นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่พรรคไทยรักไทยขอพักรบ และเชิญชวนรัฐบาลให้พักรบชั่วคราว พร้อมเรียกร้องให้แต่งตั้งโฆษกรัฐบาล ,ผบ.ตร. , และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตัวจริงว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย แล้วเกี่ยวอะไรกับการพักรบ ตนไม่มีหน้าที่ไปรบกับใคร แต่ทำงานให้บ้านเมือง ไม่ได้มองเรื่องรบอยู่แล้ว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้เป็นคนเปิดเกมรุกอะไรเลย พรรคเพื่อไทยเสียอีกที่เป็นคนเปิดเกมออกมา เมื่อมีประเด็นออกมาเราก็ชี้แจงเท่านั้นเอง
ที่ผ่านมารัฐบาลเรารักสงบมาตลอด ดังนั้นไม่อยากให้เขากล่าวหา ในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล เราไม่ไปกล่าวหาเขา เพราะบ้านเมือง ต้องการความรัก ความสามัคครีทั้งนี้รับรองว่าประชาธิปัตย์ไม่ไปเริ่มก่อนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองเกมนี้ของพรรคเพื่อไทยอย่างไร นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเพราะกระแสสังคมต้องการความสงบปกติช่วงปลายปีและปีใหม่ เป็นบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะช่วงวันมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประชาชนต้องการความสุข ดังนั้นเชื่อว่าเขาคงประเมิณสถานการณ์ได้ ซึ่งสอดคล้องกับที่เราประเมิณอยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะทำได้หรือไม่ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงต้องอยู่ที่เขาเอง ซึ่งตนคิดว่าถ้าเรามาต่อสู้กันด้วยระบบรัฐสภา พูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผลบ้านเมืองก็จะสงบสุข เราอย่ามาจมอยู่กับที่เลย ซึ่งเราก็เห็นอก เห็นใจเขา แต่ถ้าสิ่งที่เขาประกาศก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี รับรองรัฐบาลให้ความร่วมมือ อยู่แล้ววันนี้เราเป็นรัฐบาล เขาเป็นฝ่ายค้านก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการพักรบจริงหรือไม่เพราะหัวหน้าพรรคตัวจริง ที่อยู่ต่างประเทศ ยังมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา นพ.วรงค์ กล่าวว่า นั่นนะสิ เพราะแทนที่เขาจะเรียกร้องฝั่งเรา เขาต้องเรียกร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงของเขาด้วย ปากบอกว่าจะสงบศึกแต่คนที่อยู่ต่างประเทศเล่นตลอดมันก็ไม่สงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พรรคเพื่อไทยประกาศรับรบไม่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะสร้างปัญหาทางการเมืองปรากฎว่า วานนี้ (1 ธ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลนี้บริหารงานมาครบ 1 ปีแล้วก็ควรจะมีการปรับ ครม.เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลหลอกตัวเอง หลอกประชาชนมาตลอดว่าแก้ปัญหาได้ดี แต่ความจริง ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไร้ผลงานและไร้ทีมเวิร์ค พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาลปรับครม.ใน 2 ส่วนสำคัญคือ
1.ทีมเศรษฐกิจ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไม่ควรเป็นหัวหน้าทีมเอง และควรปรับการทำงานของกระทรวงต่างๆ ให้เป็นทีมเดียวกัน โดยอาจนำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยก็ได้ วันนี้หมดเวลาบริหารการเมืองแล้ว จำเป็นต้องบริหารเพื่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ 2.ทีมความมั่นคงและยุติธรรมที่ผ่านมา ดำเนินนโยบายผิดทางมาตลอดในเรื่องปัญหาอาชญากรรมและปัญหาภาคใต้ จึงขอแนะนำให้ปรับรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านนี้รวมทั้งรัฐมนตรีทั้งหมดยกชุด ขอให้รีบปรับก่อนที่จะไม่มีโอกาส รีบปรับก่อนที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และรีบปรับก่อนที่ประชาชนจะออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลจนอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมผลงานรัฐมนตรีต่างๆ ว่าใครทำผลงานสอบได้ สอบตก และจะแถลงให้ประชาชนทราบต่อไป
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายพักรบเป็นความเห็นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชุดใหญ่ของพรรคเพื่อไทย 40 คน ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ซึ่งหลังจากประกาศจุดยืนไปสังคมก็ตอบรับดี เพราะสถานการณ์ขณะนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องกาลเทศะเนื่องจากอยู่ในช่วงถวายความจงรักภักดี ดังนั้นความขัดแย้งทางการเมืองถ้าไม่ตั้งสติจะพังพินาศกันหมด เราต้องหันหน้าคุยกัน
ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลปรับครม.นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ได้บอกนายพร้อมพงศ์ไปแล้วว่า แนวปฏิบัติขณะนี้ควรเป็นอย่างไร ห้ามพูดยั่วยุ ปั้นน้ำเป็นตัว ต้องหลีกเลี่ยง
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ระบุว่า เป็นแนวคิดของนายปลอดประสพและพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวกับกลุ่ม นปช.นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่เป็นไร สิ่งที่นายจตุพร พูดก็ไม่มีอะไรขัดแย้ง แต่ขอให้เชื่อว่าเดือนนี้จะยุติความขัดแย้ง ไปต่อสู้กันตามแนวทางประชาธิปไตยกันใหม่ในปีหน้า เพราะขณะนี้มีสัญญาณหลายอย่างที่ออกมาในแง่ดี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้เป็นคนเปิดเกมรุกอะไรเลย พรรคเพื่อไทยเสียอีกที่เป็นคนเปิดเกมออกมา เมื่อมีประเด็นออกมาเราก็ชี้แจงเท่านั้นเอง
ที่ผ่านมารัฐบาลเรารักสงบมาตลอด ดังนั้นไม่อยากให้เขากล่าวหา ในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล เราไม่ไปกล่าวหาเขา เพราะบ้านเมือง ต้องการความรัก ความสามัคครีทั้งนี้รับรองว่าประชาธิปัตย์ไม่ไปเริ่มก่อนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองเกมนี้ของพรรคเพื่อไทยอย่างไร นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเพราะกระแสสังคมต้องการความสงบปกติช่วงปลายปีและปีใหม่ เป็นบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะช่วงวันมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประชาชนต้องการความสุข ดังนั้นเชื่อว่าเขาคงประเมิณสถานการณ์ได้ ซึ่งสอดคล้องกับที่เราประเมิณอยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะทำได้หรือไม่ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงต้องอยู่ที่เขาเอง ซึ่งตนคิดว่าถ้าเรามาต่อสู้กันด้วยระบบรัฐสภา พูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผลบ้านเมืองก็จะสงบสุข เราอย่ามาจมอยู่กับที่เลย ซึ่งเราก็เห็นอก เห็นใจเขา แต่ถ้าสิ่งที่เขาประกาศก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี รับรองรัฐบาลให้ความร่วมมือ อยู่แล้ววันนี้เราเป็นรัฐบาล เขาเป็นฝ่ายค้านก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการพักรบจริงหรือไม่เพราะหัวหน้าพรรคตัวจริง ที่อยู่ต่างประเทศ ยังมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา นพ.วรงค์ กล่าวว่า นั่นนะสิ เพราะแทนที่เขาจะเรียกร้องฝั่งเรา เขาต้องเรียกร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงของเขาด้วย ปากบอกว่าจะสงบศึกแต่คนที่อยู่ต่างประเทศเล่นตลอดมันก็ไม่สงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พรรคเพื่อไทยประกาศรับรบไม่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะสร้างปัญหาทางการเมืองปรากฎว่า วานนี้ (1 ธ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลนี้บริหารงานมาครบ 1 ปีแล้วก็ควรจะมีการปรับ ครม.เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลหลอกตัวเอง หลอกประชาชนมาตลอดว่าแก้ปัญหาได้ดี แต่ความจริง ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไร้ผลงานและไร้ทีมเวิร์ค พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาลปรับครม.ใน 2 ส่วนสำคัญคือ
1.ทีมเศรษฐกิจ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไม่ควรเป็นหัวหน้าทีมเอง และควรปรับการทำงานของกระทรวงต่างๆ ให้เป็นทีมเดียวกัน โดยอาจนำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยก็ได้ วันนี้หมดเวลาบริหารการเมืองแล้ว จำเป็นต้องบริหารเพื่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ 2.ทีมความมั่นคงและยุติธรรมที่ผ่านมา ดำเนินนโยบายผิดทางมาตลอดในเรื่องปัญหาอาชญากรรมและปัญหาภาคใต้ จึงขอแนะนำให้ปรับรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านนี้รวมทั้งรัฐมนตรีทั้งหมดยกชุด ขอให้รีบปรับก่อนที่จะไม่มีโอกาส รีบปรับก่อนที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และรีบปรับก่อนที่ประชาชนจะออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลจนอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมผลงานรัฐมนตรีต่างๆ ว่าใครทำผลงานสอบได้ สอบตก และจะแถลงให้ประชาชนทราบต่อไป
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายพักรบเป็นความเห็นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชุดใหญ่ของพรรคเพื่อไทย 40 คน ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ซึ่งหลังจากประกาศจุดยืนไปสังคมก็ตอบรับดี เพราะสถานการณ์ขณะนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องกาลเทศะเนื่องจากอยู่ในช่วงถวายความจงรักภักดี ดังนั้นความขัดแย้งทางการเมืองถ้าไม่ตั้งสติจะพังพินาศกันหมด เราต้องหันหน้าคุยกัน
ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลปรับครม.นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ได้บอกนายพร้อมพงศ์ไปแล้วว่า แนวปฏิบัติขณะนี้ควรเป็นอย่างไร ห้ามพูดยั่วยุ ปั้นน้ำเป็นตัว ต้องหลีกเลี่ยง
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ระบุว่า เป็นแนวคิดของนายปลอดประสพและพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวกับกลุ่ม นปช.นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่เป็นไร สิ่งที่นายจตุพร พูดก็ไม่มีอะไรขัดแย้ง แต่ขอให้เชื่อว่าเดือนนี้จะยุติความขัดแย้ง ไปต่อสู้กันตามแนวทางประชาธิปไตยกันใหม่ในปีหน้า เพราะขณะนี้มีสัญญาณหลายอย่างที่ออกมาในแง่ดี