“อภิสิทธิ์” เฉียบลั่นมติ ก.ตร.กลับลำคำวินิจฉัย ป.ป.ช.ไม่ได้ กรณีบิ๊ก 3 ตำรวจสั่งสลายพันธมิตรฯ ยันไม่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณา ชี้อดีตศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว แนะให้ผู้ถูกกล่าวโทษไปร้องศาลปกครองเอง เตรียมเรียก “สุเทพ” มาชี้แจง ก่อนนำข้อเท็จจริงไปแจ้งให้ทาง ก.ตร.ทราบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (10 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เตรียมเสนอให้นายกรัฐมนตรี นำมติของ ก.ตร.เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา กรณี ก.ตร.กลับมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ให้ไล่ออก พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภจ.อุดรธานี ว่าคงไม่มีความจำเป็น เพราะทางกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นมาอย่างชัดเจนว่า เรื่องนี้มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วในอดีตว่า การอุทธรณ์ตามกฎหมายบริหารงานบุคคล จะอุทธรณ์ได้เฉพาะดุลพินิจในการสั่งลงโทษ ดังนั้นจะไปกลับข้อเท็จจริงหรือเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่การอุทธรณ์ดุลพินิจในการสั่งลงโทษ
“สมมติว่าสอบมาว่าผิดวินัยร้ายแรง มีการลงโทษไล่ออกก็อาจจะอุทธรณ์ให้เป็นปลดออกได้ อย่างนี้เป็นต้น แต่จะไปอุทธรณ์แล้วกลับสิ่งที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยมาไม่ได้ อันนี้ชัดเจนและมีคำวินิจฉัยแล้ว ซึ่งผมกำลังจะแจ้งความเห็นของกฤษฎีกานี้ให้นายสุเทพดำเนินการต่อไป” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า เท่ากับว่า ก.ตร.วันนี้ทำเกินหน้าที่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ป.ป.ช.แน่นอน เมื่อถามว่าผลของมันจะเป็นอย่างไร เพราะมีมติให้ 3 นายตำรวจกลับเข้ามารับราชการได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องให้นายสุเทพแจ้ง ก.ตร.ไปทบทวนเรื่องนี้ เพราะมันจะขัดกับรัฐธรรมนูญ เพราะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรนูญไปแล้ว กรณีอดีตรัฐมนตรีอธิบดีกรมปาะชาสัมพันธ์ที่เคยทำแบบเดียวกัน คือ ป.ป.ช.ส่งเรื่องมา ก.พ.ลงโทษ ไปอุทธรณ์ แล้วไปกลับเกินเลยก้าวล่วงดุลพินิจของ ป.ป.ช.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญบอกไม่มีอำนาจทำเช่นนั้นได้
เมื่อถามว่า กรณี 3 นายตำรวจคงมติเรื่องการปลดออก ไม่มีการให้กลับเข้ามารับราชการ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถูกต้อง แต่บุคคลเหล่านี้สามารถที่จะไปขอความเป็นธรรมได้ ในช่องทางของศาลปกครอง ซึ่งในอดีตก็เคยมีศาลปกครองที่กลับคำวินิจฉัยที่เคยเกิดขึ้นจาก ป.ป.ช. ฉะนั้นการให้ความเป็นธรรมกับคนเหล่านี้ คือเมื่อกระบวนการตรงนี้สิ้นสุดลงท่านเหล่านี้สามารถไปร้องศาลปกครองได้ แต่ในส่วนของฝ่ายบริหาร ไม่มีอำนาจที่จะไปกลับคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ แต่หากเป็นศาลปกครองนั้นทำได้ เพราะเป็นองค์กรอิสระเช่นเดียวกัน เมื่อถามว่าจะแจ้งนายสุเทพเมื่อไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะแจ้งในวันจันทร์นี้ (11 ม.ค.)
เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลต้องเตรียมการอะไรหรือไม่ในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้รับแจ้งมติ ก.ตร.เพียงแต่เห็นจากข่าว ตนได้ปรารภเรื่องนี้ต่อทางกฤษฎีกาให้ช่วยค้นข้อกฎหมายมาให้หน่อย เพราะจำได้เคยมีปัญหาเช่นนี้มาก่อน ทางกฤษฎีกาโดยเลขาธิการกฤษฎีกาได้ทำหนังสือมาถึงตนเองแล้ว และจะแจ้งนายสุเทพต่อไป