นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน ไม่ใช่ช่วงนี้ มีเฉพาะกรณีของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่โยกมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ที่ยังค้างอยู่ ซึ่งเวลานี้กำลังดูเรื่องประกันรายได้เกือบจะเรียบร้อยแล้ว
ส่วนมีข่าวว่าจะปรับ ครม.หลังวันที่ 15 ธ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ ก็ยืนยันว่า ไม่มี เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสัญญาใจว่าครบ 1 ปีจะปรับครม.ในส่วนของพรรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ครบ 1 ปีเลย แต่ครบ 1 ปี จะมีการพิจารณาก็เป็นปกติ ขึ้นอยู่กับการประเมินหลายๆด้าน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่ได้เสนอเรื่องปรับครม.มา ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน อยากจะแลกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กับกระทรวงศึกษาธิการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อแผ่นดิน ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้เลย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังเตรียมงานต่างๆ โดยเฉพาะงานเฉลิมพระเกียรติ ฉะนั้นเรื่องการเมืองขณะนี้ต้องการให้บรรยากาศนิ่งที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.จะใช้ปัจจัยอะไรในการพิจารณา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงาน และความเหมาะสมในด้านต่างๆ
ส่วนที่หอการค้าประเมินให้คะแนนรัฐบาลว่า มีปัญหาในเรื่องของการทุจริต และสอบตกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องปรับปรุง เมื่อถามว่า มีจุดไหนบ้างเป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วจะเป็นกลไกในการติดตามเรื่องโครงการต่างๆ และอยากจะขอความร่วมมือภาคเอกชน เพราะเคยขอความร่วมมือผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ( กรอ.) ว่าถ้ามีข้อมูลชัดเจนในเรื่องการทุจริต ขอให้เสนอรัฐบาลมา ก็จะมีการดำเนินการ เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเป็นตัวบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าความรู้สึกเรื่องการทุจริตมีปัญหา ก็จะเป็นตัวบั่นทอนอยู่เสมอ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวพาดพิงว่ารัฐบาลเป็นเป็ด ไม่มีวันได้เป็นหงส์ นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและหัวเราะในลำคอ เมื่อถามต่อว่า หอการค้ามองว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมที่ผ่านมา ยังไม่ผ่าน 5.3 คะแนน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ ตนมองว่า เศรษฐกิจขณะนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี แต่ช่วง 10 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตนเข้าใจดีว่า เอกชนก็มีปัญหาเยอะ เพราะเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมาก แต่ก็มั่นใจว่าขณะนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยลำดับ
"รัฐบาลพยายามที่จะบริหารงานให้นโยบายเดินได้ และทำให้บรรยากาศบ้านเมืองสามารถประคับประคองให้การทำงานทางด้านเศรษฐกิจ ทางด้านธุรกิจเดินไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาเกือบ 1 ปี มีบางช่วงที่เป็นปัญหา เช่น ช่วงเดือนเม.ย. แต่นอกเหนือจากนั้นก็สามารถเดินมาถึงจุดที่หลายเรื่องก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แม้กระทั่งเรื่องการท่องเที่ยว" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**"เทือก"ยันครม.ไม่ใช่เก้าอี้ดนตรี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ฐานะผู้จัดการรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. หลังวันที่ 15 ธ.ค.ว่า ตนอ่านข่าวเจอ แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องมากมายขนาดนั้น ส่วนที่พรรคการเมืองใหม่ เสนอว่าให้รัฐบาลปรับ ครม.เพื่อเป็นของขวัญกับประชาชนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า โดยภาพรวม ครม.ยังทำงานได้ดี
"ผมคิดว่าถ้ามองกันอย่างตรงไปตรงมา ถือว่ารัฐบาลนี้ได้ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้มาก และผมยังไม่เห็นว่ารัฐมนตรีท่านใดจะเป็นปัญหาในขณะนี้"นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงเสียงเรียกร้องให้ปรับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ออกว่า ท่านก็ถูกเรียกร้องมาตั้งแต่วันแรกของการแต่งตั้งมาแล้ว ก็น่าเห็นใจท่าน และที่ผ่านมาท่านก็พยายามทำงานได้ดี
