ปชป.ซัด “นช.แม้ว” แอนด์เดอะแก๊ง คุกคามสถาบัน จี้องคมนตรีเจรจา ฉะ “เฉลิม” ขู่ กกต.อยู่ไม่สุขหากไม่ยุบ กกต. แทรกแซงองค์กรอิสระชัด เย้ยดิ้นเพื่อตัวเองหวังรอดยึดทรัพย์ ชี้พฤติกรรมก่อการร้าย เมิน “ภูมิธรรม” ขุดคำสั่งเจรจาคอมมิวนิสต์ 66/23 ใช้ แขวะพวกหลงยุค ด้าน “บุญยอด” จี้ถอนประกัน “แรมบ้า-ฮอลล์บูด”
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคห่วงใยกรณีที่เครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นปช. คุกคามสถาบันที่อยู่นอกความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่การดึงสถาบันองคมนตรีจะให้มาเป็นคนกลางเจรจาความขัดแย้ง เพราะสถาบันองคมนตรีรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต่อมามีพฤติกรรมคุกคามองค์กรอิสระ เช่น ปัสสาวะในที่สาธารณะรดโลงศพ ข่มขู่เผาบ้าน กกต. ถือว่าเป็นพฤติกรรมเดียวกับการก่อจลาจลเดือนเมษายนที่ผ่านมา และยังมีคำขู่ของนายเฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าหาก กกต.ไม่วินิจฉัยคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ตามความต้องการของตนเองจะอยู่ไม่เป็นสุข ทั้งหมดสอดรับกันและเป็นสัญญาณชัดเจนในการคุกคามการทำงานองค์กรอิสระ เหมือนในอดีตที่คุกคาม ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ สตง. จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดูแลความปลอดภัย อีกทั้งล่าสุด นปช.จะชุมนุมใหญ่วันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฉลองเทศกาลปีใหม่ ทุกฝ่ายในสังคมจึงต้องช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ นปช.เคลื่อนไหวให้ กกต.วินิจฉัยคดี 258 ล้านบาท ตามความต้องการของตัวเองมากกว่าข้อเท็จจริง จะทำให้ความขัดแย้งในสังคมไม่จบสิ้น และจะทำให้ พ.ตท.ทักษิณ กลับประเทศไทยยากยิ่งขึ้น พรรควิเคราะห์ปัญหา เห็นว่า สาเหตุหลักคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการคืนสู่อำนาจ ไม่ต้องการรับโทษ ไม่ต้องการโดนยึดทรัพย์สิน ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย และยังมีการปลุกระดม ด้วยการบิดเบือนความจริงตั้งแต่ เอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ และคำวินิฉัยของ กกต. ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งครั้งใหม่ จึงขอเรียกร้องผู้ที่จะก่อความขัดแย้งรุนแรง ขอให้นึกถึงชาติบ้านเมือง เพราะที่ผ่านมาเจอวิกฤติมากแล้ว ต้องช่วยกันนำความสงบกลับมาสู่บ้านเมือง
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ขอให้รัฐบาลริเริ่มการเจรจาโดยยกคำสั่ง 66/2523 มาเปรียบเทียบ กรณีนี้จะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะกลุ่มที่ต่อต้านมีกระบวนการเคลื่อนไหวที่มีอุดมการณ์ต่างกัน และยังมีพฤติกรรมรุนแรงข่มขู่ว่า หากไม่ยุบสภาจะเกิดความรุนแรง ซึ่งทำให้สังคมตกในความหวาดกลัว ไม่ต่างจากพฤติกรรมก่อการร้าย ทั้งที่กระบวนการสมานฉันท์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นผู้ริเริ่มให้ตัวแทนทุกฝ่ายมาหารือในสภา และทำประชามติการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เสียดายที่พรรคเพื่อไทยถอนตัวเองเมื่อได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ต่อมามีการเคลื่อนไหวดึงต่างชาติเข้ามาทำให้เกิดความขัดแย้ง จากนั้นยังคุกคามองค์กรอิสระ ทั้งที่นายกฯ ไม่เคยทำตัวเป็นสาเหตุของปัญหา และไม่เคยแบ่งแยกคนไทย
ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์การชุมนุมที่หน้าสำนักงานกกต. เหมือนภาพหลอนเดือนเมษายน เพราะเป็นบุคคลเดิม วิธีการเดิมโดยใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ป่าเถื่อน ขอถามว่าไม่เคยมีบทเรียนเลยหรือ และทำไมคนที่ทำรุนแรงยังอยู่ได้ในสังคม จึงขอเรียกร้องให้ นปช.ตั้งสติ เพราะกำลังทำผิดกฎหมาย แถมขู่สังคม นอกจากนี้ยังมีภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน อยู่ด้วยกันและวิดีโอลิงก์เข้ามาอวยพรระหว่างงานเลี้ยงพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการเย้ยกฎหมายชัดๆ เพราะคนหนึ่งหนีคดี อีกคนก็นำมวลชนมาก่อความรุนแรงหน้าบ้านบุคคลสำคัญจนมีคดี อีกคนก็เป็นเหตุให้ยุบพรรค จึงไม่ควรไปชื่นชม และขอให้ทั้งสามคนยุติการกระทำ รวมถึงยุติการข่มขู่องค์กรอิสระ และบุคคลอื่น ถึงขนาดขู่ว่าจะไปเผาบ้าน ขอให้ นปช.ตระหนักว่า เวลานี้เป็นช่วงความสุขของคนไทย ตั้งแต่การเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา จนถึงปีใหม่ ขอให้หยุดบั่นทอนความสุขของคนไทยได้แล้ว และกลับมาเป็นคนดีของประเทศ อย่าเอาแต่พรรคพวกตนเอง
นายบุญยอดกล่าวว่า นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาลและตำรวจไปร้องศาลขอให้ถอนการประกันตัว นาย อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช. เพราะหากปล่อยไปไม่รู้จะไปเผาอีกกี่ทีจึงจะจับกุม ทั้งนี้คนเหล่านี้มีเงื่อนไขการได้ประกันตัวอยู่แล้วจึงขอสนับสนุนให้มีการถอนการประกันตัว
