เคาะข่าวริมโขง : "ประสงค์" กร้าว "ไอ้ตู่ขายชาติ" โทษประหาร-จำคุกตลอดชีวิต ฐานคายความลับประเทศ เปิดช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ข้อมูล ชี้ "บัวแก้ว" ฟ้องหมิ่นประมาทแค่น้ำจิ้มเบาๆ ส่วนของจริง "ไอ้ตู่" เจอแน่ข้อหาหนัก!! ซัด "ฮุนเซน" ถูก "ผีเพื่อไทย" เข้าสิง จนไม่ใช่คนเดิม เชื่อ "นช.แม้ว" ชิงจังหวะสุกงอม ลงมือสู้รบแตกหัก กระทุ้งรัฐเผด็จศึกม้าศัตรู เพื่อตัดไฟต้นลมแล้วค่อยสอยขุนพลทีหลัง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม มี น.ส.กมลพร วรกุล นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเค้าลางว่ากำลังคิดก่อการเพื่อกลับคืนสู่อำนาจและยึดทุกอย่างกลับคืนมา
โดยในรายการได้มีการต่อสายสัมภาษณ์สด น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงประเด็นการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง น.ส.อัญชะลี ถามว่า การที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า การเปิดเผยเอกสารลับของทางราชการให้ผู้อื่นรับรู้ ทั้งที่ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ถือว่าผิดกฏหมายอาญา มาตราตั้งแต่ 120-125 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐ โดยเรื่องนี้ถ้าหากยึดกฏหมายเป็นที่ตั้งแล้ว ในฐานะที่นายจตุพร เป็นคนเปิดเผยความลับ ก็เท่ากับว่าเป็นคนขายชาติและทรยศต่อประเทศ ดังนั้น โทษที่ต้องได้รับคือ จำคุกตลอดชีวิตหรือไม่ก็ต้องประหารชีวิต ทั้งนี้ ถ้าหากรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเอาจริงเรื่องนี้ ตนก็คิดว่าสมควรที่ควรกระทำ
น.ส.กมลพร ถามว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งตัวแทนไปแจ้งกองปราบปราม ในข้อหาคดีหมิ่นประมาท น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ในข้างต้นตนคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศคงแจ้งความแค่คดีหมิ่นประมาทแก่นายจตุพรก่อน แต่ในส่วนข้อหาหนักกว่านี้ ต้องรอให้มีการรวบรวมหลักฐานชัดเจนก่อน แต่เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่า สิ่งที่นายจตุพรทำ เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเสียหาย และทำให้ประเทศอื่นล่วงรู้ จนเป็นภัยต่อความมั่นคงไทย ดังนั้น ตนคิดว่านายจตุพร ไม่รอดความผิดนี้แน่ ถ้าทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งตนก็อยากเห็นให้เป็นเช่นนั้น
นายชัชวาลย์ ถามว่า มีหนังสือพิมพ์บางฉบับ เสนอข่าวว่าสิ่งที่ นายจตุพรทำ ไม่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศ แต่เป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐบาล รวมทั้งชื่นชมนายจตุพร ที่กล้าเปิดเผยข้อมูลเอกสารลับดังกล่าว น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ในฐานะที่ตนทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง กรณีนายจตุพรถือว่าเป็นความผิดทำลายความมั่นคงของรัฐแน่นอน เพราะการเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ต่างชาติล่วงรู้แผนการหรือแนวทางปฏิบัติไทย ดังนั้น กรณีนี้โทษไม่จำคุกตลอดชีวิต ก็ประหารชีวิต โดยเรื่องนี้ การที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งความแค่คดีหมิ่นประมาท ตนคิดว่าเป็นแค่น้ำจิ้ม ซึ่งของจริงก็น่าจะตามมาในไม่ช้านี้
น.ส.อัญชะลี ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นำเนื้อหาเอกสารลับไปขึ้นเว็บไซต์ทวิตเตอร์เผยแพร่ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ทั้งสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจตุพรทำ ไม่ได้แค่นำเสนอเนื้อหาเอกสารลับ แต่เป็นการบิดเบือนเนื้อหาเพื่อกล่าวหาผู้อื่นด้วย ดังนั้น ความผิดเรื่องนี้ น้ำหนักพุ่งเป้าไปที่ การกระทำที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือต่อสาธารณะ ในฐานะที่ข้อมูลดังกล่าวทำให้ฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ความลับ