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่กระแสข่าวระบุว่าต้องการสลับตัว และพรรคเพื่อแผ่นดิน ต้องการสลับกระทรวงกับพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อมาที่ตน และในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนก็ได้ปรึกษาหารือกันมาในเรื่องต่างๆ แต่ยังไม่เคยปรากฏว่าบรรดาพรรคร่วม จะมาเจรจาเรื่องการแลกกระทรวง เรื่องการปรับครม. อย่างที่เป็นข่าว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ไม่ประสานผ่านผู้จัดการรัฐบาล แต่ประสานไปที่ผู้นำรัฐบาลโดยตรงเลย นายสุเทพ หัวเราะเบาๆ และตอบว่า ถ้าอย่างนั้นต้องไปถามท่านผู้นำรัฐบาล แต่ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เอง ถึงเวลาหรือยังที่ต้องปรับเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐมนตรีของเราทุกคนทำงานได้ดีอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ก็ทำงานเป็นหลัก นอกจากนั้นก็ช่วยกันทำงาน ก็ดี
เมื่อถามว่าตัวของท่านเอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นเป้าใหญ่ที่มีการเสนอให้นายกฯ ต้องปรับ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นเป้าใหญ่อยู่แล้ว เพราะตัวใหญ่ แต่ทั้งนี้เป็นธรรมดา ตนก็รับฟังด้วยความเคารพและด้วยความเข้าใจ เมื่อเขาพูดว่าจะปรับรมว.กลาโหม และรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ตนก็เข้าใจได้ ไม่เป็นปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงการตั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ไปเป็นเลขาธิการนายกฯแทนนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ และจะให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เข้ามาเป็นรองนายกฯ ไปถึงไหนแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ก็คงจะดำเนินการในเวลาไม่นานจากนี้ ส่วนเหตุผลเป็นเพราะยังสะสางงานเก่าให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะยังไม่เข้าที่ เมื่อถามว่าถ้าจะปรับครม. ต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า "ขณะนี้ผมยังไม่เห็นปัจจัย"
เมื่อถามว่า เห็นข่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ รองนายกฯ ก็จะลาออก เพื่อเปิดทางให้กับนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย มานั่งเป็นรัฐมนตรีแทน นายสุเทพ กล่าวว่าต้องไปถามพล.ต.สนั่น จะดีกว่า
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสัญญาใจใช่หรือไม่ ว่าเป็นรัฐมนตรีครบหนึ่งปีแล้วจะให้คนที่ไม่เคยเป็นเป็นบ้าง นายสุเทพกล่าวว่าไม่มี ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเล่นเก้าอี้ดนตรีกัน เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะกดดันเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า "ไม่มีครับ" เมื่อถามย้ำว่าสรุปแล้วยังไม่ปรับ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า"ครับ"
**ชทพ.ไม่แลกกระทรวง-เปลี่ยนคน
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะขอปรับเปลี่ยน หรือแลกโควต้ากระทรวงว่า พรรคไม่เคยส่งสัญญาณ หรือแสดงการกดดันใดๆ ในเรื่องการปรับครม.ต่อนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคชาติไทยพัฒนา จะขอแลกกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กับกระทรวงอื่นนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ หรือตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี หรือตำแหน่ง รมช.คมนาคม ทุกกระทรวง ทุกตำแหน่ง เรายังพอใจ ทั้งในส่วนของกระทรวง และผู้บริหารกระทรวง
"ผมได้คุยกับนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา ยังบอกว่าเป้านักท่องเที่ยวน่าจะถึง 14 ล้านคน เพราะฉะนั้นข่าวเรื่องการแลกเปลี่ยนกระทรวง หรือเปลี่ยนคนในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มี ส่วนพรรคอื่นจะปรับ ก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น เราไม่ว่ากัน ในส่วนของเรา พอใจในผลงานและคนที่มีอยู่วันนี้" นายวัชระกล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จะให้ลูกชาย ซึ่งเป็นส.ส.มารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนั้น ขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และพล.ต.สนั่น ยังเป็นแม่ทัพคนสำคัญของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน และพล.ต.สนั่น ยังจะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ต่อไป
"ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงโกยผลงานของพวกเรา และเรามองว่า ถ้าเปลี่ยนช่วงนี้เราไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเหลือเวลาบริหารอีกนานเท่าไร และการเปลี่ยนช่วงนี้ ไม่ใช่การเปลี่ยนที่ฉลาด สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะคงเป็นเรื่องยากมากถ้ารัฐมนตรีใหม่เข้ามาทำงาน จะสามารถเร่งสร้างผลงานได้ทัน ถ้าหากจะมีการเลือกตั้ง"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวที่ออกมาคิดว่ามาจากพรรคไหน และมีจุดประสงค์อย่างไร นายวัชระ กล่าวว่า คงเป็นการจับแพะชนแกะ จากที่มีการจับโยนในส่วนของพรรคแกนนำ ที่อาจจะมีสัญญาใจ หรือแรงกระเพื่อมว่าทำงานครบ 1 ปี อาจจะมีการพิจารณาตำแหน่งต่างๆ และอาจจะจับโยงเรื่องที่ถึงวาระการปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ก็คือ นายกอปศักดิ์ สภาวสุ ไปเป็นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
เมื่อถามว่า แสดงว่าคนที่ปล่อยข่าวต้องการได้กระทรวงนั้น นายวัชระ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะวิเคราะห์เช่นนั้น แต่ตนคิดว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ พรรคเรามั่นใจว่าเป็นกระทรวงสำคัญสามารถสร้างผลงาน และการยอมรับถ้าทำได้สำเร็จ จึงไม่คิดแง่ร้ายว่าใครที่ปล่อยข่าวออกมามีความประสงค์อยากจะได้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และไม่เกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณ
เมื่อถามย้ำว่า ข่าวที่ออกมาจากไหน นายวัชระ กล่าวว่า เท่าที่เห็นๆ อยู่ ก็น่าจะไม่ใกล้ ไม่ไกลจากพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ขอไม่ยืนยัน และไม่ไกลเกิน 10-15 กม. คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุดในการปรับ ครม.คงไม่ใช่ฝ่ายค้าน คงเป็นพรรคร่วมที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และเขย่าได้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข่าวปล่อยจากพรรคเพื่อไทย คงเป็นพรรคพวกเรานี่แหล่ะ จะเป็นพรรค 1 2 3 4 ตนไม่ทราบว่าใคร ต้องไปถามคนที่ปล่อยข่าว ตนยืนยันว่าไม่ได้พูดถึงพรรคไหน แต่ข่าวที่ออกมาได้ยินมา 1-2 เดือนแล้ว ตั้งแต่เรื่องพล.ต.สนั่น ถอดใจ ซึ่งทางผู้บริหารพรรคได้พูดคุยกับพล.ต.สนั่น ตลอด และท่านบอกว่าจะอยู่เป็นแม่ทัพของพรรคต่อ โดยยืนคู่กับนายชุมพล และที่ผ่านมาเราไม่เคยถามท่าน เพราะเรามั่นใจในตัวท่าน และมั่นใจในสัญญาลูกผู้ชาย เรามองว่าพล.ต.สนั่น และนายบรรหาร เป็นนักเลงโบราณ คือถือคำมั่น และคำสัตย์สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อสองคนจับมือ เชื่อว่าไม่มีอะไรมาเขย่าได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายบรรหาร จับมือกับพล.ต.สนั่น จนไม่มีใครมาเขย่าได้ แต่เราไปเขย่าคนอื่นได้ ใช่หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ตนตอบแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ของพรรคที่อยู่กับเรา ๆ มั่นใจว่าวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนามองว่า โหมดของการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า เราจะรักษาที่นั่งได้เท่าเดิม และมากกว่าเดิมได้อย่างไร เราไม่ห่วงเรื่องข้างหลัง เพราะหลังเราแน่น
**"ลูกยอด"บอกอายุ 36 ปีเป็นรมต.ได้
ด้านนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร บุตรชาย พล.ต.สนั่น ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศสเปน ถึงกระแสข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แทน พล.ต.สนั่น ว่า ไม่ทราบว่าข่าวออกจากไหน
"เรื่องนี้ต้องถามคุณพ่อโดยตรง ถามผมไม่ได้ ซึ่งเรื่องของการปรับครม.ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมก็อายุ 36 แล้ว ตามรัฐธรรมนูญสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ รอถามพ่อผมจะดีกว่า" นายศิริวัฒน์ กล่าว
**"ไชชยศ"โผล่โผปรับครม.เพื่อแผ่นดิน
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในพรรคเพื่อแผ่นดิน ยอมรับว่ามีการพูดคุยเรื่องปรับครม.บ้างแล้ว แต่ไม่ถึงขั้นมีการพูดถึงการแลกเปลี่ยนกระทรวงไอซีที กับกระทรวงศึกษาฯ มีเฉพาะเรื่องการพูดถึงเรื่องตัวบุคคลโดยขณะนี้ หนึ่งในแคนดิเดต ที่มีการพูดถึงคือนายไชยยศ จิรเมธากร เลขาธิการพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ภายในพรรคได้มีการคุยกันนอกรอบว่า ถ้าจะมีการปรับครม. ก็น่าจะเป็นนายไชยยศ
