xs
xsm
sm
md
lg

พปช.แตกคอ ยัวะ “ขุนค้อน” หักหลังเสียบนั่ง รมต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์
ลูกกรอกสายอีสาน บุกพบ “สมัคร” เค้นคอถามเหตุ “ปรีชา” หลุดโผ ครม.หมัก 4 พลั้งปากพูดคนจนหมดสิทธิ์นั่ง รมต.เพราะใช้เงินซื้อตำแหน่ง สับ “ขุนค้อน” หักหลังเพื่อนจ้องเสียบเก้าอี้แทน

วันนี้ (30 ก.ค.) ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา 8 คน นำโดย นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย นายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย นางศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด นางชมภู จันทาทอง ส.ส.หนองคาย นายเรืองเดช สุวรรณฝ่าย ส.ส.ขอนแก่น เข้ารอพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการจัดโผคณะรัฐมนตรีสมัคร 4 ที่ทางกลุ่มต้องการเสนอชื่อของนายปรีชาเข้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรี แต่สุดท้ายต้องหลุดออกจากโผและกลายเป็นชื่อของ “ขุนค้อน” หรือนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม โดยมีกระแสข่าวว่านายสมัครได้ตัดสินใจเลือกนายสมศักดิ์ให้มานั่งในตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายไพจิต ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบว่า เราอยู่กันในกลุ่ม ส.ส.ที่อยู่ด้วยกัน 30 กว่าคน มีความเห็นว่าควรที่จะเตรียมคนไว้ในการเสนอต่อผู้ใหญ่เพื่อไม่ให้มีปัญหา ซึ่งล่าสุดเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วยังได้กราบเรียนต่อผู้ใหญ่ โดยยืนยันว่าเป็นชื่อของนายปรีชาและผู้ใหญ่ที่ว่าเป็นที่ผู้ทำภาระหน้าที่ในเรื่องของรัฐบาล เพียงแต่ไม่ได้บอกกับนายสมัครโดยตรงเท่านั้น วันนี้จะถือโอกาสกราบเรียนนายสมัครโดยตรง เพราะตนเห็นโผหลังสุดเมื่อคืนก็เลยรวมตัวกันมาพบนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนกังวลว่าการปรับ ครม.คราวนี้จะทำให้พรรคพลังประชาชนแตก นายไพจิตร กล่าวว่า ไม่แตก แต่ถือเป็นเรื่องของการตัดสินใจทางการเมือง ซึ่งพวกตนก็มีที่มาที่ไปที่พี่น้องประชาชนอยู่ข้างหลัง เมื่อเขาไว้วางใจให้พรรคพลังประชาชนมาทำภาระหน้าที่ในการบริหารตนก็มา ขอพบนายกฯ เพื่อกราบเรียนให้ทราบโดยตรง เมื่อถามว่าถ้าสุดท้ายแล้วยังเป็นชื่อของนายสมศักดิ์จะมีแรงกระเพื่อมในพรรคหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมือง มันพัฒนาไปสู่การเมืองที่มีความคิดเห็นในการทำงานทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา พวกตนเป็นนักการเมืองที่มีความตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ มาทำงานการเมืองเพื่อสะท้อนความเห็นของประชาชน อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มทั้ง 30 คนมีความเห็นตรงกัน

เมื่อถามว่าคิดยังไงที่เสนอชื่อนายปรีชาแต่อยู่ดีๆ เป็นชื่อของนายสมศักดิ์ นายไพจิตร กล่าวว่า เป็นเหตุผลของนายกฯ ซึ่งวันนี้คงจะบอกตน ถ้าได้มีโอกาสพบ แต่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเพราะเหตุใด จะเปลี่ยนชื่อหรือไม่เปลี่ยนก็แล้วแต่กรุณา เพราะเคยพูดกับนายกฯ ก่อนที่ท่านจะนั่งเป็นนายกฯ

เมื่อถามว่าการที่เสนอชื่อแล้วไม่ได้รับการสนองถือเป็นการมองข้ามหัวหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า คำว่าถูกมองข้ามหัวให้ความสำคัญหรือไม่นั้น แต่ตนภูมิใจในการทำงานทุกเรื่องเพราะมีหลักการเป็นนักการเมืองที่มีเหตุผล ไม่ต้องมีใครมาสั่งซ้ายหันขวาหัน เราทำอย่างตรงไปตรงมา แต่นายกฯก็มีภาระหน้าที่รับฟังความเห็นในการพิจารณาคน ซึ่งการพิจารณาก็เป็นอำนาจของนายก เรามีหน้าที่กราบเรียนให้ทราบ

เมื่อถามว่าอาจเป็นเพราะนายสมศักดิ์ไปพบผู้ใหญ่แล้วเสนอชื่อตัวเองหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า เมื่อได้คุยกันแล้วมีบรรทัดฐานการทำงานก็มากราบเรียนนายกฯ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค และเคยกราบเรียนมาตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะเป็นนายกฯ

