เคาะข่าวริมโขง : “ป๊อก” ดึงกองทัพเสื่อม!! ปล่อยเกียร์ว่าง รอเกษียณ ยอมทิ้งเกียรติให้ขบวนการขายชาติย่ำยีไทย แฉ วงการคนเสื้อเขียวถึงจุดตกต่ำ หลังผู้นำทิ้งคำสัตย์ เปิดช่อง “นช.แม้ว” ทำร้ายบ้านเมือง แฉกลยุทธ์ดูดเสื้อแดงชุมนุม “จ่าย 5,000 วันเดียวจบ” แถมแพกเกจเสริม เจ็บ-ตาย จ่ายไม่อั้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันอังคารที่ 29 ธันวาคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีความเสื่อมในวงการทหารไทย ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่ได้มีการเลือกข้างคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มากกว่าการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของทหารหาญพระเจ้าแผ่นดิน
น.ส.วรรษมน กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมาประกาศจะชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงอีกครั้งหลังวันที่ 14 ก.พ. 2553 ซึ่งครั้งนี้ จะรวบรวมคนเสื้อแดงนับแสนมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายชัชวาลย์ กล่าวประเด็นนี้ ว่า มีรายงานข่าวแจ้งมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจ้างคนเสื้อแดงชุมนุมวันละ 5,000 บาท ม้วนเดียวจบ ซึ่งตอนนี้มีหลายอำเภอใน จ.เพชรบูรณ์ กำลังรวบรวมคนเสื้อแดง โดยได้มีการทำประกันชีวิตให้ด้วย หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แล้วถ้าเสียชีวิต ก็มีเงินอีกก้อนให้เป็นค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้มันสอดคล้องกับคำพูด นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาประกาศว่า หากมีความรุนแรงหรือความวุ่นวายเกิดขึ้น ฝ่ายอื่นอย่ามาโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง เพราะผู้ที่มาชุมนุมครั้งนี้มาด้วยความสมัครใจ ดังนั้นจึงไม่สามารถบังคับหรือควบคุมใครได้
นายประพันธ์เสริมประเด็นนี้ว่า ตอนนี้จะเห็นว่านายวีระกำลังพยายามหาทางลง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณอย่างหนึ่งว่าการชุมนุมครั้งนี้ของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องมีความรุนแรงแน่นอน ซึ่งในเมื่อบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ ตนก็อยากฝากให้ทหารที่ถือเป็นรั้วของชาติได้ทำหน้าที่เป็นกำลังหลักในการปกป้องบ้านเมือง โดยเท่าที่ตนทราบ พวกทหารรุ่นหลังเวลานี้ก็รู้สึกอัดอั้นตันใจที่เห็นสิ่งที่นายทหารรุ่นพี่หลายคนทำไว้กับบ้านเมืองตัวเอง
นายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า ตนอยากฝากถึงกลุ่มนายทหารที่เดินทางเข้าคารวะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยอยากให้มีจิตสำนึกในความคิดว่าจะปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ได้ให้ไว้ เพราะเป็นเรื่องที่น่าเสียหายกับพฤติกรรมนายทหารบางนายเวลานี้ที่เคยได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิต เมื่อครั้งที่ได้คทาจอมทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แตะลงบนบ่า ซึ่งทหารรุ่นหลังไม่ได้เกียรติเช่นนั้น แต่กลับมีจิตสำนึกในความรักชาติมากกว่า
น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “แก่แล้วยังเล่นไม่เลิกแบบนี้ ไม่เห็นด้วย แก่แล้วจะไปทำอะไรได้ ปล่อยให้คนรุ่นหลังเขาทำกันดีกว่า” ซึ่งประโยคเด็ดที่หลุดจากปาก พล.อ.อนุพงษ์ ครั้งนี้ สื่อมวลชนได้ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผบ.ทบ.หมายถึงใคร โดยตอนนี้ ถ้าหากให้คาดเดา สิ่งที่ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องการมากที่สุด คือ จบชีวิตราชการในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วยความสวยหรู
นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า ถึงแม้ พล.อ.อนุพงษ์ จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ตนก็คิดว่าคงไม่มีความสุข เนื่องจากเวรกรรมที่ทำไว้ติดจรวด ดังนั้น รับรองว่าหลังหมดวาสนาแล้วจะต้องมีคนตามคิดบัญชีที่หลังแน่
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า วันนี้ประเทศไทยมีคนไม่รักชาติ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำร้ายชาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ2.กลุ่มที่ปล่อยให้ผู้อื่นทำร้ายชาติ นั่นก็คือ รัฐบาลและกองทัพ ดังนั้น การที่ฝ่ายที่มีหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองยังคงนิ่งเฉยอยู่ โดยเฉพาะกองทัพที่บัดนี้ยังไม่ทำอะไรเลยอย่างสักอย่าง ตนก็ขอบอกว่า เหตุที่กองทัพตกต่ำ ก็เพราะการกระทำของ พล.อ.อนุพงษ์
นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า เมื่อวานคำพูดของ พล.อ.เปรม สามารถสะท้อนได้หลายอย่าง ซึ่งก็มีจุดประสงค์เพื่อมุ่งตอกย้ำให้นายทหารที่บกพร่องต่อหน้าที่ ตระหนักว่าสิ่งที่แบกอยู่บนบ่า คืออะไรแล้วหันกลับมาปฏิบัติเพื่อบ้านเมื่องอีกครั้ง
“พล.อ.เปรม คงเห็นว่าเวลานี้วงการทหารถึงจุดเสื่อม คือ เกิดวิกฤตกับเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ยังรับราชการอยู่ หรือพวกเกษียณไปแล้วและไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ทุกอย่างมันสอดคล้องกับประโยคที่ พล.อ.อนุพงษ์ พูดว่า แก่แล้วเล่นไม่เลิก ผบ.ทบ.ต้องการหมายถึงใคร” นายประพันธ์กล่าว
นายโสภณกล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เกิดขบวนการขายชาติอย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง จากการกระทำของนักการเมืองและทหารบางคน ที่เปิดช่องให้กัมพูชาเข้ามามีส่วนร่วมในการทำร้ายประเทศตัวเอง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันอังคารที่ 29 ธันวาคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีความเสื่อมในวงการทหารไทย ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่ได้มีการเลือกข้างคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มากกว่าการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของทหารหาญพระเจ้าแผ่นดิน
น.ส.วรรษมน กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมาประกาศจะชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงอีกครั้งหลังวันที่ 14 ก.พ. 2553 ซึ่งครั้งนี้ จะรวบรวมคนเสื้อแดงนับแสนมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายชัชวาลย์ กล่าวประเด็นนี้ ว่า มีรายงานข่าวแจ้งมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจ้างคนเสื้อแดงชุมนุมวันละ 5,000 บาท ม้วนเดียวจบ ซึ่งตอนนี้มีหลายอำเภอใน จ.เพชรบูรณ์ กำลังรวบรวมคนเสื้อแดง โดยได้มีการทำประกันชีวิตให้ด้วย หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แล้วถ้าเสียชีวิต ก็มีเงินอีกก้อนให้เป็นค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้มันสอดคล้องกับคำพูด นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาประกาศว่า หากมีความรุนแรงหรือความวุ่นวายเกิดขึ้น ฝ่ายอื่นอย่ามาโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง เพราะผู้ที่มาชุมนุมครั้งนี้มาด้วยความสมัครใจ ดังนั้นจึงไม่สามารถบังคับหรือควบคุมใครได้
