"พิภพ" ชูผู้ว่าฯ ชลบุรี เปิดโอกาสให้ประชาชนได้พูดความจริง ต่างจากผู้ว่าฯ ศรีสะเกษที่ขนคนไปตีพันธมิตรฯ ย้ำหนทางทวงคืนเขาพระวิหารคือรัฐบาล "สมัคร" ต้องออกไปเท่านั้น ชี้แผนดึง "วีระ มุกสิกพงศ์" หนึ่งในแกนนำ นปก. ออกมาตอบโต้พันธมิตรฯ ผ่านช่อง NBT ตอกย้ำรัฐบาลคือน้ำเลี้ยง นปก. อย่างแท้จริง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลาประมาณ 21.45 น.นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีสะพานมัฆวาน ว่า ตนเพิ่งไปร่วมเวทีที่จังหวัดชลบุรีมา ปรากฏว่ามีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก 5-6 หมื่น หรืออาจจะถึง 7 หมื่น ซึ่งขอชมผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีว่า ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้พูดความจริงแบบนี้ ก็คงไม่มีการตีกันอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเราเองต้องการไปอย่างสันติ เพื่อแสดงความรักชาติและอธิปไตย แต่รัฐบาลกลับโง่ที่เอาคนไทยด้วยกันไปตีกันเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่มีประสิทธิภาพปกป้องประเทศ มีแต่จะเสียทีให้เขมร เรื่องนี้ถ้าเราเตรียมการไม่ดี ดีไม่ดีเราจะสูญเสียพื้นที่เขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตรไป แต่ถ้าไม่อยากให้เสีย รัฐบาลนี้ต้องออกไป เพราะไม่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่ตอนนี้รัฐบาลก็ยังไม่รู้ตัว ซึ่งหลังจากนี้ ต้องดูว่า ผบ.สูงสุด จะแก้ไขอย่างไร เราเองก็หวังว่าจะไม่เสียพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรนี้ไปอีก
“เรื่องทั้งหมดนี้ เหตุมาจากรัฐบาลทักษิณ ในช่วงนั้นเขมรเอาคนเข้ามาแล้วทหารก็ผลักดันออกไป แต่ ทักษิณ บอกว่า อย่าเพิ่งทำให้เกิดเรื่อง ถึงวันนี้เราต้องผลักดันให้ทหารออกไป เพราะนโยบายของรัฐบาลเป็นนโยบายที่โง่สุดๆ เอาคนไปตีพันธมิตรฯ แทนที่เราจะได้เข้าไปพื้นที่ 4.6 ต้องเสียเวลากับนักการเมืองท้องถิ่น ที่ถูกสั่งให้เอามาทำร้ายเรา” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้กำลังพยายามที่จะโต้ตอบ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จากเดิมที่ตั้งใจจะออกรายการตอบโต้ทุกวัน แต่นายสมัครก็ถอยกลับไป แล้วให้แกนนำ นปก.มาโผล่ในรายการข่าวหน้า 4 ที่ออกอากาศเวลา 22.00 น.ทางเอ็นบีที แทน โดยเปลี่ยนเป็นรายการชาวสนามหลวง และให้ นายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่ง นายวีระ เองเป็นหนึ่งในแกนนำ นปก.ซึ่งการให้ นปก.ออกมาโต้ตอบพันธมิตรฯ ในรายการชาวสนามหลวง เป็นการบ่งบอกว่ารัฐบาลเป็นคนสนับสนุน นปก.อย่างแท้จริง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือรัฐบาลเป็นเจ้าของแก๊งอันธพาลกวนเมือง นปก. เมื่อรัฐบาลสร้างแก๊งอันธพาลขึ้นมาเช่นนี้ ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไปแล้ว
การที่นายสมัครออกมาตีรวน แล้วบอกว่า ถ้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องแล้วเริ่มดำเนินคดี คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะต้องหยุดทำงานเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายกฯ กำลังทำให้ไขว้เขว เพื่อจะบีบ ป.ป.ช.บีบศาลเพื่อไม่ให้พิจารณาคดีเกี่ยวกับ ครม.ที่ทำผิดรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าดำเนินคดีเมื่อไหร่ ครม.ต้องหยุด ซึ่งะเป็นเรื่องไม่จริง เพราะหาก ครม.ไม่สามารถทำงานได้ รัฐสภาสามารถลงมติเลือกนายกฯ ขึ้นมาใหม่ และตั้งครม.ใหม่ได้ เพราะฉะนั้น ครม.ควรจะลาออกและนายสมัครก็ลาออกทั้งชุดเลย โดยที่ปัญหาเรื่องช่องว่างทางการบริหารจะไม่เกิด แต่นายสมัครกำลังทำให้ประชาชนไขว้เขว แล้วบอกว่า ตุลาการก้าวล่วงการทำงานของฝ่ายบริหาร แต่การที่ฝ่ายตุลาการจะก้าวล่วงได้ก็เพราะฝ่ายบริหารทำผิดรัฐธรรมนูญ ทำผิดกฎหมาย ต้องถูกนำคดีขึ้นสู่ศาลปกครอง ศาลฎีกาแผนกนักการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลเหล่านี้มีไว้กำกับตรวจสอบไม่ให้นักการเมืองทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่การก้าวก่าย แต่นายสมัครกำลังตีรวนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา ทั้งๆ ที่นักการเมือง พรรคพลังประชาชนเองที่มีปัญหา
นายพิภพ กล่าวย้ำว่า จุดยืนของพันธมิตรฯ คือ ไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป้ฯรัฐธรรมนูญที่มาจาก 14 ล้านเสียง และไม่ยอมให้ทำลายอำนาจตุลาการที่ในหลวงทรงชี้แนะ และตรัสให้โอวาท กับหัวหน้าฝ่ายยุติธรรมสูงสุด ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา ศาลปกครอง ว่าให้ขบวนการตุลาการมาแก้ไขปัญหาวิกฤติของแระเทศ แต่นายสมัครคนที่บอกว่าจงรักภักดี กลับมาทำลายแนวพระราชดำริในการแก้ปัญหาประเทศของประเทศด้วยกระบวนการตุลาการ อย่างนี้จะเรียกว่านายสมัครจงรักภักดีได้หรือไม่
ดังนั้น ตรงนี้เราต้องยันเอาไว้ ให้ศาลได้ตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าผิดจริงหรือไม่ผิด ถ้าทำผิดก็ต้องติดคุก ตรงนี้เราต้องมาทบทวนกันอยู่เสมอ ส่วนหน้าที่ของพี่น้อง ก็ต้องหาทางว่าจะทำอย่างไร เพื่อจัดตั้งและรวมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เป็นแฟนเอเอสทีวีอยู่แล้ว ให้ญาติพี่น้องออกมาจากต่างจังหวัด อย่างเช่น ใน ชลบุรี ขอนแก่น สมุย หาดใหญ่ หรือที่อื่นๆ ที่กำลังทำอยู่ ให้ครบ 76 จังหวัด เพื่อเป็นพลังต่อสู้ต่อไป อย่างเช่นวันนี้ ที่พันธมิตรฯ ได้เดินเท้ามาถึงแล้ว ได้เห็นถึงการร่วมมือ การแสดงออกเห็นด้วยกับพันธมิตรอย่างไรบ้างในระหว่างทาง