“โฆษกมาร์ค” แสดงความมั่นใจพรรคร่วมไม่เปลี่ยนขั้ว เหน็บ “เหลิม” หาจุดยืนของ พท.ให้ได้ก่อนดอดพบ “เติ้ง” เร่งแก้ รธน. อัดเพื่อไทย งาช้างไม่งอกปากหมาอย่าถามหาสปิริตคนอื่น อ้าง “กอร์ปศักดิ์” ย้ายเก้าอี้ได้เพราะยังไม่โดนชี้มูล
วันนี้ (5 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า วันนี้สถานการณ์น่าจะคลี่คลายลง เพราะทุกฝ่ายในพรรคร่วมฯ สามารถทำความเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง และเชื่อว่าในการประชุมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 21 ม.ค.ก็น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งคิดว่าหลังจากนี้แรงกดดันหรือสถานการณ์เรื่องดังกล่าวคงจะเบาบางลง เพราะเชื่อในความสามารถของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ก็น่าจะใช้ความสามารถในการประสานงานเพื่อทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ เพราะปัญหาครั้งนี้ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งแรกหนักกว่า และนายสุเทพก็ใช้ความสามารถให้จับมือกันเป็นรัฐบาลได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้ประชาชนกังวลเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลและความแตกแยกของรัฐบาล เชื่อว่าวันนี้ทุกฝ่ายก็ออกมาปฏิเสธเรื่องการเปลี่ยนขั้วและพร้อมที่จะจับมือกันเพื่อที่จะพาประเทศชาติให้ผ่านวิกฤตไปได้
นายเทพไทกล่าวว่า ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังมีความเคลื่อนไหวที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จะพยายามหาหนทางเพื่อเข้าพบกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย จึงอยากถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม เข้าไปพบในฐานะอะไรและจะไปหารือเรื่องอะไร หากเป็นประเด็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญตามที่เป็นข่าวก็อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับไปทำความเข้าใจกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยก่อน ซึ่งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมายืนกระต่ายขาเดียวว่าจะไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ถ้าจะเข้าไปขอนายบรรหารทานข้าวเย็นสักมือก็คงไม่มีใครว่าอะไร
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายพร้องพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาพาดพิงกรณีที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง โดยโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวเย้ยประชดว่าการลาออกครั้งนี้เป็นการสร้างภาพและนายกฯ ไม่สามารถนำกฎเหล็ก 9 ข้อมาใช้ได้นั้น ยืนยันว่า การลาออกของนายวิทยาเป็นการแสดงสปิริตที่ดีของนักการเมือง การกล่าวหาว่าลาออกเพื่อสร้างภาพ ถือเป็นข้อกล่าวหาที่สูงเกินไป การที่นายวิทยาลาออกเป็นการตัดสินใจของตนเองเพื่อรักษามาตรฐานของพรรค และกฎเหล็กของนายกฯ ก็ไม่ใช้กับรัฐมนตรีของพรรคเท่านั้น แต่ใช้กับรัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่มีทางทราบว่ากฎเหล็กของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีกฎเหล็ก มีเพียงแต่กฎแห่งกรรมที่คนในพรรคเพื่อไทยโดนไปหลายคนแล้ว หากจะถามหาสปิริตจากพรรคเพื่อไทย คงยากเหมือนสุภาษิตที่ว่า “งาช้างไม่ออกจากปากสุนัขฉันใด สปิริตก็ไม่ออกจากพรรคเพื่อไทยฉันนั้น” จึงอยากให้โฆษกพรรคเพื่อไทยดูผลโพลล์การลาออกของนายวิทยาว่าสูงเพียงใดก่อนจะออกมาวิจารณในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า กฎเหล็กของนายกฯ ทั้ง 9 ข้อบังคับใช้กับรัฐมนตรีทุกคน แต่นายมานิต นพอมรบดี ยังไม่ลาออก นายเทพไทกล่าวว่า ต้องให้เวลากับนายมานิต เพราะเป็นคนของพรรคร่วม แต่เชื่อนายมานิตจะทำตามกฎเหล็กของนายกฯ เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่านายมานิตคงไม่สามารถย้ายไปนั่งกระทรวงอื่นได้ นายเทพไทกล่าวว่า คิดว่าคงไม่มีการย้าย
เมื่อถามว่า แต่กรณีของนายกอร์ปศักดิ์เองที่มีเรื่องการทุจริตยังสามารถย้ายตำแหน่งได้ นายเทพไทกล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์มีใครชี้มูลแล้วหรือยัง มีแต่ทางพรรคเพื่อไทยชี้มูลเท่านั้น ถ้าเอาตามพรรคเพื่อไทยคงต้องออกกันหมด