“สาทิตย์” ยันรัฐแก้ปัญหาประเทศดีขึ้น ซัด “นช.แม้ว” จับมือเขมรทำสมานฉันท์ล้มเหลว ด้าน มท.3 ปัดนายกฯ ต่อว่า แก้ไฟใต้ไม่สำเร็จ คาดคงหมายถึงกลาโหม-รองฯ นายกฯดูแลด้านความมั่นคง แต่ยันเป็นหน้าที่ของทุกคนในรัฐบาล
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรูปแบบการแถลงผลงานรัฐบาล 1 ปี ในช่วงบ่ายวันนี้ว่า นอกจากนายกรัฐมนตรีแถลงแล้ว แต่ละกระทรวงก็จะแถลงผลงานของของตนเองด้วย ส่วนประเด็นที่จะแถลงนั้นจะเป็นผลการทำงานใน 1 ปีที่ผ่านมานั้นรัฐบาลทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ ยืนยันว่าการทำงานในภาพรวม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้นดีขึ้น ส่วนกรณีผลงานที่ยังไม่พอใจนั้น จะมีการพูดถึงแนวทางแก้ไขในปีหน้า
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาระบุการทำงานของรัฐบาลล้มเหลวนั้น ตนมองว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปจับมือกับประเทศกัมพูชาก็ถือเป็นความล้มเหลวเช่นกัน รวมถึงเรื่องที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย จะออกมาแฉเรื่องเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศด้วย โดยมองว่าไม่ใช่การขโมยซีน เพราะไม่มีผลอะไร แต่ทุกฝ่ายต้องนึกถึงบ้านเมือง โดยรัฐบาลจะไม่มีการแถลงตอบโต้แต่อย่างใด ส่วนที่ผลการสำรวจของโพลที่ระบุว่าความนิยมรัฐบาล ลดลงนั้น ตนไม่ได้สนใจ
ด้าน นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรับผิดชอบดูแลงานด้านการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ยังรู้สึกไม่พอใจงานด้านการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ว่า เท่าที่ฟังดูนายกรัฐมนตรีไม่ได้ตำหนิตน เพราะตนทำงานด้านการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งก็ถือว่างานมีความคืบหน้า และต้องเข้าใจว่าการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบนั้นเป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม และรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลตำรวจ (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) แต่ส่วนลึกนั้นตนเองเชื่อว่านายกรัฐมนตรีกล่าวเนื่องจากไม่พอใจงานของรัฐบาลมากกว่า เพราะถือว่าการแก้ปัญหาภาคใต้นั้นเป็นงานของรัฐบาลรวม ไม่แยกแยะว่าเป็นงานของใครที่ดูแล
นอกจากนี้ นายถาวรกล่าวถึงความคืบหน้างานด้านการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมาตลอด 1 ปีด้วยว่า ความคืบหน้าล่าสุดนั้น ตนเพิ่งประชุมกรอบระบบราชการเสร็จวานนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของการนำเงินงบประมาณปี 2553 ลงพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่ผลผลิตอาจจะยังไม่เกิดให้เห็น เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตด้วยเช่นกัน
โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรีแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลาประมาณ 13.30 น. โดยจะได้กล่าวถึงผลงานที่ดำเนินการ ประสบความสำเร็จแล้ว และแนวทางในการดำเนินนโยบายครั้งต่อไป