โฆษกประจำตัวนายกฯ “เทพไท เสนพงษ์” ยัน ปชป.ยังไม่คุยปรับ ครม.เผยยังไม่พบข้อมูล “แม้ว” จะไปพบผู้นำยุโรป ลั่นหากมาจริงตะครุบตัวเข้ากรงแน่ ด้านรองโฆษกปชป.แนะ พท. ทำคนอยู่ต่างประเทศให้สงบก่อนชวนรัฐบาลพักรบ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ข่าวดังกล่าวไม่ได้เกิดมาจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอนเพราะยังไม่มีการพูดคุยในระดับแกนนำของพรรค หรือแม้แต่ตัวนายกฯเองซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาปรับ ครม.ก็ยังไม่มีท่าทีหรือการส่งสัญญาณใดๆ ออกมาในเรื่องนี้ แต่น่าจะมาจากการวิเคราะห์และประเมินของหลายฝ่ายเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศมาครบ 1 ปีแล้วก็น่าจะมีการปรับ ครม.บ้างเหมือนกับรัฐบาลชุดอื่นๆ แต่การปรับ ครม.ของทุกรัฐบาล มักเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการคือ 1.ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวง 2.เกิดจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ทำให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมีมลทิน แต่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีปัจจัยหรือเหตุผลใดที่จะต้องปรับ ครม.ในขณะนี้ และการปรับ ครม.แต่ละครั้งจะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลด้วย ซึ่งต้องปรับให้มีภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่เช่นนนั้น ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมขาดเสถียรภาพและอายุของรัฐบาลนั้นก็จะถูกนับถอยหลังทันที
ขณะกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เยาะเย้ยรัฐบาลว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นเป็ดขี้เหร่จะปรับอย่างไรก็ไม่เป็นหงส์ นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีที่มาถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ที่เริ่มต้นภาพลักษณ์ของรัฐบาลเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้นต่อเนื่องตลอดไป ไม่เหมือนรัฐบาลบางรัฐบาลที่เหมือนรัฐบาลซาตานจำแลงมีการกลายพันธุ์ ช่วงแรกดีช่วงท้ายเหลิงอำนาจบริหารประเทศจนถูกปฏิวัติ หรือเหมือนกันสองรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่เป็นรัฐบาลทายาทอสูร ซึ่งหัวหน้ารัฐบาลในยุคนั้นก็ออกมายอมรับกับสังคมไทยเองว่า ครม.ของตนเองมีรัฐบาลตรีขี้เหร่หลายคน แต่รัฐบาลชุดภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไม่เคยได้รับฉายาใดๆหรือถูกวิจารณ์จากสังคมไทยว่า มีรัฐมนตรีขี้เหร่เลย คงมีเพียงแต่คำวิจารณ์จากปากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่เสียประโยชน์จาการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น ที่มองรัฐบาลชุดนี้อย่างมีอคติ เพราะอยากให้เหมือนกับรัฐบาลของตนเองที่ใช้การบริหารแบบซีอีโอ ตัวนายกฯเป็นเสมือนประธานบริษัท รัฐมนตรีเป็นแค่พนักงานหกรือลูกจ้างของตัวเองเท่านั้น การปรับเปลี่ยน ครม.ไม่จำเป็นต้องหารือใคร เปลี่ยนแปลงตามอำเภอใจ มองเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเก้าอี้ดนตรี ปรับครม.หนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ก็เป็นการปรับเพื่อสนองกลุ่มทุนของตนเองที่ร่วมสนับสนุนร่วมตั้งรัฐบาล
ส่วนจะมีการปรับ ครม.ในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า รัฐบาลอยู่ครบ 1 ปีจะทบทวนผลงานและปรับ ครม.นั้น นายเทพไท กล่าวว่า หากรัฐบาลชุดนี้ จะมีการปรับ ครม.จริง ก็จะเป็นไปตามกลไกและสถานการณ์การเมือง นายกฯรัฐมนตรีมีอำนาจและอิสระในการตัดสินใจ เพราะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มมีกลุ่มทุนหรือมุ้งการเมือง ไม่มีการควบรวมพรรคที่ต้องตอบแทนบุญคุณ และเชื่อมั่นว่าภาพลักษณ์ของนายกฯที่เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต จะสามารถสรรหาคนที่มีภาพลักษณ์และลักษณะเช่นเดียวกับนายกฯมาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลได้แน่นอน เพราะคนเป็นบัณฑิตย่อมเข้าในบัณฑิต ส่วนพวกโจรก็ย่อมเข้าใจในหัวอกโจร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทย
สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โพสข้อความในทวิทเตอร์ระบุว่า ขอลาแฟนๆ พัก3 วันเพื่อเดินทางไปพบผู้นำในทวีปยุโรปนั้น ตนก็อยากจะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปประเทศไหน เพราะตัวเองก็กำลังดูงานเกี่ยวกับการฟอกเงินและป้องกันปราบปรามด้านยาเสพติดที่ทวีปยุโรปเช่นกัน และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ทูตหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประเทศต่างๆในทวีปยุโรปที่ไปดูงาน ทุกคนต่างส่ายหน้า ปฏิเสธไม่รู้ข่าวเรื่องการเดินทางไปยุโรปของพ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด ซึ่งถ้าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าทวีปยุโรปจริงตามที่อ้าง ตนก็จะได้รีบไปประสานเจ้าหน้าที่ด้านการฟอกเงินของประเทศนั้นๆ ให้ดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อตรวจสอบว่าได้นำเงินมาฟอกในประเทศนั้นๆ จริงหรือไม่ แต่เท่าที่ตรวจสอบ ไม่มีรายงานพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางเข้ายุโรปแต่อย่างใด หรืออาจเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะแอบเดินทางเข้ายุโรปในฐานะโรบินฮู๊ดหรือคนหลบหนีเข้าเมือง เพราะไม่อาจตรวจสอบพบข้อมูลได้จากบันทึกการเดินทางการเข้าประเทศในยุโรปที่ถูกต้องได้
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาประเทศเชิญชวนรัฐบาล พักรบชั่วคราว ว่า จริงๆ แล้วที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้เป็นคนเปิดเกมรุกอะไรเลย เขาเสียอีกที่เป็นคนเปิดเกมออกมา เมื่อมีประเด็นออกมาเราก็ชี้แจงเท่านั้นเอง ที่ผ่านมารัฐบาลเรารักสงบมาตลอด ดังนั้นไม่อยากให้เขากล่าวหาในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล เราไม่ไปกล่าวหาเขา เพราะบ้านเมืองจ้องการความรัก ความสามัคคีทั้งนี้รับรองว่าประชาธิปัตย์ไม่ไปเริ่มก่อนแน่นอน
เมื่อถามว่า มองเกมนี้ของพรรคเพื่อไทยอย่างไร นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเพราะกระแสสังคมต้องการความสงบปกติช่วงปลายปีและปีใหม่ เป็นบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะช่วงวันมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประชาชนต้องการความสุข ดังนั้นจึงเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงประเมินสถานการณ์ได้ ซึ่งสอดคล้องกับที่เราประเมินอยู่แล้ว ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทำได้หรือไม่นั้นคงต้องอยู่ที่เขาเอง ซึ่งตนคิดว่าถ้ามาต่อสู้กันด้วยระบบรัฐสภา พูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผลบ้านเมืองก็จะสงบสุข อย่ามาจมอยู่กับที่เลย ซึ่งก็เห็นอกเห็นใจเขา แต่ถ้าสิ่งที่เขาประกาศก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี รับรองรัฐบาลให้ความร่วมมืออยู่แล้ววันนี้เราเป็นรัฐบาล เขาเป็นฝ่ายค้านก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบ
ส่วนการประกาศของพรรคเพื่อไทยจะเป็นการพักรบจริงหรือไม่ เพราะหัวหน้าพรรคตัวจริงที่อยู่ต่างประเทศ ยังมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นั่นนะสิ เพราะแทนที่เขาจะเรียกร้องฝั่งเรา เขาต้องเรียกร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงของเขาด้วย ปากบอกว่าจะสงบศึกแต่คนที่อยู่ต่างประเทศเล่นตลอดมันก็ไม่สงบ