหมาย มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้เรียนกับนายกฯไปว่า ที่ประชุม ก.ตร. นำเหตุผลอะไรมาพูดกันบ้าง ส่วนการพิจารณาขึ้นอยู่กับนายกฯ ต่อข้อถามว่า แต่อำนาจของ ป.ป.ช.จะพิจารณาในประเด็นที่ทุจริตต่อหน้าที่ในกรณี 3 นายตำรวจ เข้าข่ายเทียบเคียงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ ก.ตร.ยันมติเดิมเพราะเป็นเรื่องของวินัยไม่ใช่เรื่องของการทุจริต ซึ่งเป็นการพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เห็น ที่ผู้เสียหายนำมาแสดงว่าไม่ใช่การทุจริต
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ ก.ตร.ยันมติซึ่งสวนทางกับการชี้มูลของ ป.ป.ช.ที่เป็นองค์กรอิสระ จะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์กรอิสระลดลง นายสุเทพ กล่าวว่า แล้วแต่จะมอง เพราะคณะกรรมการ ก.ตร.ก็ดี หรือ ก.พ.ก็ดี ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ คนในสังคมประชาธิปไตยมีสิทธิที่จะมองหรือวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ เมื่อถามว่า มาตรา 92 ของกฎหมาย ป.ป.ช.ระบุว่า คนที่สามารถอุทธรณ์การชี้มูลได้มีเพียงแค่อัยการกับศาลเท่านั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องดูไปตามเหตุผล ตนไม่ได้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่างที่บอกไปแล้วว่า หากไปศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ไปศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าไปไม่ได้ก็ไปศาลปกครอง เหมือนที่นายกฯระบุว่า องค์กรอิสระต้องมีการคานอำนาจกัน