น.ส.อัญชะลี ถามว่า มองท่าที สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เวลานี้เป็นเช่นไร หลังจากที่ล่วงรู้เอกสารลับดังกล่าว น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ตอนนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ต้องบอกว่าถูกผีสิง เพราะไม่ว่าจะพูดจาหรือทำอะไร ก็สอดคล้องไปหมดกับพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนพูดได้แต่เพียงว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ใช่คนเดิมที่เคยรู้จักและเคยช่วยเหลือในอดีต แต่เวลานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน กำลังเล่นบทเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยทำ คือ เจตนาล้มล้างรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
น.ส.อัญชะลี ถามว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน จะได้อะไรจากการล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ผลประโยชน์ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯ ฮุนเซน เกื้อหนุนกันมานาน ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งคู่ย่อมผูกติดกันตลอด เพราะผลประโยชน์คาบเกี่ยวกัน โดยการที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ชอบนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากไปขวางผลประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก็เหมือนกับว่าขวางผลประโยชน์ สมเด็จฯ ฮุนเซนด้วย
น.ส.อัญชะลี ถามว่า การที่ สมเด็จฯ ฮุนเซนเลือกยืนข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงว่ารู้ว่าสุดท้ายแล้วจะได้รับชัยชนะใช่หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า เวลานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน แค่ฝันลมๆแล้งๆ เพราะชาวโลกและใครต่อใครต่างรู้ดีว่า ฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิด และฝ่ายใดพยายามโยนปัญหามาให้แก่ไทย
น.ส.อัญชะลี ถามว่า ตอนนี้มีข่าวการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ว่าคิดจะก่อการอันใดกับไทย น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มขบวนการมานานแล้ว เพื่อต้องการกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม แต่ด้วยกลไกทุกอย่าง ดูเหมือนจะไม่เป็นใจ ทำให้พื้นที่ในการเคลื่อนไหวดูแคบลงไปทุกที ดังนั้น ตอนนี้ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะใช้ช่วงเวลานี้ เป็นจังหวะในการสู้รบถึงขั้นแตกหัก เพราะไม่สามารถรออะไรได้อีกแล้ว โดยจะสังเกตว่าทุกอย่างมันสอดคล้องและขานรับกันไปหมด ดังนั้น ในเมื่อรัฐบาลถือกฏหมายอยู่ในมือ ควรตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม และต้องยิงม้าของขุนศึกเสียก่อน เนื่องจากในเมื่อจับขุนศึกยังไม่ได้ ก็ควรตัดกำลังด้วยการยิงม้า เพราะหากขุนศึกนอกประเทศไม่มีม้าคอยรับใช้ ก็ไม่สามารถทำอะไรประเทศไทยได้ แต่ทั้งนี้ รัฐบาลต้องอย่าประมาทสถานการณ์เด็ดขาด รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังรัฐสภาให้ดีๆ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการมุ่งยุบสภา โดยรัฐบาลต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า คนบ้าหรือหมาบ้าไม่สามารถไว้ใจได้
น.ส.กมลพร ถามว่า อยากให้ฝากถึงสมเด็จฯ ฮุนเซน น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า เวลานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซนไม่ฟังเสียงผู้อื่น จึงทำให้หลงเชื่ออะไรที่ผิดๆ โดยตนขอเตือนว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับกัมพูชา ให้มองไปที่คนใกล้ตัวของสมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา สมเด็จฯ ฮุนเซน ปลดผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา ทั้งยังสลับสับเปลี่ยนกำลังพลวุ่นวาย ฉะนั้น สิ่งที่ทำกับทหารที่ถูกปลด อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในกัมพูชา ซึ่งถ้าหากจะมีปฏิวัติในกัมพูชาจริง ก็คงหนีไม่พ้น ทหารของกัมพูชาเองที่จะทำเช่นนั้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม มี น.ส.กมลพร วรกุล นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเค้าลางว่ากำลังคิดก่อการเพื่อกลับคืนสู่อำนาจและยึดทุกอย่างกลับคืนมา
โดยในรายการได้มีการต่อสายสัมภาษณ์สด น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงประเด็นการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง น.ส.อัญชะลี ถามว่า การที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า การเปิดเผยเอกสารลับของทางราชการให้ผู้อื่นรับรู้ ทั้งที่ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ถือว่าผิดกฏหมายอาญา มาตราตั้งแต่ 120-125 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐ โดยเรื่องนี้ถ้าหากยึดกฏหมายเป็นที่ตั้งแล้ว ในฐานะที่นายจตุพร เป็นคนเปิดเผยความลับ ก็เท่ากับว่าเป็นคนขายชาติและทรยศต่อประเทศ ดังนั้น โทษที่ต้องได้รับคือ จำคุกตลอดชีวิตหรือไม่ก็ต้องประหารชีวิต ทั้งนี้ ถ้าหากรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเอาจริงเรื่องนี้ ตนก็คิดว่าสมควรที่ควรกระทำ
น.ส.กมลพร ถามว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งตัวแทนไปแจ้งกองปราบปราม ในข้อหาคดีหมิ่นประมาท น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ในข้างต้นตนคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศคงแจ้งความแค่คดีหมิ่นประมาทแก่นายจตุพรก่อน แต่ในส่วนข้อหาหนักกว่านี้ ต้องรอให้มีการรวบรวมหลักฐานชัดเจนก่อน แต่เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่า สิ่งที่นายจตุพรทำ เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเสียหาย และทำให้ประเทศอื่นล่วงรู้ จนเป็นภัยต่อความมั่นคงไทย ดังนั้น ตนคิดว่านายจตุพร ไม่รอดความผิดนี้แน่ ถ้าทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งตนก็อยากเห็นให้เป็นเช่นนั้น
นายชัชวาลย์ ถามว่า มีหนังสือพิมพ์บางฉบับ เสนอข่าวว่าสิ่งที่ นายจตุพรทำ ไม่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศ แต่เป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐบาล รวมทั้งชื่นชมนายจตุพร ที่กล้าเปิดเผยข้อมูลเอกสารลับดังกล่าว น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ในฐานะที่ตนทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง กรณีนายจตุพรถือว่าเป็นความผิดทำลายความมั่นคงของรัฐแน่นอน เพราะการเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ต่างชาติล่วงรู้แผนการหรือแนวทางปฏิบัติไทย ดังนั้น กรณีนี้โทษไม่จำคุกตลอดชีวิต ก็ประหารชีวิต โดยเรื่องนี้ การที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งความแค่คดีหมิ่นประมาท ตนคิดว่าเป็นแค่น้ำจิ้ม ซึ่งของจริงก็น่าจะตามมาในไม่ช้านี้
น.ส.อัญชะลี ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นำเนื้อหาเอกสารลับไปขึ้นเว็บไซต์ทวิตเตอร์เผยแพร่ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ทั้งสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจตุพรทำ ไม่ได้แค่นำเสนอเนื้อหาเอกสารลับ แต่เป็นการบิดเบือนเนื้อหาเพื่อกล่าวหาผู้อื่นด้วย ดังนั้น ความผิดเรื่องนี้ น้ำหนักพุ่งเป้าไปที่ การกระทำที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือต่อสาธารณะ ในฐานะที่ข้อมูลดังกล่าวทำให้ฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ความลับ