ส่วนมีข่าวว่าจะปรับ ครม.หลังวันที่ 15 ธ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ ก็ยืนยันว่า ไม่มี เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสัญญาใจว่าครบ 1 ปีจะปรับครม.ในส่วนของพรรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ครบ 1 ปีเลย แต่ครบ 1 ปี จะมีการพิจารณาก็เป็นปกติ ขึ้นอยู่กับการประเมินหลายๆด้าน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่ได้เสนอเรื่องปรับครม.มา ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน อยากจะแลกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กับกระทรวงศึกษาธิการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อแผ่นดิน ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้เลย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังเตรียมงานต่างๆ โดยเฉพาะงานเฉลิมพระเกียรติ ฉะนั้นเรื่องการเมืองขณะนี้ต้องการให้บรรยากาศนิ่งที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.จะใช้ปัจจัยอะไรในการพิจารณา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงาน และความเหมาะสมในด้านต่างๆ
ส่วนที่หอการค้าประเมินให้คะแนนรัฐบาลว่า มีปัญหาในเรื่องของการทุจริต และสอบตกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องปรับปรุง เมื่อถามว่า มีจุดไหนบ้างเป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วจะเป็นกลไกในการติดตามเรื่องโครงการต่างๆ และอยากจะขอความร่วมมือภาคเอกชน เพราะเคยขอความร่วมมือผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ( กรอ.) ว่าถ้ามีข้อมูลชัดเจนในเรื่องการทุจริต ขอให้เสนอรัฐบาลมา ก็จะมีการดำเนินการ เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเป็นตัวบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าความรู้สึกเรื่องการทุจริตมีปัญหา ก็จะเป็นตัวบั่นทอนอยู่เสมอ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวพาดพิงว่ารัฐบาลเป็นเป็ด ไม่มีวันได้เป็นหงส์ นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและหัวเราะในลำคอ เมื่อถามต่อว่า หอการค้ามองว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมที่ผ่านมา ยังไม่ผ่าน 5.3 คะแนน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ ตนมองว่า เศรษฐกิจขณะนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี แต่ช่วง 10 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตนเข้าใจดีว่า เอกชนก็มีปัญหาเยอะ เพราะเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมาก แต่ก็มั่นใจว่าขณะนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยลำดับ
"รัฐบาลพยายามที่จะบริหารงานให้นโยบายเดินได้ และทำให้บรรยากาศบ้านเมืองสามารถประคับประคองให้การทำงานทางด้านเศรษฐกิจ ทางด้านธุรกิจเดินไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาเกือบ 1 ปี มีบางช่วงที่เป็นปัญหา เช่น ช่วงเดือนเม.ย. แต่นอกเหนือจากนั้นก็สามารถเดินมาถึงจุดที่หลายเรื่องก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แม้กระทั่งเรื่องการท่องเที่ยว" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**"เทือก"ยันครม.ไม่ใช่เก้าอี้ดนตรี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ฐานะผู้จัดการรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. หลังวันที่ 15 ธ.ค.ว่า ตนอ่านข่าวเจอ แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องมากมายขนาดนั้น ส่วนที่พรรคการเมืองใหม่ เสนอว่าให้รัฐบาลปรับ ครม.เพื่อเป็นของขวัญกับประชาชนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า โดยภาพรวม ครม.ยังทำงานได้ดี
"ผมคิดว่าถ้ามองกันอย่างตรงไปตรงมา ถือว่ารัฐบาลนี้ได้ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้มาก และผมยังไม่เห็นว่ารัฐมนตรีท่านใดจะเป็นปัญหาในขณะนี้"นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงเสียงเรียกร้องให้ปรับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ออกว่า ท่านก็ถูกเรียกร้องมาตั้งแต่วันแรกของการแต่งตั้งมาแล้ว ก็น่าเห็นใจท่าน และที่ผ่านมาท่านก็พยายามทำงานได้ดี
