เลขาฯ กกต.เผยความเห็นที่ปรึกษา กม.ระบุชัด หาก “อภิชาต” เห็นควรยกคำร้องยุบ ปชป.กรณี 258 ล้านไม่ต้องเสนอที่ประชุม กกต.อีก พร้อมมีมติรับรอง “ประยุทธ์” เป็นส.ส.มหาสารคาม เพื่อไทยแล้ว
วันนี้ (28 ม.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่าที่ประชุม กกต.มีมติประกาศรับรองนายประยุทธ์ ศิริพานิช จากพรรคเพื่อไทย เป็น ส.ส. เขต 1 มหาสารคาม โดยยกคำร้องในกรณีที่นางคมคาย อุดรพิมพ์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ร้องว่าหาเสียงหลอกลวงด้วยการใส่ร้ายให้เข้าใจผิดรวมไปถึงการหาเสียงด้วยความรื่นเริง
นายสุทธิพลยังกล่าวว่า จากการที่นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษากรณีเงิน 258 ล้านบาท และการใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตยผิดวัตถุประสงค์ และต่อมาได้หารือที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.เกี่ยวกับอำนาจของ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมืองกรณีการยุบพรรคการเมืองนั้น ขณะนี้ที่ปรึกษากฎหมายได้มีความเห็นในสามประการประกอบด้วย 1.การที่ กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ส่งเรื่องนายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาตาม มาตรา 95 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง นั้น การจะเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ยุบพรรคการเมือง เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะมีความเห็นก่อนแล้วจึงเสนอต่อ กกต.เพื่อขอความเห็นชอบ ดังนั้นนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงสามารถนำข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามรายงานการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต.ที่เคยตั้งขึ้น มาประกอบการตรวจสอบและมีความเห็นว่า พรรคการเมืองดังกล่าวกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย อันมีเหตุที่จะให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองหรือไม่
2.กรณีที่หากนายทะเบียนเห็นว่าไม่ควรยุบพรรคจำเป็นต้องส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณาอีกหรือไม่ ที่ปรึกษากฎหมายเห็นว่า กรณีที่เมื่อนายทะเบียนตรวจสอบและเห็นว่าพรรคการเมือง ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย ก็ไม่ต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อ กกต.แต่อย่างใด 3.การกระทำความผิดครั้งนี้เป็นการทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 2541 จะสามารถนำมาใช้กับกฎหมายฉบับปัจจุบันคือ พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 2550 ได้หรือไม่ ที่ปรึกษากฎหมายเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญ เคยมีคำวินิจฉัยข้อกฎหมาย เมื่อครั้งขอเสนอยุบพรรคพลังธรรม ซึ่งมีประเด็นทำนองเดียวกันกับข้อหารือนี้ โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า พ.ร.บ.พรรคการเมือง 2541 ม.62 และ ม.65 เป็นบทบัญญัติที่มีผลบังคับใช้ในขณะที่ผู้ร้องไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ส่วน พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2550 ม.82 และ ม.93 แม้จะเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับภายหลังแต่ก็มิได้เพื่อให้มีผลแตกต่างจนทำให้ไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองในเหตุเดียวกันได้ ดังนั้นจึงสามารถนำคำวินิจฉัยดังกล่าวมาเทียบเคียงได้
นายสุทธิพลกล่าวว่า หลังจากนี้ ประธาน กกต.จะได้นำผลการหารือที่ปรึกษากฎหมายเสนอให้ คณะทำงานพิจารณาพิจารณาต่อไป