xs
xsm
sm
md
lg

ยกคำร้องเกณฑ์ทหารอภิสิทธิ์ กกต.ระบุไม่มีบทบัญญัติใดห้าม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กกต.ยกคำร้องหนีเกณฑ์ทหาร “อภิสิทธิ์” ระบุไม่ได้อยู่ในบทบัญญัติต้องห้ามการสมัคร ส.ส. ด้าน “สดศรี” รับ กกต.เช็คการบริจาคเงินใต้โต๊ะยาก แนะผู้ที่มีหลักฐานส่งมาได้พร้อมดำเนินการตรวจสอบให้ ด้านพรรคเพื่อไทย ปูดอดีต ผบ.ทบ.ได้บ้านใหม่ราคาหลายสิบล้าน

นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ ที่ผ่านมา กกต.ได้มีการประชุมพิจารณากรณีคำร้องของกลุ่มผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนร่วมปลุกจิตสำนึกประชาธิปไตยกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อาจขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหาร โดย กกต.ได้พิจารณาเห็นควรให้ยุติเรื่องและยกคำร้อง เนื่องจากข้อกล่าวหาดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในบทบัญญัติต้องห้ามการสมัครส.ส. จึงไม่ได้เป็นเหตุให้การเป็น สมาชิกภาพของส.ส.สิ้นสุดลง

"สมาชิกภาพส.ส.จะสิ้นสุดนั้นกฎหมายได้กำหนดว่า ต้องมีโทษจำคุก หรือ ถูกไล่ออกจากตำแหน่งราชการเพราะเรื่องทุจริต ดังนั้นกรณีของนายอภิสิทธิ์ จึงยังไม่เข้าข่ายต้องห้าม เมื่อสมาชิกภาพของส.ส.ยังไม่สิ้นสุดลงความเป็นนายกรัฐมนตรีก็ถือว่ายังไม่สิ้นสุดด้วย ซึ่ง กกต.ก็ได้พิจารณาเห็นว่าควรยุติเรื่อง จึงให้ยกคำร้อง ซึ่งไม่มีเหตุที่ต้องส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา"

ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต. กล่าวถึงการวิจารณ์ถึงการบริจาคเงิน ให้พรรคประชาธิปัตย์ที่อาจมีการบริจาคแฝงเพราะเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มทุน ที่บริจาคมากที่สุดดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบหาทางช่วยกลุ่มเหล่านี้ก่อนหลังได้เป็นรัฐบาลว่า เรื่องนี้ กกต.จะตรวจสอบก็ต่อเมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา การบริจาคเรามองทุกพรรคการเมือง มีความสุจริตในการบริจาคทั้งนั้น แต่ถ้าร้องกันขึ้นมาว่ามีเงื่อนงำหรืออะไรแอบแฝง หรือบริจาคโดยนิติบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีการแฝงไว้โดยจดทะเบียนในประเทศไทย กกต.จะตรวจสอบที่มาของเงินต่างๆ ว่ามีแหล่งที่มาอย่างไร ถ้าไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถูกยุบพรรค หัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการจะถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง

นางสดศรี กล่าวว่า ที่มีการมองว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก เพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหรือช่วยกลุ่มดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนและสื่อฯ จะต้องช่วยกันตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ตั้งข้อสงสัยหรือไม่ การนำคนเข้าสู่สภาเป็นภาระกิจของ กกต. ส่วนการตรวจสอบผู้อยู่ในสภาและทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีก็น่าจะเป็นหน้าที่ของสื่อและประชาชนต้องดูแลและตรวจสอบได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการบริจาคของบางคนที่อาจบริจาคต่อเนื่องเพื่อซื้อตำแหน่ง หรือบางคนไม่เคยบริจาค แต่มาบริจาคแล้วได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี นางสดศรี กล่าวว่า การบริจาคที่มีหลักฐานชัดเจน หากเป็นนิติบุคคลต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้น มีการลงไว้ในรายงานการประชุม และพรรคการเมืองต้องประกาศให้สาธารณะชนได้รับทราบ แต่การบริจาคใต้โต๊ะเป็นการยากที่ กกต.จะตรวจสอบไปถึง เราตรวจสอบได้ เฉพาะหลักฐานที่ทางพรรคการเมืองนั้นๆ แจ้งมาเท่านั้น คนที่เห็นว่ามีข้อมูล ก็สามารถแจ้งมาที่ กกต.ได้

"การบริจาคใต้โต๊ะไม่ได้เป็นปัญหาการทำงานของ กกต.แต่ว่าเป็นปัญหาต่อ ประเทศชาติ ผู้ที่ได้เงินมาแล้วมีการตอบแทนกันโดยตำแหน่ง สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็น การบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย จุดนี้คงเป็นเรื่องที่ต้องดูและระมัดระวังกัน"

พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. จะปรับปรุงกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มมากขึ้นว่า ตนเห็นด้วย แต่ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีการสร้างบ้านพักหลังใหม่ให้กับอดีต ผบ.ทบ.หลายคน หลังละหลาย 10 ล้านบาท และมีทหารคุ้มกันหนาแน่น ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังใจของเหล่าทหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น