“ผมเชื่อว่า นายสมัครเป็นนักการเมืองอาวุโสที่เข้าใจจิตใจของนักการเมืองด้วยกัน ซึ่งนายกฯอาจจะชี้แจงเหตุผลว่าที่ไม่เอาปรีชา เพราะนายปรีชาหน้าไม่หล่อ รูปไม่สวย ขี้เหร่ก็สุดแท้แต่ แต่เราก็มายืนยันในดุลพินิจที่ชัดเจน อยากจะเข้าไปทำงานในช่วงเวลาที่พรรคมีความสำคัญต้องการการหลอมรวมความสามัคคีของคนในพรรค” นายไพจิต กล่าว

นายไพจิต กล่าวว่า เมื่อถึงคิวบริหารเข้าใจว่า ถ้าได้ 1 โควตา นายปรีชา น่าจะมีโอกาสได้เข้าไปทำงาน ใช้ฝีมือ ลองดูสิว่ากลุ่มเล็กๆของตนมันมีศักยะภาพในการขับเคลื่อนทำงานให้กับประชาชนและเป็นไม้เป็นมือให้กับนายสมัครได้ ต้องการแสดงฝีมืออย่างนี้ ไม่ได้บอกว่าใครมีเงินมากน้อย เพราะเรื่องเงินนี่แหละถึงได้มีปัญหา ต้องมาอยู่กันแบบนี้ ไม่อยากให้เงินมาเป็นตัวบงการว่าใครจะเป็นไม่เป็นรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ เหมือน ส.ส.มอบอำนาจให้นายสมัครตัดสินใจแต่ตอนนี้เหมือนไม่ใช่แล้ว นายไพจิต กล่าวว่า ให้อยู่ เพียงแต่มีความไม่มั่นใจว่าท่านอาจจะขัดข้องเรื่องข้อมูล จึงได้นำข้อมูลมาให้ จะวินิจฉัยเป็นอำนาจของนายสมัครในฐานะหัวหน้าพรรค เพราะเรื่องการเมืองจะให้ถูกใจทั้งหมดเป็นไปไม่ได้

ด้าน นายปรีชา กล่าวว่า หลังจากที่เห็นโผก็ยังไม่เคยพูดกับ นายสมศักดิ์ แต่ทั้งนี้ เมื่อวานได้โทร.ถาม นายสมศักดิ์ นายสมศักดิ์ บอกว่า เป็นเรื่องลับนะ ซึ่งท่านนายกฯสมัครก็เชิญนายสมศักดิ์และให้รีบลาออก และปิดเป็นความลับ บังเอิญว่าความลับมันรั่ว ตนก็เลยโทร.ถามนายสมศักดิ์ แต่ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องลับนายกฯห้ามบอกใคร

“ก็เลยถาม นายสมศักดิ์ ท่านรับปากกลุ่มกลุ่มอีสานพัฒนาว่าจะเสนอชื่อเป็นของผม แล้วทำไมท่านไปเอาเอง ท่านก็บอกว่าเป็นความลับ ท่านนายกฯ สมัครไม่ให้พูด พอดีข่าวรั่วเราก็เช็ก ปรากฏว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ หักหลังเพื่อน จึงมาเรียนให้ประชาชนและพี่น้องสื่อมวชนทราบ” นายปรีชา กล่าว

เมื่อถามว่า คิดว่า ทำไมตัวเองเหมาะสมกว่านายสมศักดิ์ นายปรีชา กล่าวว่า ตนมอบความไว้วางให้กลุ่มเป็นผู้พิจารณาว่าใครเหมาะสมที่จะมาดูแลกลุ่มได้ และตนเองก็ได้รับการเสนอมาจากสมาชิกของกลุ่ม ไม่ใชตนเป็นผู้เสนอตัวเอง และไม่ใช่เป็นนายทุนของกลุ่ม แต่ตนเป็น ส.ส.มาแล้ว 9 สมัย ผ่านงานทางการเมืองมาแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เป็น ส.ส.เพียง 1-2 สมัยถึงได้เป็น

ขณะที่ นายศักดิ์ดา กล่าวถึงภาพความแตกแยกในพรรค ว่า การประชุมของ ส.ส.ของกลุ่มอีสานพัฒนา เราได้ประชมกันทั้งกลุ่ม โดยในกลุ่มเสนอ นายปรีชา เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนของนายสมศักดิ์ ก็น่าจะถือเป็นโควตาพิเศษไป

อีกาทำเนียบ ร้องระงม!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา 8 คนที่นำทีมโดย นายไพรจิตร ศรีวรขานเข้ารอพบนายสมัคร ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการจัดโผคณะรัฐมนตรีสมัคร 4 ที่ทางกลุ่มต้องการเสนอชื่อของนายปรีชาเข้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรี ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีกำลังลงจากรถและแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวได้มีอีกาฝูงใหญ่ บินโฉบเหนือตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 ต่างร้องเสียงดังระงมนานกว่า 5 นาที ซึ่งอยู่ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีกำลังหารือกับ ส.ส.กลุ่มดังกล่าวเพื่อตัดสินใจปรับรายชื่อคณะรัฐมนตรี ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในเย็นวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น