สมช.แถลง ลั่นไม่มีชาติใดบงการให้จับบินขนอาวุธ!!

สมช.แถลง ชี้รวบบินขนอาวุธทำตามมติสหประชาชาติ ปัดแส่หาเรื่อง ยันต้องปฏิบัติตามหลักในฐานสมาชิก ลั่นไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับชาติใด และไม่มีชาติไหนบงการให้จับ ย้ำไม่มีสินบนนำจับ จ่อถามยูเอ็นเบิกค่าขนอาวุธที่ไหน บอกถ้าเบิกไม่ได้ก็ไม่เอา โยนยูเอ็นชี้เก็บของกลางไว้ใช้ได้ไหม ไม่จุ้นตำรวจสอบ 5 ผู้ต้องหา รับยังไม่ทราบมีอาวุธชนิดใดบ้าง

วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสมช. แถลงความถึงคืบหน้าเกี่ยวกับการจับกุมการลักลอบขนอาวุธของชาวต่างชาติ 5 รายว่า อาวุธสงครามที่เจ้าหน้าที่ยึดไว้นั้น กองทัพอากาศ และตำรวจขนย้ายไปไว้ที่คลังอาวุธ กองทัพอากาศ จ.นครสวรรค์ การเข้าจับกุมครั้งมีการประสานงานกันในฝ่ายข่าวของทุกหน่วยงาน รวมไปถึงการประสานงานกับฝ่ายข่าวของสหรัฐฯ

“เรื่องนี้ไม่มีการชี้หรือบงการ หรือบังคับให้เราต้องไปทำหรือไปดำเนินการ เรามีกฎหมายที่จะดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ ผมเรียนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายประจำ และมีกฎหมายรองรับ โดยกฎหมายที่รองรับเป็นกฎหมายของโลก คือ ข้อมติของสหประชาชาติ ข้อมติที่ 1874 เมื่อ มิถุนายน 2009 ในข้อมติพูดเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามซื้อขายอาวุธทั้งทางตรงทางอ้อม ไม่ว่าไปหรือจากเกาหลีเหนือ และหน้าที่ของรัฐภาคีสมาชิกเมื่อตรวจสอบพบจะต้องยึดอายัด ทำลาย และรายงานให้สหประชาชาติรับทราบ ตรงนี้จะเห็นว่าเรามีกฎหมายรองรับในการทำงานอย่างครบถ้วน และเรื่องนี้เราไม่รนหาที่เหมือนยาเสพติด เป็นเรื่องที่พึ่งปฏิบัติในฐานะพลเมืองดีและจากนี้ไปทางยูเอ็นต้องเข้ามาให้คำแนะนำ” นายถวิลกล่าว

นายถวิลกล่าวต่อว่า การที่มีคนออกมากล่าวว่าไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยทำไมนั้น มติของสหประชาชาตินั้นไทยในฐานะสมาชิกจึงมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ และไทยไม่ได้เป็นศัตรู หรือดำเนินการเรื่องนี้กับประเทศใดๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศต้นทางอย่างเกาหลีเหนือ หรือประเทศปลายทางที่แจ้งมา แต่ไทยกำลังดำเนินการต่อองค์กรอาชญากรรมลักษณะข้ามชาติ ดังนั้นเราดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ชาติ ไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

“เราไม่ได้ดำเนินการต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เราดำเนินการต่อตัวที่เป็นอาวุธ เราดำเนินการ ต่อขบวนการของอาชญากรที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติ บางส่วนออกมาบอกว่าการที่เราเข้าดำเนินการอาจจะเป็นอันตรายต่อเรานั้น ผมเรียนว่าถ้าแต่ละประเทศคิดอย่างนั้นก็คงไม่ต้องทำอะไร เหมือนภายในบ้านของเราผู้ที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยคือตำรวจแต่ถ้าตำรวจ กลัวผลกระทบ กลัวการแก้แค้น กลัวการตอบโต้จากอาชญากร ตำรวจก็ไม่สามารถให้ความคุ้มครองต่อสุจริตชนได้” นายถวิลกล่าว

เลขาฯ สมช.ยังได้กล่าวต่อว่า ในเรื่องสินบนนำจับนั้นยืนยันได้ว่าไม่มี เท่าที่ตรวจสอบจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีรางวัลสินบนนำจับใครใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีค่าจ้าง แต่ที่อยากจะบอกว่า ขณะนี้มีเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าขนย้ายอาวุธ ทางกระทรวงการต่างประเทศ กำลังประสานงานกับยูเอ็นว่า ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะไปเบิกที่ไหน อย่างไรก็ตามหากไม่มีการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ตรงนี้ก็ต้องถือเป็นหน้าที่ของประเทศสมาชิกที่ดีที่ต้องดำเนินการ เมื่อถามต่อว่า ทาง สมช.มีการประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะสมช.เองยังไม่ทราบเลยว่า อาวุธมีอะไรบ้าง

นายถวิลยังได้กล่าวต่อถึงเรื่องอาวุธว่า เบื้องต้นทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการรายงานเบื้องต้นไปที่คณะทูตถาวร ณ กรุงนิวยอร์กแล้ว การดำเนินการในรายละเอียดทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานกับทางยูเอ็น ในเรื่องอาวุธทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบอยู่ว่าต้องทำลาย หรือดำเนินการอย่างไรต่อไปตามที่ยูเอ็นกำหนด ส่วนการดำเนินการตรวจสอบนั้นทางกรมสรรพาวุธกองทัพอากาศ และผู้เชี่ยวชาญกำลังเร่งตรวจสอบอยู่ ทหารจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า และหากต้องการผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศก็จะต้องดำเนินการในขอบเขต ส่วนไทยจะเก็บไว้ใช้ได้หรือไม่ ต้องดำเนินการทุกอย่างตามที่สหประชาชาติกำหนดไว้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า สื่อต่างชาติมีการเสนอข่าวว่า อาวุธที่ยึดไว้นั้นมีส่วนประกอบของขีปนาวุธดาโปตอง 2 นาย ถวิลกล่าวว่า ไม่ทราบยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องนี้ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ก็ได้ให้นโยบายว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวใน การดำเนินการสอบสวนได้ข้อสรุปอย่างไรตำรวจก็จะรายงานอีกที ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 5 รายก็เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะต้องดำเนินการสอบสวน ส่วนใครจะเป็นนักค้าอาวุธแบบไหนอย่างไรนั้น ทางหน่วยข่าวที่เกี่ยวข้องก็คงมีข้อมูลอยู่เพราะแต่ละหน่วยต้องทำงานประสานกัน

นายถวิลยังได้กล่าวต่อว่า ล่าสุดทางอัยการต่างประเทศ มีการแจ้งมาให้ตนทราบในเรื่องการเพิ่มฐานความผิดกับผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น อาทิ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์, พ.ร.บ.ส่งออกซึ่งอาวุธยุทโธปกรณ์และสิ่งซึ่งใช้ในราชการสงคราม, พ.ร.บ.เดินอากาศ และพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร เมื่อถามต่อว่า ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นายถวิล กล่าวว่า เรื่องที่อยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และเนื่องจากเป็นคดีที่อาจจะมีการกระทำความผิดที่เกี่ยวเนื่องต่างประเทศเข้ามา ทางอัยการสูงสุดก็เข้าไปร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวน เพราะฉะนั้น คงจะยังไม่มีความชัดเจน แต่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาบอกก่อนเวลาไม่ได้ ส่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมานั่งสรุปความคืบหน้าได้อีกครั้งเมื่อไรนั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ตนคิดว่าเมื่อทางตำรวจดำเนินการเรียบร้อยแล้วคงมีการทำรายงานขึ้นมา