xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ชี้ช่องผลแพ้ชนะเลือกซ่อมสารคาม ร้องนับคะแนนใหม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประพันธ์ นัยโกวิท
กกต.เผย “ประยุทธ์” ถูกร้องใส่ร้าย จึงไม่อาจประกาศรับรองได้ภายใน 7 วัน แต่ยืนยันจะรับรองคุณสมบัติให้ทันภายใน 30 วัน ชี้ช่องผลแพ้ชนะแค่ 1 พันกว่าคะแนน หากมีคำร้องให้รับคะแนนใหม่ได้ เผยรับได้ทุกระบบเลือกตั้งขอให้แก้แล้วใช้ยืนยาว หวั่นกลับไปกลับมาประชาชนสับสน

วันนี้ (4 ม.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการรายงานผลปรากฏว่า นายประยุทธ์ ศิริพานิช ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้ 111,394 คะแนน นางคมคาย อุดรพิมพ์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทยได้ 110,158 คะแนน และ นายบุญธร อุปนันท์ พรรคแทนคุณแผ่นดินได้ 2,037 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 65.84 มีบัตรดี 96.26 ใบ บัตรเสีย ร้อยละ 1.09 และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ร้อยละ 2.66

สำหรับผู้ที่ได้การเลือกตั้งมีเรื่องร้องเรียน 1 เรื่อง คือ ใส่ร้ายให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของ กกต.จว. จึงไม่อาจประกาศรับรองได้ภายใน 7 วัน โดยกกต.จะได้เร่งสอบสวนให้เสร็จภายใน 30 วัน หากยังไม่แล้วเสร็จก็อาจจำเป็นต้องประกาศรับรองผลไปก่อน อย่างไรก็ตาม คะแนนของผู้ชนะกับคนที่ได้ที่สอง ห่างกันประมาณพันกว่าคะแนนนั้น หากมีมูลหรือมีข้อเท็จจริงก็สามารถนำมาร้องให้ กกต.นับคะแนนใหม่ได้ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีเรื่องเรียนดังกล่าว

ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าเขต 1 จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 2-3 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิประมาณ 12,000 คน ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับครั้งที่แล้ว ที่มีผู้มาใช้สิทธิล่วงหน้า 8,000 คน ซึ่งหวังว่าในวันเลือกตั้งที่ 10 .ค.จริงจะมี่ผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 60%

นายประพันธ์ กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญที่ฝ่ายการเมืองต้องการเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งจากเขตใหญ่ 3 เบอร์ เป็นเขตเดียวเบอร์เดียวว่า อยู่ที่นักการเมืองจะพิจารณา เพราะทุกระบบ มีข้อดีข้อด้อย อย่างเขตเดียว 3 เบอร์ก็มองกันว่าซื้อเสียงได้ยาก แต่เขตเดียวเขตเดียวก็มองว่าหาเสียงได้ทั่วถึง ทั้งนี้ตอนยกร่างรัฐธรรมนูญก็มีการโหวตเรื่องนี้กัน แพ้ชนะก็ทิ้งกันไม่เยอะดังนั้นก่อนจะตัดสินก็ควรพิจารณาให้ถ่องแท้ แก้กลับไปกลับมาประชาชนก็สับสน คนจัดก็สับสน อย่างไรก็ตามไม่ว่าแบบไหน กกต.ก็ทำได้

“เขตใหญ่คนซื้อเสียงก็ต้องซื้อเยอะต้องทำมาก โอกาสดักถ่ายรูปเป็นพยานหลักฐานก็จะมีเยอะยกตัวอย่างเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.เขตใหญ่มาก ถ้าเอาเงิน 20-30 ล้าน ไปซื้อเพื่อให้ได้ไมกี่หมื่นเสียงมันไม่คุ้ม อย่างไรก็ตาม ขอให้นักการเมืองไปคิดให้ตกผลึกแล้วเปลี่ยนแปลงแบบไหนก็ใช้ให้ยืนยาว”

กำลังโหลดความคิดเห็น