แกนนำพรรคเพื่อไทย เรียกประชุม ปธ.-รองปธ.กมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย สั่งระดมข้อมูลทุจริตส่งให้ “เฉลิม” สัปดาห์หน้า ก่อนกรองชื่อ รมต.ถูกซักฟอกก่อนขออนุมัติ “พ่อแม้ว” อนุญาตให้ ส.ส.เชือด
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรค โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เช่น นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งประธานและรองประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรชุดต่างๆ ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชายได้แจ้ง ส.ส.ของพรรคที่เป็นประธานและรองประธานกรรมาธิการชุดต่างๆ ให้รวบรวมข้อมูลการทุจริตในโครงการต่างๆ ในแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมา ส่งต่อให้กับคณะกรรมการกลั่นกรองประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ที่ประชุมยังมีความเห็นด้วยว่า แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถทำให้รัฐบาลล้มได้ เนื่องจากรัฐบาลและพรรคร่วมมีเสียงมากกว่า แต่จำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับสังคมได้รับรู้ถึงพฤติกรรมการทุจริตของรัฐบาล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะประธานกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุมได้ย้ำประธานและรองประธานกรรมาธิการฯชุดต่างๆ ให้ไปรวบรวมข้อมูลทั้งที่เป็นเอกสารและหลักฐานจากข้าราชการมามอบให้กับคณะกรรมการชุดกลั่นกลองของ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นการด่วน พร้อมทั้งให้ส.ส.แจ้งความจำนงด้วยว่าต้องการจะอภิปรายในประเด็นใดบ้าง ส่วนกำหนดเวลาในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมทั้งรายชื่อรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปรายนั้นยังไม่ได้ข้อยุติ แต่น่าจะไม่เกินปลายเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้สรุปหลักการทำงานในภาพรวมคือ จะใช้โครงการไทยเข้มแข็งเป็นหลักและอภิปรายข้อมูลทุจริตที่มีในทุกกระทรวง รวมทั้งพฤติกรรมไม่โปรงใสของรัฐมตรี เช่น ในส่วนของกรรมาธิการการเงินฯ จะอภิปรายกรณีการอัปเกรดตั๋วเครื่องบินของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องเอกสารลับและกรณีวิศวกรไทยถูกกัมพูชาจับกุมตัวด้วย ทั้งนี้เมื่อมีการกลั่นกรองประเด็นข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขั้นตอนสุดท้ายแล้วพรรคจะส่งข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของรายชื่อรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไปขอคำปรึกษาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรค โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เช่น นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งประธานและรองประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรชุดต่างๆ ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชายได้แจ้ง ส.ส.ของพรรคที่เป็นประธานและรองประธานกรรมาธิการชุดต่างๆ ให้รวบรวมข้อมูลการทุจริตในโครงการต่างๆ ในแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมา ส่งต่อให้กับคณะกรรมการกลั่นกรองประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ที่ประชุมยังมีความเห็นด้วยว่า แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถทำให้รัฐบาลล้มได้ เนื่องจากรัฐบาลและพรรคร่วมมีเสียงมากกว่า แต่จำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับสังคมได้รับรู้ถึงพฤติกรรมการทุจริตของรัฐบาล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะประธานกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุมได้ย้ำประธานและรองประธานกรรมาธิการฯชุดต่างๆ ให้ไปรวบรวมข้อมูลทั้งที่เป็นเอกสารและหลักฐานจากข้าราชการมามอบให้กับคณะกรรมการชุดกลั่นกลองของ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นการด่วน พร้อมทั้งให้ส.ส.แจ้งความจำนงด้วยว่าต้องการจะอภิปรายในประเด็นใดบ้าง ส่วนกำหนดเวลาในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมทั้งรายชื่อรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปรายนั้นยังไม่ได้ข้อยุติ แต่น่าจะไม่เกินปลายเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้สรุปหลักการทำงานในภาพรวมคือ จะใช้โครงการไทยเข้มแข็งเป็นหลักและอภิปรายข้อมูลทุจริตที่มีในทุกกระทรวง รวมทั้งพฤติกรรมไม่โปรงใสของรัฐมตรี เช่น ในส่วนของกรรมาธิการการเงินฯ จะอภิปรายกรณีการอัปเกรดตั๋วเครื่องบินของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องเอกสารลับและกรณีวิศวกรไทยถูกกัมพูชาจับกุมตัวด้วย ทั้งนี้เมื่อมีการกลั่นกรองประเด็นข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขั้นตอนสุดท้ายแล้วพรรคจะส่งข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของรายชื่อรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไปขอคำปรึกษาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย
