ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการปรับ ครม. สมัคร4 ว่า เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (1 ส.ค.) นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการติดจากสำนักราชเลขาธิการว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ครม.แต่อย่างใด หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯรายชื่อ ครม.เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับการเคลื่อนไหวของนายสมัครว่าเป็นที่น่าสังเกตุว่า ได้สั่งการเลื่อนวาระงานให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะวาระงานผู้นำทางทหารกลุ่มประเทศอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะจากกำหนดการเดิมเวลา 14.30 น.มาเป็นเวลา 11.00 น. โดยมีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด นำผู้นำทหารอาเซียนเข้าพบ เป็นเวลากว่า 40 นาที
หลังจากนั้นตลอดทั้งวัน นายสมัคร และนายธีรพล นภรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตี ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้วยขบวนรถตู้โพบ์กสีดำ 3 คัน พร้อมรถรักษาความปลอดภัยของตำรวจเข้มกันอย่างเข้มงวด โดยขบวนรถได้เข้าไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม โดยอยู่ภายในกว่า 1 ชั่วโมง จึงเดินทางออกมา ซึ่งนายสมัคร ได้แยกไปคนละทางกับนายธีรพล โดยระหว่างที่นายสมัครอยู่ภายในพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังสะพานมัฆวาน ง
ต่อมาเวลา 18.30 น. นายสมัคร ได้เดินทางมายังทำเนียบฯอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน สมาชิกกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคพลังประชาชน นำโดย นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุขส.ส.เลย นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด ร่วมกันแถลงข่าว
นายพีระพันธ์ กล่าวยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยืนยันว่ากลุ่มอีสานพัฒนายังคงอยู่ทั้ง 23 คน และส.ส.นครราชสีมาอีก 7 คน ที่แสดงความจำนงจะเข้าร่วมกลุ่ม โดยจะทำงานกันต่อไป ส่วนที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ออกมาระบุว่า มีการสลายกลุ่มไปแล้ว ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ใครไม่อยากอยู่ก็เป็นสิทธิ์ของคนคนนั้น
นายพีระพันธ์ กล่าวว่า การเข้าพบนายกฯที่ผ่านมาไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะขอตำแหน่ง แต่ไปเรียนข้อเท็จจริงให้ทราบว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งหากนายกฯรู้ก็คงจะดำเนินการตามที่กลุ่มเสนอไป หากมีการปรับครม.ครั้งหน้าก็จะไม่ลืมเช่นเดียวกับตำแหน่งรองประธานสภา ทางกลุ่มก็ให้เป็นเรื่องของพรรค ที่จะพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตรวจสอบคนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ที่ทางกลุ่มฯระบุว่ามีการรับเงิน 10 ล้านบาท่ นายพีระพันธ์ กล่าวว่า เราได้ข้อมูล บางประการเกี่ยวกับคนใกล้ชิดของนายกฯ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงได้เรียนให้ นายกฯรับทราบ ซึ่งท่านก็บอกว่าจะไปดู เมื่อถามว่ามีกรณีอื่นนอกจากเรื่องเช็ค 10 ล้านบาทอีกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า มี แต่ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่เพราะมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีคนใกล้ชิดนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่นายกฯอาจจะไม่รู้ ส่วนที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ มีบทบาทสำคัญในการปรับ ครม.ครั้งนี้ผมก็ได้ยินมาในทำนองนั้นเหมือนกัน
ขณะที่นายศักดา กล่าวยืนยันว่า คนใกล้ชิดของนายกฯที่ทำทุจริตมีมากกว่า หนึ่งคน แต่เราอยากให้โอกาสรัฐบาลแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้อย่างโปร่งใส ที่ผ่านมามักมีคนไปอ้างชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปหาผลประโยชน์ ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
ด้านนางเปล่งมณี กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ มีพฤติกรรม เปลี่ยนไป เพราะนายกฯเล่าให้ฟังเองว่านายสมศักดิ์ ชอบเข้าหานายกฯตลอด ที่มีโอกาสและบอกว่าอยากเปลี่ยนการทำหน้าที่บ้าง แล้วอย่างนี้จะบอกว่า ไม่ขอตำแหน่งเพื่อตัวเองได้อย่างไร แม้กระทั่งลาสุดวันที่นำดอกไม้ไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรับมนตรี แทนที่นายสมศักดิ์จะพูดอวยพรวันเกิด แต่กลับขอตำแหน่งแทนโดยบอกว่า นายใหญ่อย่าลืมที่รับปากไว้
ด้านนายไพจิตร กล่าวว่า พวกตนไม่ได้จ๋อยหลังจากชี้แจงให้นายกฯรับทราบ เพราะถือว่าได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้นายกฯรับทราบถือว่า ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยภายในครอบครัวให้รับทราบไปแล้ว ส่วนในอนาคตหากพบ มีการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิดของนายกฯก็ไม่วิตกว่าจะทำให้รัฐบาลสั่นคลอน เพราะอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องฝ่าไปสู่ความสำเร็จให้ได้ ประชาชนจะได้รับดอกผล ที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองอยู่แล้ว
นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานวิปรัฐบาล ส่วนตัวไม่เชื่อว่าคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีรับเงิน 10 ล้านบาทแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีขณะนี้ต้องรับภาระค่อนข้างหนักจึงไม่เชื่อว่าจะมีใครยอมเสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อแลกตำแหน่ง เรื่องนี้ทำให้พรรคพลังประชาชนเกิดความเสียหาย เพราะยังไม่รู้ว่าข่าวที่ออกมานั้นเป็นความจริงหรือไม่ ดังนั้นพรรคจะให้ผู้ที่ออกมาพูดเรื่องดังกล่าวแสดงข้อมูล รวมทั้งจะเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรค พิจารณาการกระทำดังกล่าวหรืออาจจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้ที่ออกมาพูดจะต้องแสดงความรับผิดชอบในการกระทำของตน และหากพบว่า เป็นการกล่าวหาก็อาจจะมีการพิจารณาคาดโทษด้วย
นายสามารถ ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ระดับแกนนำพรรคซึ่งใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี มาทาบทามให้รับตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่นายสมศักดิ์จะลาออก เพราะคิดว่าตนสามารถที่จะทำหน้าที่ได้
สำหรับปัญหาภายในพรรคเพื่อแผ่นดินหลังจากนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่มี ส.ส.พรรคจำนวนหนึ่ง นำโดยนายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศขอร่วมรัฐบาลต่อและได้ส่วรายชื่อ ครม.ใหม่ให้นายกรัฐมนตรีแล้ว
ล่าสุด นายมั่น พัธโนทัย กล่าวว่า วันที่ 5 ส.ค.ว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยนายสุวิทย์ จะระบายความในใจเกี่ยวกับการตัดสินใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทราบ ขณะเดียวกันก็จะมีการหารือว่าทางกลุ่มจะร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ ถ้าร่วมก็จะต้องให้สัตยาบรรณร่วมกัน ซึ่งแนวโน้มก็คาดว่าจะเป็นในรูปแบบนั้น
นายมั่น กล่าวว่า เนื่องจากนายสุวิทย์ เป็นคนถอนตัวออกจากตำแหน่ง รองนายก และ รมว.อุตสาหกรรม ดังนั้น ทางนายสุวิทย์ หรือ คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องมอบให้รองหัวหน้าพรรค หรือคนอื่น เป็นผู้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลแทน โดยเห็นว่าการตัดสินใจลาออกของนายสุวิทย์เร็วไป ไม่ทราบว่าส่วนตัวมีอะไรหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะนั่งประชุม ครม. อยู่ด้วยกัน แต่นายสุวิทย์ก็ไม่เคยปริปากว่ามีเรื่องอะไร
สำหรับการปรับ ครม.ใหม่ ที่พรรคเพื่อแผ่นดินได้ 5 ตำแหน่ง 4 คนเหมือนเดิม แต่สูญเสียตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมไป และยังเหลือตำแหน่งรองนายกฯ รมว.ไอซีที รมช.คลัง รมช.พาณิชย์ และ รมช.มหาดไทย หากมองในเชิงการเมืองถือว่าเสียหน้า แต่หากมองเรื่องการแก้ปัญหาของนายกฯก็ยอมรับได้
นายมั่น ยอมรับว่า รมช. 3 คนเป็นนายทุนของพรรค แต่ไม่ทั้งหมด เพราะทุกคนทำงานกับพรรคมานานและช่วยกันทำงาน ทั้งนายประสงค์ โฆษิตานนท์ นายพิชัย นริทะพันธุ์ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ก็เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่มีประวัติเสียหาย เมื่อทำงานดี ประชาชนให้การยอมรับ ก็ไม่ต้องกลัวอะไร
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ทบ.ทอ.ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับ ครม.ซึ่งมีข่าวว่ามีการใช้เงินซื้อตำแหน่ง แต่สำหรับตนคิดว่าไม่ควรจะมีการซื้อ และเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าดู และเชื่อว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะพยายามสรรหาบุคคลที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนไม่อยากวิจารณ์เรื่องการปรับครม. เพราะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร.เตรียมทหารรุ่น 6 อาจได้ดำรงรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยนั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับคณะผู้พิจารณาคัดเลือก เชื่อว่าจะพยายามคัดคนที่เหมาะสมที่สุด ส่วนที่ พล.ต.อ.โกวิทเคยเป็นสมาชิกคมช. จะมีความเหมาะสมในการตำแหน่ง รมว.มหาดไทยหรือไม่นั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ยังสามารถเป็น รมว.มหาดไทยได้ ดังนั้น พล.ต.อ.ก็สามารถเป็นได้เหมือนกัน
สำหรับการเคลื่อนไหวของนายสมัครว่าเป็นที่น่าสังเกตุว่า ได้สั่งการเลื่อนวาระงานให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะวาระงานผู้นำทางทหารกลุ่มประเทศอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะจากกำหนดการเดิมเวลา 14.30 น.มาเป็นเวลา 11.00 น. โดยมีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด นำผู้นำทหารอาเซียนเข้าพบ เป็นเวลากว่า 40 นาที
หลังจากนั้นตลอดทั้งวัน นายสมัคร และนายธีรพล นภรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตี ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้วยขบวนรถตู้โพบ์กสีดำ 3 คัน พร้อมรถรักษาความปลอดภัยของตำรวจเข้มกันอย่างเข้มงวด โดยขบวนรถได้เข้าไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม โดยอยู่ภายในกว่า 1 ชั่วโมง จึงเดินทางออกมา ซึ่งนายสมัคร ได้แยกไปคนละทางกับนายธีรพล โดยระหว่างที่นายสมัครอยู่ภายในพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังสะพานมัฆวาน ง
ต่อมาเวลา 18.30 น. นายสมัคร ได้เดินทางมายังทำเนียบฯอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน สมาชิกกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคพลังประชาชน นำโดย นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุขส.ส.เลย นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด ร่วมกันแถลงข่าว
นายพีระพันธ์ กล่าวยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยืนยันว่ากลุ่มอีสานพัฒนายังคงอยู่ทั้ง 23 คน และส.ส.นครราชสีมาอีก 7 คน ที่แสดงความจำนงจะเข้าร่วมกลุ่ม โดยจะทำงานกันต่อไป ส่วนที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ออกมาระบุว่า มีการสลายกลุ่มไปแล้ว ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ใครไม่อยากอยู่ก็เป็นสิทธิ์ของคนคนนั้น
นายพีระพันธ์ กล่าวว่า การเข้าพบนายกฯที่ผ่านมาไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะขอตำแหน่ง แต่ไปเรียนข้อเท็จจริงให้ทราบว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งหากนายกฯรู้ก็คงจะดำเนินการตามที่กลุ่มเสนอไป หากมีการปรับครม.ครั้งหน้าก็จะไม่ลืมเช่นเดียวกับตำแหน่งรองประธานสภา ทางกลุ่มก็ให้เป็นเรื่องของพรรค ที่จะพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตรวจสอบคนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ที่ทางกลุ่มฯระบุว่ามีการรับเงิน 10 ล้านบาท่ นายพีระพันธ์ กล่าวว่า เราได้ข้อมูล บางประการเกี่ยวกับคนใกล้ชิดของนายกฯ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงได้เรียนให้ นายกฯรับทราบ ซึ่งท่านก็บอกว่าจะไปดู เมื่อถามว่ามีกรณีอื่นนอกจากเรื่องเช็ค 10 ล้านบาทอีกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า มี แต่ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่เพราะมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีคนใกล้ชิดนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่นายกฯอาจจะไม่รู้ ส่วนที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ มีบทบาทสำคัญในการปรับ ครม.ครั้งนี้ผมก็ได้ยินมาในทำนองนั้นเหมือนกัน
ขณะที่นายศักดา กล่าวยืนยันว่า คนใกล้ชิดของนายกฯที่ทำทุจริตมีมากกว่า หนึ่งคน แต่เราอยากให้โอกาสรัฐบาลแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้อย่างโปร่งใส ที่ผ่านมามักมีคนไปอ้างชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปหาผลประโยชน์ ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
ด้านนางเปล่งมณี กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ มีพฤติกรรม เปลี่ยนไป เพราะนายกฯเล่าให้ฟังเองว่านายสมศักดิ์ ชอบเข้าหานายกฯตลอด ที่มีโอกาสและบอกว่าอยากเปลี่ยนการทำหน้าที่บ้าง แล้วอย่างนี้จะบอกว่า ไม่ขอตำแหน่งเพื่อตัวเองได้อย่างไร แม้กระทั่งลาสุดวันที่นำดอกไม้ไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรับมนตรี แทนที่นายสมศักดิ์จะพูดอวยพรวันเกิด แต่กลับขอตำแหน่งแทนโดยบอกว่า นายใหญ่อย่าลืมที่รับปากไว้
ด้านนายไพจิตร กล่าวว่า พวกตนไม่ได้จ๋อยหลังจากชี้แจงให้นายกฯรับทราบ เพราะถือว่าได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้นายกฯรับทราบถือว่า ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยภายในครอบครัวให้รับทราบไปแล้ว ส่วนในอนาคตหากพบ มีการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิดของนายกฯก็ไม่วิตกว่าจะทำให้รัฐบาลสั่นคลอน เพราะอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องฝ่าไปสู่ความสำเร็จให้ได้ ประชาชนจะได้รับดอกผล ที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองอยู่แล้ว
นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานวิปรัฐบาล ส่วนตัวไม่เชื่อว่าคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีรับเงิน 10 ล้านบาทแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีขณะนี้ต้องรับภาระค่อนข้างหนักจึงไม่เชื่อว่าจะมีใครยอมเสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อแลกตำแหน่ง เรื่องนี้ทำให้พรรคพลังประชาชนเกิดความเสียหาย เพราะยังไม่รู้ว่าข่าวที่ออกมานั้นเป็นความจริงหรือไม่ ดังนั้นพรรคจะให้ผู้ที่ออกมาพูดเรื่องดังกล่าวแสดงข้อมูล รวมทั้งจะเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรค พิจารณาการกระทำดังกล่าวหรืออาจจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้ที่ออกมาพูดจะต้องแสดงความรับผิดชอบในการกระทำของตน และหากพบว่า เป็นการกล่าวหาก็อาจจะมีการพิจารณาคาดโทษด้วย
นายสามารถ ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ระดับแกนนำพรรคซึ่งใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี มาทาบทามให้รับตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่นายสมศักดิ์จะลาออก เพราะคิดว่าตนสามารถที่จะทำหน้าที่ได้
สำหรับปัญหาภายในพรรคเพื่อแผ่นดินหลังจากนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่มี ส.ส.พรรคจำนวนหนึ่ง นำโดยนายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ประกาศขอร่วมรัฐบาลต่อและได้ส่วรายชื่อ ครม.ใหม่ให้นายกรัฐมนตรีแล้ว
ล่าสุด นายมั่น พัธโนทัย กล่าวว่า วันที่ 5 ส.ค.ว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยนายสุวิทย์ จะระบายความในใจเกี่ยวกับการตัดสินใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทราบ ขณะเดียวกันก็จะมีการหารือว่าทางกลุ่มจะร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ ถ้าร่วมก็จะต้องให้สัตยาบรรณร่วมกัน ซึ่งแนวโน้มก็คาดว่าจะเป็นในรูปแบบนั้น
นายมั่น กล่าวว่า เนื่องจากนายสุวิทย์ เป็นคนถอนตัวออกจากตำแหน่ง รองนายก และ รมว.อุตสาหกรรม ดังนั้น ทางนายสุวิทย์ หรือ คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องมอบให้รองหัวหน้าพรรค หรือคนอื่น เป็นผู้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลแทน โดยเห็นว่าการตัดสินใจลาออกของนายสุวิทย์เร็วไป ไม่ทราบว่าส่วนตัวมีอะไรหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะนั่งประชุม ครม. อยู่ด้วยกัน แต่นายสุวิทย์ก็ไม่เคยปริปากว่ามีเรื่องอะไร
สำหรับการปรับ ครม.ใหม่ ที่พรรคเพื่อแผ่นดินได้ 5 ตำแหน่ง 4 คนเหมือนเดิม แต่สูญเสียตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมไป และยังเหลือตำแหน่งรองนายกฯ รมว.ไอซีที รมช.คลัง รมช.พาณิชย์ และ รมช.มหาดไทย หากมองในเชิงการเมืองถือว่าเสียหน้า แต่หากมองเรื่องการแก้ปัญหาของนายกฯก็ยอมรับได้
นายมั่น ยอมรับว่า รมช. 3 คนเป็นนายทุนของพรรค แต่ไม่ทั้งหมด เพราะทุกคนทำงานกับพรรคมานานและช่วยกันทำงาน ทั้งนายประสงค์ โฆษิตานนท์ นายพิชัย นริทะพันธุ์ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ก็เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่มีประวัติเสียหาย เมื่อทำงานดี ประชาชนให้การยอมรับ ก็ไม่ต้องกลัวอะไร
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ทบ.ทอ.ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับ ครม.ซึ่งมีข่าวว่ามีการใช้เงินซื้อตำแหน่ง แต่สำหรับตนคิดว่าไม่ควรจะมีการซื้อ และเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าดู และเชื่อว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะพยายามสรรหาบุคคลที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนไม่อยากวิจารณ์เรื่องการปรับครม. เพราะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร.เตรียมทหารรุ่น 6 อาจได้ดำรงรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยนั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับคณะผู้พิจารณาคัดเลือก เชื่อว่าจะพยายามคัดคนที่เหมาะสมที่สุด ส่วนที่ พล.ต.อ.โกวิทเคยเป็นสมาชิกคมช. จะมีความเหมาะสมในการตำแหน่ง รมว.มหาดไทยหรือไม่นั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ยังสามารถเป็น รมว.มหาดไทยได้ ดังนั้น พล.ต.อ.ก็สามารถเป็นได้เหมือนกัน