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่กระแสข่าวระบุว่าต้องการสลับตัว และพรรคเพื่อแผ่นดิน ต้องการสลับกระทรวงกับพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อมาที่ตน และในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนก็ได้ปรึกษาหารือกันมาในเรื่องต่างๆ แต่ยังไม่เคยปรากฏว่าบรรดาพรรคร่วม จะมาเจรจาเรื่องการแลกกระทรวง เรื่องการปรับครม. อย่างที่เป็นข่าว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ไม่ประสานผ่านผู้จัดการรัฐบาล แต่ประสานไปที่ผู้นำรัฐบาลโดยตรงเลย นายสุเทพ หัวเราะเบาๆ และตอบว่า ถ้าอย่างนั้นต้องไปถามท่านผู้นำรัฐบาล แต่ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เอง ถึงเวลาหรือยังที่ต้องปรับเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐมนตรีของเราทุกคนทำงานได้ดีอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ก็ทำงานเป็นหลัก นอกจากนั้นก็ช่วยกันทำงาน ก็ดี
เมื่อถามว่าตัวของท่านเอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นเป้าใหญ่ที่มีการเสนอให้นายกฯ ต้องปรับ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นเป้าใหญ่อยู่แล้ว เพราะตัวใหญ่ แต่ทั้งนี้เป็นธรรมดา ตนก็รับฟังด้วยความเคารพและด้วยความเข้าใจ เมื่อเขาพูดว่าจะปรับรมว.กลาโหม และรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ตนก็เข้าใจได้ ไม่เป็นปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงการตั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ไปเป็นเลขาธิการนายกฯแทนนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ และจะให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เข้ามาเป็นรองนายกฯ ไปถึงไหนแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ก็คงจะดำเนินการในเวลาไม่นานจากนี้ ส่วนเหตุผลเป็นเพราะยังสะสางงานเก่าให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะยังไม่เข้าที่ เมื่อถามว่าถ้าจะปรับครม. ต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า "ขณะนี้ผมยังไม่เห็นปัจจัย"
เมื่อถามว่า เห็นข่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ รองนายกฯ ก็จะลาออก เพื่อเปิดทางให้กับนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย มานั่งเป็นรัฐมนตรีแทน นายสุเทพ กล่าวว่าต้องไปถามพล.ต.สนั่น จะดีกว่า
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสัญญาใจใช่หรือไม่ ว่าเป็นรัฐมนตรีครบหนึ่งปีแล้วจะให้คนที่ไม่เคยเป็นเป็นบ้าง นายสุเทพกล่าวว่าไม่มี ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเล่นเก้าอี้ดนตรีกัน เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะกดดันเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า "ไม่มีครับ" เมื่อถามย้ำว่าสรุปแล้วยังไม่ปรับ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า"ครับ"
**ชทพ.ไม่แลกกระทรวง-เปลี่ยนคน
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะขอปรับเปลี่ยน หรือแลกโควต้ากระทรวงว่า พรรคไม่เคยส่งสัญญาณ หรือแสดงการกดดันใดๆ ในเรื่องการปรับครม.ต่อนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคชาติไทยพัฒนา จะขอแลกกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กับกระทรวงอื่นนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ หรือตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี หรือตำแหน่ง รมช.คมนาคม ทุกกระทรวง ทุกตำแหน่ง เรายังพอใจ ทั้งในส่วนของกระทรวง และผู้บริหารกระทรวง
"ผมได้คุยกับนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา ยังบอกว่าเป้านักท่องเที่ยวน่าจะถึง 14 ล้านคน เพราะฉะนั้นข่าวเรื่องการแลกเปลี่ยนกระทรวง หรือเปลี่ยนคนในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มี ส่วนพรรคอื่นจะปรับ ก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น เราไม่ว่ากัน ในส่วนของเรา พอใจในผลงานและคนที่มีอยู่วันนี้" นายวัชระกล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จะให้ลูกชาย ซึ่งเป็นส.ส.มารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนั้น ขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และพล.ต.สนั่น ยังเป็นแม่ทัพคนสำคัญของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน และพล.ต.สนั่น ยังจะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ต่อไป
"ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงโกยผลงานของพวกเรา และเรามองว่า ถ้าเปลี่ยนช่วงนี้เราไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเหลือเวลาบริหารอีกนานเท่าไร และการเปลี่ยนช่วงนี้ ไม่ใช่การเปลี่ยนที่ฉลาด สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะคงเป็นเรื่องยากมากถ้ารัฐมนตรีใหม่เข้ามาทำงาน จะสามารถเร่งสร้างผลงานได้ทัน ถ้าหากจะมีการเลือกตั้ง"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวที่ออกมาคิดว่ามาจากพรรคไหน และมีจุดประสงค์อย่างไร นายวัชระ กล่าวว่า คงเป็นการจับแพะชนแกะ จากที่มีการจับโยนในส่วนของพรรคแกนนำ ที่อาจจะมีสัญญาใจ หรือแรงกระเพื่อมว่าทำงานครบ 1 ปี อาจจะมีการพิจารณาตำแหน่งต่างๆ และอาจจะจับโยงเรื่องที่ถึงวาระการปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ก็คือ นายกอปศักดิ์ สภาวสุ ไปเป็นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
เมื่อถามว่า แสดงว่าคนที่ปล่อยข่าวต้องการได้กระทรวงนั้น นายวัชระ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะวิเคราะห์เช่นนั้น แต่ตนคิดว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ พรรคเรามั่นใจว่าเป็นกระทรวงสำคัญสามารถสร้างผลงาน และการยอมรับถ้าทำได้สำเร็จ จึงไม่คิดแง่ร้ายว่าใครที่ปล่อยข่าวออกมามีความประสงค์อยากจะได้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และไม่เกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณ
เมื่อถามย้ำว่า ข่าวที่ออกมาจากไหน นายวัชระ กล่าวว่า เท่าที่เห็นๆ อยู่ ก็น่าจะไม่ใกล้ ไม่ไกลจากพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ขอไม่ยืนยัน และไม่ไกลเกิน 10-15 กม. คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุดในการปรับ ครม.คงไม่ใช่ฝ่ายค้าน คงเป็นพรรคร่วมที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และเขย่าได้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข่าวปล่อยจากพรรคเพื่อไทย คงเป็นพรรคพวกเรานี่แหล่ะ จะเป็นพรรค 1 2 3 4 ตนไม่ทราบว่าใคร ต้องไปถามคนที่ปล่อยข่าว ตนยืนยันว่าไม่ได้พูดถึงพรรคไหน แต่ข่าวที่ออกมาได้ยินมา 1-2 เดือนแล้ว ตั้งแต่เรื่องพล.ต.สนั่น ถอดใจ ซึ่งทางผู้บริหารพรรคได้พูดคุยกับพล.ต.สนั่น ตลอด และท่านบอกว่าจะอยู่เป็นแม่ทัพของพรรคต่อ โดยยืนคู่กับนายชุมพล และที่ผ่านมาเราไม่เคยถามท่าน เพราะเรามั่นใจในตัวท่าน และมั่นใจในสัญญาลูกผู้ชาย เรามองว่าพล.ต.สนั่น และนายบรรหาร เป็นนักเลงโบราณ คือถือคำมั่น และคำสัตย์สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อสองคนจับมือ เชื่อว่าไม่มีอะไรมาเขย่าได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายบรรหาร จับมือกับพล.ต.สนั่น จนไม่มีใครมาเขย่าได้ แต่เราไปเขย่าคนอื่นได้ ใช่หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ตนตอบแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ของพรรคที่อยู่กับเรา ๆ มั่นใจว่าวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนามองว่า โหมดของการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า เราจะรักษาที่นั่งได้เท่าเดิม และมากกว่าเดิมได้อย่างไร เราไม่ห่วงเรื่องข้างหลัง เพราะหลังเราแน่น
**"ลูกยอด"บอกอายุ 36 ปีเป็นรมต.ได้
ด้านนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร บุตรชาย พล.ต.สนั่น ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศสเปน ถึงกระแสข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แทน พล.ต.สนั่น ว่า ไม่ทราบว่าข่าวออกจากไหน
"เรื่องนี้ต้องถามคุณพ่อโดยตรง ถามผมไม่ได้ ซึ่งเรื่องของการปรับครม.ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมก็อายุ 36 แล้ว ตามรัฐธรรมนูญสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ รอถามพ่อผมจะดีกว่า" นายศิริวัฒน์ กล่าว
**"ไชชยศ"โผล่โผปรับครม.เพื่อแผ่นดิน
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในพรรคเพื่อแผ่นดิน ยอมรับว่ามีการพูดคุยเรื่องปรับครม.บ้างแล้ว แต่ไม่ถึงขั้นมีการพูดถึงการแลกเปลี่ยนกระทรวงไอซีที กับกระทรวงศึกษาฯ มีเฉพาะเรื่องการพูดถึงเรื่องตัวบุคคลโดยขณะนี้ หนึ่งในแคนดิเดต ที่มีการพูดถึงคือนายไชยยศ จิรเมธากร เลขาธิการพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ภายในพรรคได้มีการคุยกันนอกรอบว่า ถ้าจะมีการปรับครม. ก็น่าจะเป็นนายไชยยศ
