“เพื่อแผ่นดิน” ฟัดกันนัว “ประสงค์-ไชยยศ” ประจันหน้ากลางห้องแถลงข่าวชิงเก้าอี้ มท.3 เจ้าของเก้าอี้ยันไม่ลาออก ยอมรับเขียนใบลาไว้ล่วงหน้าแต่ไม่เคยมอบหมายใครลงวันที่แทน ด้านผู้ท้าชิงแฉกลับ เคยให้สัญญาจะแค่ 3 อาทิตย์ ถึง 16 ต.ค. ด้าน ส.ส.พรรคสุดเอือมระอา เตรียมทิ้งพรรค คาด พผ.ปิดฉากแค่นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (28ต.ค.) นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วยนาย สมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส และนายมานพ ปัตวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายประสงค์ยืนยันว่า ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งรมช.มหาดไทยตามที่นายไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรคได้ออกมาแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และได้ทำหนังสือยืนยันไม่ลาออกไปถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งยังทำหนังสือยับยั้งกรณีที่นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี ได้ส่งหนังสือลาออกไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย
นายประสงค์ ยอมรับว่า ก่อนรับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ทางผู้บริหารพรรคเกรงว่าสุขภาพตนจะไม่ดีและทำงานไม่ได้ จึงได้ให้ตนเขียนจดหมายลาออกด้วยลายมือเอาไว้ โดยไม่ได้ระบุวันที่ และตนก็ไม่ได้มอบหมายให้ใครลงวันที่แทน โดยหากจะลาออกตนจะลงวันที่ด้วยตัวเอง พร้อมจะไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีเอง ดังนั้น เอกสารดังกล่าวจึงยังไม่สมบูรณ์ ยืนยันว่าระหว่างที่บ้านเมืองมีปัญหาอย่างนี้จะไม่ทำตัวให้เป็นปัญหากับทางรัฐบาลอย่างแน่นอน ถ้าตนลาออกก็ถือว่าขี้ขลาด แต่ไม่รู้สึกโกรธนายไชยยศ เพราะถือเป็นเกมอย่างหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายประสงค์ แถลงข่าวอยู่นั้น นายไชยยศได้มายืนสังเกตการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยเมื่อนายประสงค์แถลงจบ ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าถ้าเจอนายไชยยศจะสอบถามนายไชยยศถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทำให้นายไชยยศเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะแถลงข่าวข้างๆ นายประสงค์ทันที ซึงนายประสงค์ ถึงกับหน้าถอดสี พร้อมกับกลืนน้ำลายอยู่ตลอดเวลา
หลังจากนั้น นายไชยยศได้เปิดฉากแถลงแฉนายประสงค์ โดยยืนยันว่าก่อนรับตำแหน่งนายประสงค์ได้ยืนยันกับแกนนำพรรคว่าขออยู่ต่ออีก 3 สัปดาห์ เนื่องจากไม่ต้องการให้ถูกปรับออก แต่อยากลาออกเอง อีกทั้งในช่วงนั้นยังมีกระแสข่าวว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง แล ะส.ส.ในพรรคก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้คนนอกมาเป็นรัฐมนตรี ซึ่งนายประสงค์ยืนยันว่าจะลาออกในวันที่ 16 ต.ค. โดยให้ตนเป็นรัฐมนตรีแทน ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ตนได้พบกับนายประสงค์ที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายประสงค์บอกให้ตนลงวันที่ในใบลาออกที่เขียนด้วยลายมือนายประสงค์ได้เลย ดังนั้น หัวหน้าพรรคจึงได้นำเรียนนายกฯ เพื่อให้พิจารณาต่อไป ซึ่งถือว่าใบลาออกมีผลทันที ทำให้การเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง
ผู้สื่อข่าวถามนายประสงค์ว่า ได้มอบหมายให้นายไชยยศลงวันที่ในใบลาออกตามที่นายไชยยศแถลงหรือไม่ นายประสงค์ หยุดคิดไปครู่หนึ่ง พร้อมกับระบุว่า ไม่ได้มีการระบุให้นายไชยยศลงวันที่ รวมทั้งไม่เคยมีการต่อรองให้อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีเพียง 3 สัปดาห์ จะเป็นไปได้อย่างไร ใครเคยเป็นรัฐมนตรี 3 สัปดาห์ เรื่องนี้เป็นปัญหาในพรรคจึงไม่อยากโต้เถียงกับนายไชยยศ เพราะตนเป็นผู้ใหญ่ จะทำให้พรรคเสียหาย ดังนั้นเรื่องนี้ควรมีการพูดและหารือในพรรคโดยในวันที่ 29 ต.ค. ตนจะนำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหาข้อยุติต่อไป เพราะนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค เพิ่งเดินทางกลับประเทศไทยในวันเดียวกันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกล่าวจบ นายประสงค์ได้ลุกขึ้นออกจากโต๊ะแถลงข่าวและเดินหนีออกจากห้องแถลงข่าวทันที พร้อมกับระบุว่าตนไม่ทันเกมการเมือง เพราะตนไม่เคยอยู่การเมืองมาก่อน เมื่อถามว่าที่ถูกกดดันออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีเพราะถูกกดดันให้จ่ายเงินให้พรรคเพิ่มใช่หรือไม่ นายประสงค์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่เคยซื้อตำแหน่งตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่เกิดจากความเห็นชอบจากผู้ใหญ่
นายไชยยศ กล่าวเปิดใจหลังการแถลงข่าวว่า ตนไม่อยากออกมา แต่ถูกนายประสงค์พาดพิงว่าตนอยากเป็นรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ตำแหน่งนี้ตกลงกันเบื้องต้นว่าต้องเป็นตน แต่การที่ตนทำตัวเป็นคนดีกับต้องโดนเรื่องพวกนี้ ตนเล่นการเมืองมา 20 ปี ใครบ้างไม่อยากเป็นรัฐมนตรี และเอกสารใบลาออกเป็นเอกสารที่แท้จริง แต่ไม่ลงวันที่ แต่ที่ให้เขียนเป็นลายมือเพราะไม่ไว้วางใจนายประสงค์ จึงเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากแถลงข่าวเสร็จ 4 ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินที่ร่วมแถลงข่าวได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์นายไชยยศ โดย นพ.แวมาฮาดี กล่าวว่า พฤติกรรมของนายไชยยศเป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง ถึงกับบุกเข้ามาในห้องแถลงข่าว แสดงว่าอยากเป็นรัฐมนตรีกันอย่างมากจนทำให้ ส.ส.รู้สึกละอายแทน เชื่อว่าการกระทำของนายไชยยศต้องมีผู้ใหญ่ที่มีลายเซ็นอยู่ในใบลาออกของนายประสงค์ อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญ โฆษกพรรคอย่างนายไชยยศ ไม่น่าจะมีเอกสารนี้ได้ นายประสงค์ จะฟ้องในเรื่องการสร้างเอกสารปลอม แต่ถูกผู้ใหญ่ของพรรคห้ามปรามไว้ จึงอยากให้นายไชยยศคำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย ทั้งนี้ ส.ส.ในพรรคให้การสนับสนุนนายสมเกียรติ ศรลัมภ์ กับนายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นรัฐมนตรีมากกว่าคนอื่น ดังนั้นเมื่อพรรคไม่เป็นระบบการทำงานร่วมกันก็ลำบาก ส.ส.หลายคนจึงถอดใจไม่อยากทำงานร่วมกับพรรคนี้อีกแล้ว เชื่อว่าพรรคเพื่อแผ่นดินคงจบแค่นี้
ด้าน นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเกลียด น่าละอาย ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวทำได้ แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีถือว่าสำคัญ ถ้าคิดว่าเป็นแค่เกมก็คิดผิดแล้ว พอแล้วไม่เอาแล้วพรรคนี้ เมื่ออุดมการณ์ ระบบเหตุผลไม่ชัดเจนก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ตนก็อาจจะยุติบทบาทในพรรคเพื่อแผ่นดินเพียงเท่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าสำหรับหนังสือลาออกของนายประสงค์ ดังกล่าวลงวันที่ 28 ต.ค.2551 ลงนามโดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ปรากฏว่าในระหว่างยื่นถึงนายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ไม่อยู่ในประเทศไทย โดยติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ และเพิ่งเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเย็นของวันที่ 28 ต.ค. อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายไชยยศ แถลงข่าวแฉนายประสงค์ เสร็จได้เดินทางเพื่อขอเข้าพบนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีที่บ้านพักย่านถนนแจ้งวัฒนะทันที
