นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวภายในพรรคประชาธิปัตย์ให้มีการปรับ ครม.ว่า เป็นแค่ความเห็นไม่มีกระแสอะไร และตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม บรรยากาศขณะนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฉะนั้นเรื่องการเมืองในช่วงนี้อยากจะให้นิ่งที่สุด
ส่วนที่มีข่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคเห็นว่าควรที่จะมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอาไว้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่ช่วงบนี้ อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะปรับ ครม.หลังทำงานครบ 1 ปี ไม่จำเป็นต้องรอให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจบ แต่เรื่องปรับ ครม.เอาไว้พูดกันในข่วงอื่น ไม่จำเป็นต้องพูดในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วจะบอกให้ลูกพรรคเลิกพูดเรื่องปรับ ครม.ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลยว่ามีคนไปพูด แม้ตนจะเป็นหัวหน้าพรรค แต่ก็มีลูกพรรคเยอะ และพอดีข่วงนี้ปิดสมัยประชุมจึงไม่ได้ประชุมพรรค อย่างไรก็ตาม ก็ได้กำชับกันไปแล้วว่า การพูดอะไรขอให้คิดถึงผลกระทบทางการเมือง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ถึงกับหัวเราะเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่าคนปล่อยข่าวปรับ ครม. มาจากพรรคการเมือง ที่อยู่ห่างจาก พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เกิน 15 ก.ม.ก่อนจะตอบว่า ต้องไปถามจากนายวัชระเองว่าทำไมต้องใบ้หวยกันด้วย บอกกันตรงๆ ก็ได้
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึงข่าวจะปรับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกจากรัฐบาลว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ และยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่มีการปรับ ครม. ดังนั้นจะวิจารณ์ล่วงหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร เป็นผู้นำที่ดีดูแลทุกคนได้อย่างเสมอภาคกัน ให้เกียรติทุกกองทัพ ปกครองบังคับบัญชาด้วยหลักการมีหลักเกณฑ์ ไม่มีปัญหาอะไร ท่านทำงานของเราได้อย่างดี เรามีความสุขกันเหมือนพี่เหมือนน้อง อย่างไรก็ตาม กองทัพมีความสามัคคีกันดี
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าข่าวการปรับ ครม.เป็นเพียง ข่าวที่สื่อนำเสนอยังไม่เคยหารือกันในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่บอกว่าปรับ ครม.เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้น ตนคิดว่า ถ้ายื่นอภิปรายฯรัฐบาลคงไม่ปรับ ครม. แต่ถ้าไม่ยื่นอาจจะโดนปรับออกได้ อย่างไรก็ตามการอภิปรายฯ เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ตนมั่นใจว่า 1 ปีที่ผ่านมาทำงานหนักมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีระบุว่าปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่นจะเป็นตัวบั่นทอนรัฐบาล ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขคิดว่าตรวจพบคอร์รัปชั่นหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เห็นมีแต่ข่าว และตนยืนยันได้ว่าโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้เบิกงบประมาณจากรัฐบาลมาเลย เรื่องทุจริตยังไม่เกิด ตนได้ระงับโครงการไว้ก่อนจนกว่าคณะกรรมการตรวจสอบจบ
ส่วนที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจผลงานรัฐมนตรียกเว้นตัวนายกรัฐมนตรีนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าผลการทำงานของตนเองนั้นสามารถนำมาชี้แจงได้ แต่จะขนาดไหนนั้นต้องอยู่ที่สายตาของสังคมที่ต้องติดตามดู แต่ระยะ 1 ปี ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข รับบทบาทหนักมาก เป็นประเด็นได้ทุกวันทุกเรื่อง ทุกสถานการณ์
