xs
xsm
sm
md
lg

กฤษฎีกาโยน “มาร์ค” ตัดสินถ้าไม่ถูก กม.ก็ไม่ต้องทำ ก.ตร.ส่งประเด็นเก่าอาจได้คำตอบเดิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เลขาฯ กฤษฎีกาชี้มติ ก.ตร. ตีกลับมติ ป.ป.ช. มีคำพิพากษาแล้ว ชี้ถ้าเป็นประเด็นเก่าก็คงไม่ต้องยื่นเข้าคณะกรรมการ แนะนายกฯ ถ้าเห็นว่าไม่ถูกกฎหมายก็ไม่ต้องปฏิบัติตาม



วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โยนให้พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ไปขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา จากกรณีที่ ก.ตร. มีมติขัดกับ ป.ป.ช.ในการให้ 3 นายตำรวจกลับเข้ารับราชการจากเหตุการณ์สลายม็อบ 7 ตุลา ว่า ตนยังไม่เห็นเรื่อง เห็นเพียงข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น ส่วนมติ ก.ตร.ตีกลับมาที่ ป.ป.ช.ได้หรือไม่นั้น เลขาฯ กฤษฎีกากล่าวว่า “ก็มีคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้วเรื่องมาตรา 96 ของกฎหมาย ป.ป.ช.”

เมื่อถามว่าถ้า ครม.ส่งขอความเห็นอีกครั้ง กฤษฎีกาจะยืนตามความเห็นเดิมหรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าส่งไปหารือในประเด็นอะไร เมื่อถามว่าครั้งนี้แตกต่างจากความเห็นของกฤษฎีกาเมื่อปี 2552 อย่างไรทำไม พล.ต.อ.ปทีป ถึงต้องส่งเรื่องไปถามอีก คุณพรทิพย์ กล่าวว่า ตอนนั้นหารือว่าเรื่องนี้สามารถส่งศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ซึ่งครั้งนี้ก็น่าจะประเด็นใกล้เคียงกันคือว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ตนยังไม่ทราบว่าก.ตร.จะหารือเข้ามาว่าอย่างไรก็ต้องขอดูก่อนว่าหารือว่าอย่างไร

“ถ้าหากว่าหารือในประเด็นที่เคยให้ความเห็นไว้แล้วก็อาจจะให้ความเห็นเดิมมา แต่ถ้าหากว่าเป็นประเด็นใหม่ก็คงจะเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกา” คุณพรทิพย์กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนั้นกฤษฎีกาเคยให้ความเห็นว่าไม่น่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ใช่หรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า ดูในรัฐธรรมนูญปี 2550 เขียนไม่เหมือนกับปี 2540 เพราะว่าปี 2550 ต้องมีความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือ คณะรัฐมนตรี ซึ่ง ก.ตร.ก็ไม่ใช่องค์กรตามรัฐธรรมนูญ แล้วเคยให้ความเห็นมาแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของ ครม. แต่เป็นเรื่องของ ก.ตร.

เมื่อถามว่า แสดงว่ามติ ครม.เมื่อปี 2546 ที่ให้ครม.ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญถือว่ามตินี้ก็ยกเลิกไปเลยใช่หรือไม่ คุณพรทิพย์ กล่าวว่า ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นรัฐธรรมนูญปี 2540 ป.ป.ช ขอหารือเอง เพราะว่ารัฐธรรมนูญยังเปิดช่องให้หน่วยงานหารือในปัญหาของตัวเองได้ มันจึงเป็นคนละประเด็นไปแล้ว

เมื่อถามว่า ถ้าเช่นนั้นทางออกก็มีทางเดียวคือไปฟ้องศาลปกครอง คุณพรทิพย์กล่าวว่า ตามกระบวนการที่เคยทำมาถ้าหากว่าผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษอุทธรณ์แล้วผู้มีอำนาจอุทธรณ์พิจารณา ถ้าตามกฎหมาย ป.ป.ช.ก็ต้องพิจารณา เขาใช้ดุลพินิจได้อย่างเดียวแต่พิจารณาในเรื่อฐานความผิดไม่ได้ ถึงตอนนั้นผู้ที่ถูกลงโทษก็สามารถที่จะเสนอเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณาได้

เมื่อถามว่า 3 นายพลจะอ้างได้หรือไม่ว่า การอุทธรณ์ลงโทษ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจ คุณพรทิพย์ กล่าวว่า ถ้าจะอุทธรณ์ ก.ตร.ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งลงโทษ ถ้าจะโต้แย้งความเห็นของ ปปช.ก็น่าจะไปโต้แย้งที่ศาลรัฐธรรมนูญว่า ป.ป.ช.ผิดถูกอย่างไร

เมื่อถามว่า ที่ ก.ตร.มีมติให้ 3 นายพลกลับเข้ามาทำงาน นายกฯ ต้องปฏิบัติตามหรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า ความจริง ก.ตร.มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร. และโดยปกติถ้าเป็นความเห็นที่ไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องไปปฏิบัติตาม ถ้าเป็นความเห็นที่ชอบด้วยกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตาม

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม ก.ตร.ถ้าเป็นความเห็นโดยมิชอบในเรื่องของการอุทธรณ์คำสั่ง คุณพรทิพย์กล่าวว่า การอุทธรณ์คำสั่ง ก.ตร.เขาพิจารณาแล้ว ส่วนจะปฏิบัติหรือไม่คงเป็นเรื่องที่จะสั่งให้กลับเข้ารับราชการใหม่หรือเปล่าคือตรงนั้น นอกจากนี้ ในเรื่องของถ้าไม่ใช่ตัวผบ.ตร.เข้าใจว่าจะไม่ใช่อำนาจนายกฯ แต่จะเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. แต่ ผบ.ตร.ก็เกษียณแล้วรู้สึกว่ายังเป็นปัญหาไม่รู้ว่าจะไปทางไหน

เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นแค่เสียงเดียวใน ก.ตร. แบบนี้ต้องปฏิบัติตามมติ ก.ตร.หรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า อย่างที่เรียนคือ ถ้าหากว่าเป็นมติที่ชอบก็ต้องปฏิบัติตาม เมื่อถามว่ากฤษฎีกาต้องตีความว่า มติ ก.ตร.ชอบด้วยกฎหมายใช่หรือไม่ เลขาฯ กฤษฎีกา กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่า ก.ตร.ถามว่าอย่างไร แต่ย้ำว่าถ้าเป็นเรื่องที่เคยมีความเห็นแล้วก็มีระเบียบที่เปิดช่องให้ส่ง ความเห็นที่เคยให้ความเห็นแล้วกลับไปได้ แต่ถ้าเป็นประเด็นใหม่ที่ยังไม่เคยมีความเห็นก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการฯ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์
กำลังโหลดความคิดเห็น