“เทพเทือก” เผยได้หารือกับแกนนำ ภท.แล้ว ย้ำเคารพการตัดสินใจของพรรคร่วมฯ มั่นใจ “ภท.-มานิต” จะไม่ฝืนกระแสสังคม และคงไม่แก้ปัญหาด้วยการสลับตำแหน่งไปนั่งในกระทรวงอื่น คาดชัดเจนหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยัน 9 กฎเหล็กของนายกฯ บังคับใช้กับ รมต.ทุกคน เผยตำแหน่ง รมว.สธ.ของ ปชป.จะชัดเจนพรุ่งนี้ เชื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาภายในพรรค
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้(5 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ กรณีที่พรรคภูมิใจไทยยังคงให้ นายมานิต นพอมรบดี อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไปว่า ได้ปรึกษากันแล้วและได้ย้ำให้แกนนำพรรคภูมิใจไทยได้ทราบถึงกฎ 9 ข้อนั้นจะใช้กับทุกคนที่เป็นรัฐมนตรี แต่เราก็เคารพ ระบบพรรคของแต่ละพรรคที่มีขั้นตอน มีกระบวนการในการตัดสินใจซึ่งไม่เหมือนกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของช่วงจังหวะ เวลาที่แต่ละพรรคจะไปดำเนินการเท่านั้น ส่วนความคืบหน้าต่อไปก็คงต้องให้เวลาเขาพิจารณากันก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลมีการพูดถึงการยึดหลักกฎ 9 ข้อ แต่ขณะเดียวกันนายก อร์ปศักดิ์ สภาวสุ ความผิดปรากฏขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ลาออก จะมีคำตอบที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงเรื่องของนายกอร์ปศักด์ พรรคได้ตัดสินใจกันไปแล้ว โดยพิจารณาให้ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ และเลือกนาย ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ไปดำรงตำแหน่งรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจแทน ซึ่งดำเนินการไว้แล้ว แต่ขั้นตอนการปรับเปลี่ยนก็ต้องรอเวลานิดหน่อย
เมื่อถามว่ากรณีของนายมานิต หากจะยึดเช่นเดียวกับนายกอร์ปศักดิ์ ก็สามารถย้ายไปอยู่กระทรวงอื่นได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ ไม่ได้ไปอยู่ในตำแหน่งครม.และบังเอิญเป็นช่วงจังหวะพอดีที่นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ลาออกจากครม. ซึ่งจริง ๆ แล้วนายกอร์ปศักดิ์ ก็คาดหวังมาตั้งแต่ตั้งครม.ใหม่ ๆ แล้วว่าจะดำรงตำแหน่งเลขาฯนายกฯมาก่อน เมื่อถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยแก้ปัญหาโดยขยับนายมานิต ไปกระทรวงอื่นพรรคประชาธิปัตย์รับได้หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาคงไม่ทำ ส่วนเขาจะเอาออกหรือไม่ ผมไม่ขอพูดดีกว่า เพราะเป็นเรื่องภายในพรรคของเขา ที่มีขั้นตอน มีเวลาของเขา
“พรรคภูมิใจไทยเขาต้องกำหนดเอง เมื่อนายมานิต ถูกกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยเขาก็คงจะคาดได้ว่าอาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เขาก็คงอาจจะคิดว่า ให้ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปก่อนเพราะในทางการเมือง บางพรรคเขาอาจเห็นว่าเรื่องทั้งหมดของนักการเมือง อาจจะต้องมีบทพิสูจน์กันในสภาผู้แทนราษฎร อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่กล้าเข้าไปก้าวล่วงว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไรได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แต่บอกว่าเมื่อเกิดเหตุเป็นที่สงสัยของประชาชนอย่างนี้ เราก็ต้องทำให้ชัดเจน และพรรคประชาธิปัตย์ก็ดำเนินการในส่วนของพรรคไปอย่างนี้” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงภาพลักษณ์รัฐบาลโดยรวมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าเป็นปกติ เมื่อถามว่านายกฯเสียงแข็งมาแต่ต้น ทำไมจึงยอมภูมิใจไทยที่ไม่ต้องให้คุณ มานิต ออก นายสุเทพ กล่าวว่า การจะออกวันนี้ พรุ่งนี้เลยก็คงเป็นไปไม่ได้ มันอาจต้องมีเวลา ไม่ได้มาหมายความว่านายกฯบอกออก แล้วต้องออกภายในอึดใจนั้นเลย คงไม่ใช่ เมื่อถามว่าการพูดคุยของแกนนำของภูมิใจไทยกับนายสุเทพ เมื่อคืน ก็เห็นว่ายังไม่ออก นายสุเทพ ย้อนมาทันทีว่าทำไมพวกคุณรู้ว่าตนคุยอะไรกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากรอจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คิดว่าความเสียหายจะตีกลับมาที่รัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า สมมติว่าถ้าเขาอยากจะให้มีการชี้แจงกันในสภา แน่นอนว่าก็อยู่ผลของการชี้แจง อยู่ที่ผลของข้อเท็จจริง ซึ่งในอดีตในทางการเมืองมันก็มีปัญหาเหมือนกัน ตนก็เคยมีปัญหาเองเหมือนกัน ตอนที่ถูกโจมตีเรื่องสปก. ตนลาออกไปก่อน แต่เมื่อถึงเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะไม่มีคนมาช่วยชี้แจงให้ ซึ่งตนคาดว่าพรรคภูมิใจไทยต้องการเวลาช่วงนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีคนชี้แจงแทน เมื่อถามว่าแต่หัวหน้ารัฐบาลยังอยู่ ก็น่าชี้แจงได้ รองนายกฯ กล่าวว่า หัวหน้ารัฐบาลก็อาจจะไปชี้แจงแทนรัฐมนตรีสาธารณสุขไม่ได้ แต่ทั้งหมดนี้ก็คงต้องให้เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย เขาอาจจะตัดสินใจลาออก โดยยอมไม่ชี้แจงก็ได้ ก็แล้วแต่เขา แต่ที่คุยกันเมื่อคืนคือตนก็บอกแนวทางของรัฐบาล ของนายกฯ ส่วนการปรึกษาหารือ การตัดสินใจก็เป็นเรื่องภายในของพรรคภูมิใจไทยที่จะไปกำหนดแนวทางในการปฏิบัติเอาเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นไปตามนี้แสดงว่าความรับผิดชอบทางการเมืองของนายมานิต ก็ไม่ได้สูงกว่าคนอื่น นายสุเทพ กล่าวว่า ใครสูง ใครต่ำก็ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะไปตัดสินใจ เขาก็ต้องมีความรับผิดชอบของเขาอยู่แล้ว พรรคก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคม
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมพรรคประชาธิปัตย์พรุ่งนี้จะได้ข้อยุติคนที่จะมาแทนนาย วิทยา แก้วภราดัยหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยู่ที่การประชุมกรรมการบริหารพรรคและการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารและส.ส. ซึ่งพรรคก็มีขั้นตอนเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าประชุมเสร็จพรุ่งนี้แล้วจะปรับครม.ได้ทันที ต้องมีเวลาและขั้นตอน เมื่อถามว่าแคนดิเดตในพรรคมีหลายคน จะทำให้มีปัญหารอยร้าวในพรรคอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่อยู่ในพรรคก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์ กติกาของพรรค ซึ่งการคัดเลือกจะเป็นอย่างไรอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคจะปรึกษากัน เมื่อถามว่าจะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ด้วยหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงไม่ต้อง เพราะคนในพรรคก็รู้จักกันหมด แต่ละคนก็มีอยู่ในใจแล้วว่าใครทำอะไรได้ อย่างไร มีการแสดงให้เห็นกันมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว
เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีสมาชิกในพรรคออกมาเรียกร้องตำแหน่งเหมือนกับที่ผ่านมาอีก ไม่ว่าเรื่องการซื้อขายตำแหน่งหรือเรื่องนายทุนพรรค เหมือนที่นาย นิพิฐฎ์ ออกมาเรียกร้อง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เมื่อถามว่าจะมีการเคลียร์ใจกับนาย นิพิฐฎ์ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมไม่มีอะไรต้องไปเคลียร์ใจ เพราะผมไม่มีปัญหาอะไรกับคุณนิพิฐฎ์” เมื่อถามว่าที่มีข่าวว่าไม่ถูกกับนาย นิพิฐฎ์ จริงหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงไม่จริงมั๊งครับ ไม่จริงหรอก ตนเป็นเลขาธิการพรรค ก็ต้องถูกกับส.ส.ทุกคน จะไม่ถูกกับส.ส.ได้อย่างไร ตนก็ต้องดูแลส.ส.ทุกคน
เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการคัดเลือกในพรรคจะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมในกระทรวงสาธารณสุขอีก นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงแล้ววิทยา ไม่ได้ทำทุจริตคอร์รัปชั่นในกระทรวงสาธารณสุขเลย และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในกระบวนการนี้เลย แต่เมื่อสังคมต้องการคนที่รับผิดชอบ นายวิทยา ก็แสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เกิดอะไรขึ้นในกระทรวงและทำให้สังคมรู้สึกไม่ชอบใจ ผิดหวัง ก็เลยรับผิดชอบโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ถือเป็นสปิริต เป็นน้ำใจของนายวิทยาในฐานะนักการเมืองของประชาชน เพราะฉะนั้นเมื่อคนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปอยู่ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องไปซ้ำร้อยเดิม เมื่อเข้าไปก็เข้าไปแก้ปัญหา