นายประพันธ์เสริมประเด็นนี้ว่า ตอนนี้จะเห็นว่านายวีระกำลังพยายามหาทางลง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณอย่างหนึ่งว่าการชุมนุมครั้งนี้ของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องมีความรุนแรงแน่นอน ซึ่งในเมื่อบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ ตนก็อยากฝากให้ทหารที่ถือเป็นรั้วของชาติได้ทำหน้าที่เป็นกำลังหลักในการปกป้องบ้านเมือง โดยเท่าที่ตนทราบ พวกทหารรุ่นหลังเวลานี้ก็รู้สึกอัดอั้นตันใจที่เห็นสิ่งที่นายทหารรุ่นพี่หลายคนทำไว้กับบ้านเมืองตัวเอง
นายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า ตนอยากฝากถึงกลุ่มนายทหารที่เดินทางเข้าคารวะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยอยากให้มีจิตสำนึกในความคิดว่าจะปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ได้ให้ไว้ เพราะเป็นเรื่องที่น่าเสียหายกับพฤติกรรมนายทหารบางนายเวลานี้ที่เคยได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิต เมื่อครั้งที่ได้คทาจอมทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แตะลงบนบ่า ซึ่งทหารรุ่นหลังไม่ได้เกียรติเช่นนั้น แต่กลับมีจิตสำนึกในความรักชาติมากกว่า
น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “แก่แล้วยังเล่นไม่เลิกแบบนี้ ไม่เห็นด้วย แก่แล้วจะไปทำอะไรได้ ปล่อยให้คนรุ่นหลังเขาทำกันดีกว่า” ซึ่งประโยคเด็ดที่หลุดจากปาก พล.อ.อนุพงษ์ ครั้งนี้ สื่อมวลชนได้ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผบ.ทบ.หมายถึงใคร โดยตอนนี้ ถ้าหากให้คาดเดา สิ่งที่ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องการมากที่สุด คือ จบชีวิตราชการในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วยความสวยหรู
นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า ถึงแม้ พล.อ.อนุพงษ์ จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ตนก็คิดว่าคงไม่มีความสุข เนื่องจากเวรกรรมที่ทำไว้ติดจรวด ดังนั้น รับรองว่าหลังหมดวาสนาแล้วจะต้องมีคนตามคิดบัญชีที่หลังแน่
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า วันนี้ประเทศไทยมีคนไม่รักชาติ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำร้ายชาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ2.กลุ่มที่ปล่อยให้ผู้อื่นทำร้ายชาติ นั่นก็คือ รัฐบาลและกองทัพ ดังนั้น การที่ฝ่ายที่มีหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองยังคงนิ่งเฉยอยู่ โดยเฉพาะกองทัพที่บัดนี้ยังไม่ทำอะไรเลยอย่างสักอย่าง ตนก็ขอบอกว่า เหตุที่กองทัพตกต่ำ ก็เพราะการกระทำของ พล.อ.อนุพงษ์
นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า เมื่อวานคำพูดของ พล.อ.เปรม สามารถสะท้อนได้หลายอย่าง ซึ่งก็มีจุดประสงค์เพื่อมุ่งตอกย้ำให้นายทหารที่บกพร่องต่อหน้าที่ ตระหนักว่าสิ่งที่แบกอยู่บนบ่า คืออะไรแล้วหันกลับมาปฏิบัติเพื่อบ้านเมื่องอีกครั้ง
“พล.อ.เปรม คงเห็นว่าเวลานี้วงการทหารถึงจุดเสื่อม คือ เกิดวิกฤตกับเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ยังรับราชการอยู่ หรือพวกเกษียณไปแล้วและไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ทุกอย่างมันสอดคล้องกับประโยคที่ พล.อ.อนุพงษ์ พูดว่า แก่แล้วเล่นไม่เลิก ผบ.ทบ.ต้องการหมายถึงใคร” นายประพันธ์กล่าว
นายโสภณกล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เกิดขบวนการขายชาติอย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง จากการกระทำของนักการเมืองและทหารบางคน ที่เปิดช่องให้กัมพูชาเข้ามามีส่วนร่วมในการทำร้ายประเทศตัวเอง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน