xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ปรี๊ดแตก!! ลั่นยืนหลังโพเดียมเบียดบังเวลาใคร สวนสื่อคิดอะไรตั้งฉายา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” ควันออกหู! สื่อซักยืนหลังโพเดียมมากกว่าทำงาน ยันปาฐกถาหวังเชื่อมสัมพันธ์รัฐกับเอกชน ลั่นออกงานไม่ได้เบียดบังเวลาใคร เพราะต้องทำงานหนักขึ้น ท้าไปดูผลสั่งการข้าราชการไม่น้อยกว่ายุคอื่น สวนคนตั้งฉายา “หล่อหลักลอย” รู้สึกยังไง ยันประชาชนได้ประโยชน์ไทยเข้มแข็ง

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (29 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐนตรี กล่าวถึงการตั้งฉายาของสื่อทำเนียบที่ให้นายกฯเป็น “หล่อหลักลอย”ว่า อยากถามคนตั้งเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไร แต่ตนได้อ่านแล้วก็รับคำวิจารณ์ ส่วนฉายารัฐบาล “ใครเข้มแข็ง” นั้น เอาเป็นว่าต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดบ้านเมืองเศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ เข้มแข็งหรือไม่ เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ ส่วนฉายาบุคคลเจ้าตัวจะไปตอบก็กระไรอยู่ ถ้าโต้เถียงกันก็บอกว่าใจแคบ ถ้ารับก็จะบอกว่าอ๋อแสดงว่าจริง เอาเป็นว่ารับรู้ รับทราบ ไม่พิจารณา เมื่อถามว่า นายกฯหลักลอยตามที่ได้ฉายาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงไม่จริงให้ดูจากการกระทำ เมื่อถามว่าโครงการไทยเข้มแข็ง ใครเข้มแข็งกันแน่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตอนนี้หลายคนที่ดำเนินการไปแล้วคือเงินที่ออกไปแล้วเพิ่มทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจการปล่อยสินเชื่อให้กับหลายบุคคลซึ่งไม่มีโอกาสก่อนหน้านี้และคนเหล่านั้นก็เข้มแข็งขึ้นแล้ว นี่คือเงินที่ออกไปล๊อตแรก นอกจากนั้นเป็นถนนไร้ฝุ่น ซึ่งก่อสร้างเสร็จแล้ว คนได้ใช้เส้นทางสัญจรไปมาตรงนั้น ชุมชนแถวนั้นก็เข้มแข็งขึ้น

เมื่อถาว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่านายกฯ ทำงานหลังโพเดียม ในปีหน้านายกฯจะยังทำงานหลังโพเดี่ยมต่ออีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวย้อนว่า พูดข้างหน้าเขาไม่ได้ยินกัน เมื่อถามว่า หมายความว่านายกฯ รับงานปาฐกถามากเกินจนผลงานหลักไม่มีออกมาให้ประชาชนเห็นและงานไม่เดินหน้า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตนขอท้าให้ไปดูการตัดสินใจ การสั่งราชการ การประชุมของผมน้อยกว่ายุคอื่นไหม หรือมากกว่า ไปดูเลยครับ แต่ที่ตนเองจำเป็นจะต้องไปงานต่างๆเพื่อแสดงความคิดเห็น

“เพราะผมเห็นแล้วว่าในสังคมไทยจุดอ่อนหลายปีที่ผ่านมา คือ ผู้นำไม่พยายามสื่อสาร สื่อสารแต่ลักษณะตอบโต้ทางการเมือง แต่ไม่พยายามสื่อสารให้หลายคนที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายในเรื่องนั้นๆ ให้เกิดความเข้าใจ และผมเดินทางมาทั้งปีพบกับกลุ่มคนจำนวนมากมายภาคธุรกิจ ภาคสังคม กลุ่มคนในพื้นที่ต่างๆ มีหลายเรื่องที่คนเหล่านั้นมาบอกกับตนเองว่าถ้าไม่มีโอกาสได้ฟังก็ไม่ทราบ มีช่องว่างตลอดระหว่างภาครัฐกับเอกชน ระหว่างภาครัฐกับประชาชนและหลายงานที่ไปก็มีหลายเรื่องซึ่งได้เรียนรู้ถึง ปัญหาของประชาชน เพราะไม่มีการรายงานผ่านระบบราชการขึ้นมา ดังนั้น ผมยืนยันแนวทางนี้และผมไม่ได้เบียดบังเวลาของใครเลย ผมก็ทำงานหนักขึ้นเท่านั้นเองในการที่ไป” นายอภิสิทธิ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น