xs
xsm
sm
md
lg

กกต.โต้ “เติ้ง” ปูดข่าวอดีตนายกใบสั่งห้ามยุบ ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประพันธ์ นัยโกวิท
“ประพันธ์” ปฏิเสธไม่เคยถูกอดีตนายกฯ ร้องขอไม่ให้ยุบ ปชป. ตามที่บรรหารระบุ รับหาก กกต.เห็นชอบตามนายทะเบียนฯ ที่เสนอยุบพรรค ยังเป็นปัญหาต้องทำอย่างไรต่อไป ยอมรับมีความพยายามกดดันเพื่อให้ กกต.ตกเป็นเป้าโจมตีทางการเมือง

วันนี้ (4 ม.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการพิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาการทำความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า ยืนยันว่าทุกอย่างทำเป็นขั้นเป็นตอนตามข้อกฎหมาย ที่มีข่าวว่า กกต.3 คนมอบอำนาจให้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองไปพิจารณา ความจริงไม่ใช่ เพราะตอนที่โหวตกันไม่มีใครรู้ว่าประธาน กกต.โหวตอย่างไร แต่ กกต. 3 คนเห็นว่าต้องผ่านขั้นตอนของนายทะเบียนฯเสียก่อน และทั้ง 3 คนก็ยังไม่ได้โหวตในกรณีนี้

เมื่อถามว่าคดี 258 ล้านใช้อำนาจของ กกต.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุใด จึงให้นายทะเบียนเป็นผู้พิจารณา นายประพันธ์กล่าวว่า ตอนที่มีการร้องเรียนมาเรายังไม่ทราบว่ามันเป็นอะไร ซึ่งตามขั้นตอน กกต.ก็ต้องคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา แต่เมื่อคณะอนุกรรมการฯรายงานผลการสอบสวนมาก็ต้องมาดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และดูขั้นตอนของกฎหมายซึ่งก็เห็นว่า ถ้าเป็นความผิดตามมาตรา 94 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองคือให้ยุบพรรค นายทะเบียนก็ต้องดำเนินการตามมาตรา 95 คือไปมีความเห็นมาก่อน

“องค์กร กกต.เพิ่งตั้งมาได้ 11 ปี ดังนั้น เรื่องในทางปฏิบัติยังไม่ลงรอย ไม่ชัดเจน และกรณีนี้ก็ไม่เหมือนกับการยุบ 3 พรรค ที่มีการให้ใบแดงกรรมการบริหาร ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ก็ได้ระบุไว้ต้องยุบพรรค และนายทะเบียนได้ยึดตามคำพิพากษาโดยทำความเห็นยุบ 3 พรรค ซึ่งเป็นรูปแบบที่ถูต้อง แต่ครั้งนี้ถ้านายทะเบียนมีความเห็นว่าควรยุบพรรคเสนอ กกต. แล้ว กกต.เห็นด้วยก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเรื่องการยุบพรรคหรือไม่ และต้องมีการแจ้งข้อกล่าวอีกหรือไม่”

ส่วนที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ออกมาระบุว่ามีอดีตนายกฯ ขอไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่ทราบว่านายบรรหารทราบข้อมูลมาจากที่ไหน แต่ส่วนของตนไม่มี ถ้าเป็นเรื่องที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองก็จะสามารถอธิบายได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าพูดข้างเดียวก็ไม่ทราบว่าจะตามไปอธิบายอย่างไร

“อย่างเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.50 ส.ส.ในสภาเกือบทุกพรรคเกือบทุกคนเคยถูกร้องทั้งสิ้น ลองไปถามดูว่า ที่กกต.ยกคำร้องจนปฏิบัติหน้าที่ได้นั้น มีใครวิ่งเต้นให้ยกคำร้องหรือไม่ ถามกระทั่งคนที่พูดต่อว่า กกต.บางคนก็มีเรื่องร้องแล้วก็มี กกต.ยกเคยมาหา กกต.หรือไม่”

นายประพันธ์ยังกล่าวถึงความรู้สึกที่เวลานี้ กกต.ถูกตกเป็นเป้ากดดันของฝ่ายการเมืองว่า ความกดดันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้ามีคนบอกว่าจะมาเผาบ้านมันก็ต้องกดดันเป็นธรรมดา แต่เราก็ต้องทำงานตามหน้าที่ดูความถูกต้องดูข้อเท็จจริง เมื่อเราวินิจฉัยไปแล้วก็ต้องมีทั้ง 2 ฝ่าย มีทั้งคนที่ถูกใจและไม่ถูกต้อง การมาชุมนุมหากทำในระบอบประชาธิปไตยและอยู่ในกรอบกติกาก็ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนเรื่องความปลอดภัยของ กกต.ทุกคน เจ้าหน้ที่ตำรวจก็ส่งคนมาดูแลอยู่แล้ว ระบอบประชาธิปไตยนั้นถ้าจะให้อยู่ได้ก็ต้องให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย หากอะไรไม่ถูกไม่ต้องก็อย่าทำเลย

กำลังโหลดความคิดเห็น