นายกรัฐมนตรีปฏิเสธปรับ ครม.หลัง 15 ธันวาฯ ระบุต้องการให้บรรยากาศทางการเมืองนิ่งที่สุด เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ แต่ยอมรับยังไม่ลืมสัญญา 1 ปีปรับ ครม.ซีก ปชป. เมิน “นช.แม้ว” เปรียบรัฐบาลเป็ด ของขึ้นหลังถูกเทียบกระแสความนิยมรัฐบาลกับตัว “ทักษิณ” ชี้ถ้าวัดกันตรงนี้ก็ไม่จบไม่สิ้น
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ไม่ทราบเลยว่าข่าวมาจากไหน ไม่ใช่ช่วงนี้ มีเฉพาะกรณีของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่โยกมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ยังค้างอยู่ ซึ่งเวลานี้กำลังดูเรื่องประกันรายได้เกือบจะเรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีข่าวว่าจะปรับคณะรัฐมนตรีหลังจากวันที่ 15 ธันวาคมนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวยืนยันว่า ไม่มี เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีสัญญาใจว่าครบ 1 ปีจะปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ครบ 1 ปีเลย แต่ครบ 1 ปีจะมีการพิจารณาก็เป็นปกติ ขึ้นอยู่กับการประเมินหลายๆ ด้าน
เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลเสนอปรับ ครม.มาด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยัง เมื่อถามต่อว่า มีข่าวว่าพรรคเพื่อแผ่นดินอยากจะแลกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารกับกระทรวงศึกษาธิการ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อแผ่นดิน ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังเตรียมงานต่างๆ โดยเฉพาะงานเฉลิมพระเกียรติ ฉะนั้น เรื่องการเมืองขณะนี้ต้องการให้บรรยากาศนิ่งที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับ ครม.จะใช้ปัจจัยอะไรในการพิจารณา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากหลายปัจจัยทั้งเรื่องงาน และความเหมาะสมในด้านต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หอการค้าประเมินให้คะแนนรัฐบาลว่า มีปัญหาในเรื่องของการทุจริต และสอบตก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องปรับปรุง ถามว่ามีจุดไหนบ้างเป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วจะเป็นกลไกในการติดตามเรื่องโครงการต่างๆ และอยากจะขอความร่วมมือภาคเอกชน เพราะเคยขอความร่วมมือผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน กรอ.ว่าถ้ามีข้อมูลชัดเจนในเรื่องการทุจริตขอให้เสนอรัฐบาลมา ก็จะมีการดำเนินการ เมื่อถามต่อว่าจะเป็นตัวบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าความรู้สึกเรื่องการทุจริต มีปัญหาก็จะเป็นตัวบั่นทอนอยู่เสมอ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงว่ารัฐบาลเป็นเป็ดไม่มีวันได้เป็นหงส์ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ตอบคำถามได้แต่ยิ้มและหัวเราะในลำคอ เมื่อถามต่อว่า หอการค้ามองว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมที่ผ่านมายังไม่ผ่าน 5.3 คะแนน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมองว่าเศรษฐกิจขณะนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี แต่ช่วง 10 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ตนเข้าใจดีว่าเอกชนก็มีปัญหาเยอะเพราะเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมาก แต่ก็มั่นใจว่าขณะนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยลำดับ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำยังไงกับภาคเอกชนที่หวังพึ่งรัฐบาล แต่ในสภาวการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง รัฐบาลจะให้คำมั่นได้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะบริหารงานให้นโยบายเดินได้ และทำให้บรรยากาศบ้านเมือง สามารถประคับประคองให้การทำงานทางด้านเศรษฐกิจ ทางด้านธุรกิจเดินไปได้ ซึ่งที่ผ่านมา 1 ปี มีบางช่วงที่เป็นปัญหา เช่น ช่วงเดือน เม.ย. แต่นอกเหนือจากนั้นก็สามารถเดินมาถึงจุดที่หลายเรื่องก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แม้กระทั่งเรื่องการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนเสื้อแดงประกาศอีกรอบแล้วว่าหลังวันที่ 5 ธันวาฯ จะชุมนุม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์กันอีกที เมื่อถามว่ายังเป็นปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงอยู่อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นความห่วงใยของภาคธุรกิจ เอกชนและประชาชนทั่วไป เพราะไม่มีใครอยากเห็นเหตุการณ์ที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ เมื่อถามว่า รัฐมนตรีลงพื้นที่ก็ยังถูกเสื้อแดงขัดขวางการทำงาน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ไม่อยากให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ อยากให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ
เมื่อถามว่า เมื่อวานนายกฯ มั่นใจว่าบรรยากาศมันคลายตัว แต่วันนี้กลับมีสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องเรียนว่า เหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเช่น เวลามีการลงพื้นที่จำนวนคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ ไม่ได้มีจำนวนมากถึงขนาดบอกว่า เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ หรือคนทั่วไป เพียงแต่ว่าเมื่อมันมีการมาชุมนุมขึ้นและก็มีความพยายามที่ต้องรักษาความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ต้องหาความพอดี หากจะให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปหมด ก็ต้องตึงกับผู้ชุมนุม เมื่อตึงกับผู้ชุมนุมก็มีความเสี่ยงต่อการที่จะมีปัญหาการปะทะกัน บาดเจ็บ เขาก็ต้องพยายามดูให้มีความพอดีว่า ทางผู้ชุมนุมก็ต้องไม่ถึงกับตึงตัวเกินไป มีการปะทะกัน แต่มันอาจจะทำให้ภาพของการลงพื้นที่มีความไม่เรียบร้อยบ้าง อันนี้เป็นสิ่งที่ตนคิดว่า น่าจะทำความเข้าใจกัน
ส่วนจะกระทบต่อการทำงานรัฐบาลหรือไม่กับบรรยากาศแบบนั้น นายกฯ กล่าวว่า รัฐมนตรีทุกท่าน มีความตั้งใจเหมือนเดิมในการทำงาน ไม่เป็นอุปสรรค เขาก็เดินหน้าในการทำงานและลงพื้นที่ต่อไป เมื่อถามต่อว่า การที่ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนในการขัดขวางการทำงานรัฐบาล ทำให้สะท้อนให้เห็นหรือไม่ว่า คะแนนนิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณมีมากกว่าความนิยมในตัวรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่
“ถ้าเอาตัวนี้มาวัดก็ไม่จบไม่สิ้น ปีที่แล้วก็มีการประท้วงทั้งปี แปลว่าอะไรล่ะครับ ช่วงที่เป็นรัฐบาลที่สนับสนุนคุณทักษิณ ฉะนั้นเราอย่าเอาตัวนี้มาวัด มันไม่ได้เป็นตัวสะท้อนอะไร มันเป็นการสะท้อนเพียงแค่ว่าคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างเท่านั้นเอง” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีแผนรับมืออย่างไรกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงต้นเดือนมกราคม นายกฯ กล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์ว่าพัฒนาการเหตุการณ์ต่างๆ จะเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการชี้แจง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันอังคารที่ 1 ธันวาคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทราบว่าข้อเสนอตกลงจะเป็นการยกเลิกหรือไม่