“สุเทพ” ปัดตั้งทีมเฉพาะกิจล่าตัว “นช.แม้ว” กลับเข้าคุกไทย ระบุแค่ให้กระทรวงการต่างประเทศทำตามหน้าที่ รวมถึงคดีหมิ่นสถาบันผ่าน “ไทมส์ออนไลน์” ก็ให้ “บัวแก้ว” ขอความร่วมมือกับทางการดูไบ
วันนี้ (26 พ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลจะตั้งทีมเฉพาะกิจติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีที่ดินรัชดาฯ และจำเลยคดีทุจริตหลายคดี มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในไทยว่า ไม่เคยพูดถึงเรื่องดังกล่าว ตอนนี้เราก็ทำไปตามหน้าที่ โดยกระทรวงการต่างประเทศก็ทำไป ส่วนการขอความร่วมมือจากทางดูไบที่อดีตนายกฯ ใช้เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยการให้สัมภาษณ์หมิ่นสถาบันผ่านไทมส์ออนไลน์นั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ
ยันทุจริตซื้อรถ สตช.เกิดก่อนหลายปี
นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจกองปราบปรามบุกค้นคฤหาสน์ของอดีต ผอ.สำนักงบประมาณและอดีตนายตำรวจที่เป็นนักธุรกิจที่ทุจริตการจัดซื้อรถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ไม่ได้รับรายงาน ไม่มีคนมารายงานตน เพราะการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตามปกติที่ไม่ใช่งานนโยบาย เขาไม่จำเป็นจะต้องรายงานตนเอง ยกเว้นกรณีเรื่องยาเสพติด เรื่องความมั่นคง นอกนั้นเขาจะดำเนินคดีกับใครเรื่องอะไรส่วนใหญ่ตนไม่ลงไปในรายละเอียดอยู่แล้ว
ส่วนที่มีข่าวว่าเกี่ยวพันกับ พล.ต.ท.ระดับบิ๊กที่ตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับโผโยกย้ายช่วงนี้หรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ตนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เขาบอกว่าเป็นการสืบสวนสอบสวนในทางลับมาหลายปีแล้ว ซึ่งตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า มูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างรถจักรยานยนต์ของ สตช.และยังมีโครงการอื่นๆ อีก นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ เหตุเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับหน้าที่ เมื่อถามว่าไม่ใช่คำสั่งจากระดับนโยบายให้ไปกวาดล้างเรื่องนี้ นายสุเทพปฏิเสธว่าไม่มี เมื่อถามว่า เมื่อมีข่าวอย่างนี้จะสั่งให้ตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ลงไปแทรกแซงการทำหน้าที่ตามปกติของข้าราชการ
เดินหน้าสอบซื้อขายตำแหน่ง
นายสุเทพกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร.ได้รายงานในที่ประชุมและมีประเด็นที่ ก.ตร.อื่นๆ อยากให้คณะอนุกรรมการสอบเพิ่มเติมอย่างเต็มที่ ซึ่งตนจะส่งประเด็นทั้งหมดให้คณะอนุกรรมการ ซึ่งเวลานี้ตนได้ตั้งประธานคนใหม่คือเลขาธิการ ก.พ. เข้ามาทำหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการแทนประธานคนเดิมที่ลาออกแล้ว เมื่อคณะอนุกรรมการสอบเสร็จก็จะนำมารายงานตน