น.ส.อัญชะลี ถามว่า มองท่าที สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เวลานี้เป็นเช่นไร หลังจากที่ล่วงรู้เอกสารลับดังกล่าว น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ตอนนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ต้องบอกว่าถูกผีสิง เพราะไม่ว่าจะพูดจาหรือทำอะไร ก็สอดคล้องไปหมดกับพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนพูดได้แต่เพียงว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ใช่คนเดิมที่เคยรู้จักและเคยช่วยเหลือในอดีต แต่เวลานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน กำลังเล่นบทเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยทำ คือ เจตนาล้มล้างรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
น.ส.อัญชะลี ถามว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน จะได้อะไรจากการล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ผลประโยชน์ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯ ฮุนเซน เกื้อหนุนกันมานาน ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งคู่ย่อมผูกติดกันตลอด เพราะผลประโยชน์คาบเกี่ยวกัน โดยการที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ชอบนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากไปขวางผลประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก็เหมือนกับว่าขวางผลประโยชน์ สมเด็จฯ ฮุนเซนด้วย
น.ส.อัญชะลี ถามว่า การที่ สมเด็จฯ ฮุนเซนเลือกยืนข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงว่ารู้ว่าสุดท้ายแล้วจะได้รับชัยชนะใช่หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า เวลานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน แค่ฝันลมๆแล้งๆ เพราะชาวโลกและใครต่อใครต่างรู้ดีว่า ฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิด และฝ่ายใดพยายามโยนปัญหามาให้แก่ไทย
น.ส.อัญชะลี ถามว่า ตอนนี้มีข่าวการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ว่าคิดจะก่อการอันใดกับไทย น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มขบวนการมานานแล้ว เพื่อต้องการกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม แต่ด้วยกลไกทุกอย่าง ดูเหมือนจะไม่เป็นใจ ทำให้พื้นที่ในการเคลื่อนไหวดูแคบลงไปทุกที ดังนั้น ตอนนี้ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะใช้ช่วงเวลานี้ เป็นจังหวะในการสู้รบถึงขั้นแตกหัก เพราะไม่สามารถรออะไรได้อีกแล้ว โดยจะสังเกตว่าทุกอย่างมันสอดคล้องและขานรับกันไปหมด ดังนั้น ในเมื่อรัฐบาลถือกฏหมายอยู่ในมือ ควรตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม และต้องยิงม้าของขุนศึกเสียก่อน เนื่องจากในเมื่อจับขุนศึกยังไม่ได้ ก็ควรตัดกำลังด้วยการยิงม้า เพราะหากขุนศึกนอกประเทศไม่มีม้าคอยรับใช้ ก็ไม่สามารถทำอะไรประเทศไทยได้ แต่ทั้งนี้ รัฐบาลต้องอย่าประมาทสถานการณ์เด็ดขาด รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังรัฐสภาให้ดีๆ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการมุ่งยุบสภา โดยรัฐบาลต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า คนบ้าหรือหมาบ้าไม่สามารถไว้ใจได้
น.ส.กมลพร ถามว่า อยากให้ฝากถึงสมเด็จฯ ฮุนเซน น.ต.ประสงค์ กล่าวประเด็นนี้ว่า เวลานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซนไม่ฟังเสียงผู้อื่น จึงทำให้หลงเชื่ออะไรที่ผิดๆ โดยตนขอเตือนว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับกัมพูชา ให้มองไปที่คนใกล้ตัวของสมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา สมเด็จฯ ฮุนเซน ปลดผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา ทั้งยังสลับสับเปลี่ยนกำลังพลวุ่นวาย ฉะนั้น สิ่งที่ทำกับทหารที่ถูกปลด อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในกัมพูชา ซึ่งถ้าหากจะมีปฏิวัติในกัมพูชาจริง ก็คงหนีไม่พ้น ทหารของกัมพูชาเองที่จะทำเช่นนั้น