เมื่อถามว่า ทำงานหนักขนาดนี้ถ้าโดนปรับออกจะยอมรับได้หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่คาดการณ์ใดๆ เมื่อถามว่า หากจะมีเหตุที่ทำให้อยู่ไม่ได้จะมาจากสาเหตุใด นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องทุจริต ถ้าตนทุจริตก็อยู่ไม่ได้ เรื่องเดียวที่นักการเมืองอยู่ไม่ได้คือทุจรติ เรื่องอื่นยังพอชี้แจงได้ เมื่อถามอีกว่า ไม่ต้องรอให้ไล่ใช่ หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าถึงตัวผมไม่ต้องรอ แค่ขอให้รู้ว่าทุจริต ไม่ต้องรอ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าทำไมส.ส.ในพรรคจึงออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ นายวิทยา กล่าวว่า ตนเห็นเพียงกระแสข่าว มีใครออกมาเคลื่อนไหวบ้างล่ะ ข่าวก็ไม่เห็นบอกว่า ไม่ระบุว่าเป็นใคร ตนมองว่าธรรมดา ที่จะมีการตรวจสอบ ยืนยันว่า การปรับครม. เมื่อทำงานครบ 1 ปี ยังไม่มีการพูดกันในพรรคแต่อย่างใด เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการเดินทางไปดูงาน ในฐานะคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎรว่ากระแสการปรับ ครม. ไม่ได้เกิดมาจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะยังไม่มีการพูดคุยในระดับแกนนำของพรรค หรือแม้แต่ตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีว ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาปรับ ครม. ก็ยังไม่มีท่าทีหรือการส่งสัญญาณใดๆ ในเรื่องนี้ แต่น่าจะมาจากการวิเคราะห์และประเมินของหลายฝ่ายเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ บริหารประเทศมาครบ 1 ปีแล้วก็น่าจะมีการปรับ ครม.บ้างเหมือนรัฐบาลชุดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.ของทุกรัฐบาล มักเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ 1. ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวแต่ละกระทรวง 2.เกิดจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ทำให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมีมลทิน แต่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีปัจจัยหรือเหตุผลใดที่จะต้องปรับ ครม.ในขณะนี้ และการปรับ ครม.แต่ละครั้งจะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลด้วย ต้องปรับให้มีภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่เช่นนั้น ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมขาดเสถียรภาพและอายุของรัฐบาลนั้นก็จะถูกนับถอยหลัง ทันที
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เย้ยว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นเป็ดขี้เหร่จะปรับอย่างไรก็เป็นหงษ์ไปไม่ได้นั้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลมาถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นภาพลักษณ์เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่เหมือนบางรัฐบาลที่เหมือนซาตานจำแลง ช่วงแรกก็ดีแต่ช่วงท้ายเหลิงอำนาจจนถูกปฏิบัติ หรือเหมือน 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ที่เป็นรัฐบาลทายาทอสูร แม้แต่นายกรัฐมนตรียุคนั้นยังยอมรับว่ารัฐมนตรีของตัวเองขี้เหร่หลายคน แต่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่เคยได้รับฉายาอะไรหรือถูกวิจารณ์ว่าขี้เหร่ คงมีแต่คำวิจารณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่เสียประโยชน์จากการบริหารของรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น
นายเทพไท กล่าวว่าการปรับ ครม.นั้น นายกรัฐมนตรีมีอำนาจอิสระในการตัดสินใจ ยืนยันว่าในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีกลุ่มทุนหรือมุ้ง ไม่มีการควบรวมพรรค ที่ต้องตอบแทน เชื่อว่าภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต จะสามารถสรรหาคนที่มีภาพลักษณ์และลักษณะเช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี มาเป็นรัฐมนตรี ร่วมรัฐบาลได้แน่นอน เพราะคนเป็นบัณฑิตย่อมเข้าใจในบัณฑิต ส่วนพวกโจร ก็ย่อมเข้าใจในหัวอกโจร เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทย
นายเทพไท กล่าวว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุจะขอลาแฟนๆ 3 วันเพื่อไปพบผู้นำ ในทวีปยุโรปนั้น อยากถามว่าจะไปประเทศไหน เพราะตนกำลังดูงานเกี่ยวกับการฟอกเงิน และป้องกันการปราบปรามยาเสพติดเช่นกัน แต่จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ทูต และเจ้าหน้าที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ในยุโรปที่ตนไปดูงาน ทุกคนต่างส่ายหน้า ปฏิเสธไม่รู้ข่าวการเดินทางมายุโรปของ พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้าเดินทางมาจริงตนก็จะประสานเจ้าหน้าที่ด้านการฟอกเงินของประเทศนั้นๆ ดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อตรวจสอบว่านำเงินมาฟอกในประเทศนั้นๆ จริงหรือไม่ แต่เท่าที่ตรวจสอบไม่มีรายงาน พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในยุโรป
ส่วนที่มีข่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคเห็นว่าควรที่จะมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอาไว้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่ช่วงบนี้ อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะปรับ ครม.หลังทำงานครบ 1 ปี ไม่จำเป็นต้องรอให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจบ แต่เรื่องปรับ ครม.เอาไว้พูดกันในข่วงอื่น ไม่จำเป็นต้องพูดในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วจะบอกให้ลูกพรรคเลิกพูดเรื่องปรับ ครม.ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลยว่ามีคนไปพูด แม้ตนจะเป็นหัวหน้าพรรค แต่ก็มีลูกพรรคเยอะ และพอดีข่วงนี้ปิดสมัยประชุมจึงไม่ได้ประชุมพรรค อย่างไรก็ตาม ก็ได้กำชับกันไปแล้วว่า การพูดอะไรขอให้คิดถึงผลกระทบทางการเมือง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ถึงกับหัวเราะเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่าคนปล่อยข่าวปรับ ครม. มาจากพรรคการเมือง ที่อยู่ห่างจาก พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เกิน 15 ก.ม.ก่อนจะตอบว่า ต้องไปถามจากนายวัชระเองว่าทำไมต้องใบ้หวยกันด้วย บอกกันตรงๆ ก็ได้
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึงข่าวจะปรับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกจากรัฐบาลว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ และยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่มีการปรับ ครม. ดังนั้นจะวิจารณ์ล่วงหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร เป็นผู้นำที่ดีดูแลทุกคนได้อย่างเสมอภาคกัน ให้เกียรติทุกกองทัพ ปกครองบังคับบัญชาด้วยหลักการมีหลักเกณฑ์ ไม่มีปัญหาอะไร ท่านทำงานของเราได้อย่างดี เรามีความสุขกันเหมือนพี่เหมือนน้อง อย่างไรก็ตาม กองทัพมีความสามัคคีกันดี
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าข่าวการปรับ ครม.เป็นเพียง ข่าวที่สื่อนำเสนอยังไม่เคยหารือกันในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่บอกว่าปรับ ครม.เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายนั้น ตนคิดว่า ถ้ายื่นอภิปรายฯรัฐบาลคงไม่ปรับ ครม. แต่ถ้าไม่ยื่นอาจจะโดนปรับออกได้ อย่างไรก็ตามการอภิปรายฯ เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ตนมั่นใจว่า 1 ปีที่ผ่านมาทำงานหนักมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีระบุว่าปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่นจะเป็นตัวบั่นทอนรัฐบาล ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขคิดว่าตรวจพบคอร์รัปชั่นหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เห็นมีแต่ข่าว และตนยืนยันได้ว่าโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้เบิกงบประมาณจากรัฐบาลมาเลย เรื่องทุจริตยังไม่เกิด ตนได้ระงับโครงการไว้ก่อนจนกว่าคณะกรรมการตรวจสอบจบ
ส่วนที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจผลงานรัฐมนตรียกเว้นตัวนายกรัฐมนตรีนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าผลการทำงานของตนเองนั้นสามารถนำมาชี้แจงได้ แต่จะขนาดไหนนั้นต้องอยู่ที่สายตาของสังคมที่ต้องติดตามดู แต่ระยะ 1 ปี ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข รับบทบาทหนักมาก เป็นประเด็นได้ทุกวันทุกเรื่อง ทุกสถานการณ์
เมื่อถามว่า ทำงานหนักขนาดนี้ถ้าโดนปรับออกจะยอมรับได้หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่คาดการณ์ใดๆ เมื่อถามว่า หากจะมีเหตุที่ทำให้อยู่ไม่ได้จะมาจากสาเหตุใด นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องทุจริต ถ้าตนทุจริตก็อยู่ไม่ได้ เรื่องเดียวที่นักการเมืองอยู่ไม่ได้คือทุจรติ เรื่องอื่นยังพอชี้แจงได้ เมื่อถามอีกว่า ไม่ต้องรอให้ไล่ใช่ หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าถึงตัวผมไม่ต้องรอ แค่ขอให้รู้ว่าทุจริต ไม่ต้องรอ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าทำไมส.ส.ในพรรคจึงออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ นายวิทยา กล่าวว่า ตนเห็นเพียงกระแสข่าว มีใครออกมาเคลื่อนไหวบ้างล่ะ ข่าวก็ไม่เห็นบอกว่า ไม่ระบุว่าเป็นใคร ตนมองว่าธรรมดา ที่จะมีการตรวจสอบ ยืนยันว่า การปรับครม. เมื่อทำงานครบ 1 ปี ยังไม่มีการพูดกันในพรรคแต่อย่างใด เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการเดินทางไปดูงาน ในฐานะคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎรว่ากระแสการปรับ ครม. ไม่ได้เกิดมาจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะยังไม่มีการพูดคุยในระดับแกนนำของพรรค หรือแม้แต่ตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีว ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาปรับ ครม. ก็ยังไม่มีท่าทีหรือการส่งสัญญาณใดๆ ในเรื่องนี้ แต่น่าจะมาจากการวิเคราะห์และประเมินของหลายฝ่ายเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ บริหารประเทศมาครบ 1 ปีแล้วก็น่าจะมีการปรับ ครม.บ้างเหมือนรัฐบาลชุดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.ของทุกรัฐบาล มักเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ 1. ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวแต่ละกระทรวง 2.เกิดจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ทำให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมีมลทิน แต่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีปัจจัยหรือเหตุผลใดที่จะต้องปรับ ครม.ในขณะนี้ และการปรับ ครม.แต่ละครั้งจะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลด้วย ต้องปรับให้มีภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่เช่นนั้น ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมขาดเสถียรภาพและอายุของรัฐบาลนั้นก็จะถูกนับถอยหลัง ทันที
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เย้ยว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นเป็ดขี้เหร่จะปรับอย่างไรก็เป็นหงษ์ไปไม่ได้นั้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลมาถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นภาพลักษณ์เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่เหมือนบางรัฐบาลที่เหมือนซาตานจำแลง ช่วงแรกก็ดีแต่ช่วงท้ายเหลิงอำนาจจนถูกปฏิบัติ หรือเหมือน 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ที่เป็นรัฐบาลทายาทอสูร แม้แต่นายกรัฐมนตรียุคนั้นยังยอมรับว่ารัฐมนตรีของตัวเองขี้เหร่หลายคน แต่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่เคยได้รับฉายาอะไรหรือถูกวิจารณ์ว่าขี้เหร่ คงมีแต่คำวิจารณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่เสียประโยชน์จากการบริหารของรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น
นายเทพไท กล่าวว่าการปรับ ครม.นั้น นายกรัฐมนตรีมีอำนาจอิสระในการตัดสินใจ ยืนยันว่าในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีกลุ่มทุนหรือมุ้ง ไม่มีการควบรวมพรรค ที่ต้องตอบแทน เชื่อว่าภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต จะสามารถสรรหาคนที่มีภาพลักษณ์และลักษณะเช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี มาเป็นรัฐมนตรี ร่วมรัฐบาลได้แน่นอน เพราะคนเป็นบัณฑิตย่อมเข้าใจในบัณฑิต ส่วนพวกโจร ก็ย่อมเข้าใจในหัวอกโจร เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทย
นายเทพไท กล่าวว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุจะขอลาแฟนๆ 3 วันเพื่อไปพบผู้นำ ในทวีปยุโรปนั้น อยากถามว่าจะไปประเทศไหน เพราะตนกำลังดูงานเกี่ยวกับการฟอกเงิน และป้องกันการปราบปรามยาเสพติดเช่นกัน แต่จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ทูต และเจ้าหน้าที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ในยุโรปที่ตนไปดูงาน ทุกคนต่างส่ายหน้า ปฏิเสธไม่รู้ข่าวการเดินทางมายุโรปของ พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้าเดินทางมาจริงตนก็จะประสานเจ้าหน้าที่ด้านการฟอกเงินของประเทศนั้นๆ ดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อตรวจสอบว่านำเงินมาฟอกในประเทศนั้นๆ จริงหรือไม่ แต่เท่าที่ตรวจสอบไม่มีรายงาน พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในยุโรป