วิปรัฐบาลวอนฝ่ายค้านทบทวนร่วมแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมเปิดช่อง เขียนบทเฉพาะกาลยุบสภา หลังแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ เชื่อเป็นแนวทางนำไปสู่ความสมานฉันท์ งัดเงื่อนไขก่อนยุบสภา ทุกฝ่ายก็ต้องมาสร้างกติกาที่ชอบธรรมและนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นสันติวิธี
วันนี้ (30 พ.ย.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้รัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้คณะกรรมการยกร่างจะจัดทำรายงาน ส่งเลขาธิการสภาเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นเสนอให้ประธานสภาเพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้งว่าจะเดินหน้าในการทำประชามติหรือไม่ ขณะเดียวกันวิปทั้งสามฝ่ายต้องแสวงหาความร่วมมือในการเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ระหว่างนี้ตนจะได้ประสานกับพรรคฝ่ายค้านและวุฒิสภา โดยได้ส่งมอบรายงานประเด็นการแก้ไขให้ทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว เพื่อแสดงหาความร่วมมือ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองและเพื่อสร้างความสมานฉันท์ ทุกฝ่ายต้องลงชื่อร่วมกัน และผ่านการทำประชามติ
ส่วนกรณีฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องกลับมาทบทวน หากต้องการแก้ไขปัญหาจริงทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่เช่นนั้นปัญหาก็จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และแปลกใจเหมือนว่า เพราะเหตุใดฝ่ายค้านจึงออกมาเรียกร้องให้มีการยุบสภา ดังนั้น ก่อนที่จะมีการยุบสภา ทุกฝ่ายก็ต้องมาสร้างกติกาที่ชอบธรรมและนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นสันติวิธี หากไม่สามารถแก้ไขกติการ่วมกันได้ แล้วจะมีการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับได้อย่างไร หากเป็นเช่นนี้การเมืองก็ย้อนกลับไปสู่จุดเดิม จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้
นายชินวรณ์กล่าวว่า การเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้มติถึง 312 เสียง นั่นหมายความว่าต้องใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้ร่วมแสดงความรับผิดชอบ เพราะท้ายที่สุดเมื่อถึงขั้นตอนทำประชามิต้องลงทุนถึง 2 พันล้าน และกระบวนการแก้ไขต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดการยอมรับจากทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าพรรคฝ่ายค้านมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ใช่ประเด็นที่พรรคฝ่ายค้าเสนอให้แก้และไม่เป็นประโยชน์ นายชินวรณ์กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งความจริงเกิดจากข้อเสนอของฝ่ายค้าน ที่เสนอให้แก้ไขปัญหาทางกาเมืองด้วยการเมือง ยังจำคำพูดของประธานวิปฝ่ายค้านว่า ที่เคยบอกว่าเราต้องร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องช่วยกันทุกสี หากเราไม่ช่วยกันแล้วจะให้สีไหนมาช่วยแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้น รัฐบาลก็ยินดีเพราะเป็นแนวทางนำไปสู่สันติวิธี
“วันนี้อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและใช้ความจริงใจ เพราะหากไม่แก้ปัญหาก็กลับไปวนอยู่ที่เดิม จึงอยากให้มาร่วมกันว่าเราจะแก้ประเด็นอะไรบ้าง กระบวนการเป็นอย่างไร หากแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายของฝ่ายค้านคือต้องการให้ยุบสภา ก็สามารถที่จะเขียนในบทเฉพาะการได้ แต่พรรคฝ่ายค้านไม่เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาทั้งหมด แล้วจะนำไปสู่การเขียนบทเฉพาะการได้อย่างไร ปัญหาก็กลับไปวนใจจุดเดิม หากไม่ร่วมกันแก้ จะไปสู่เป้าหมายที่ต้องการไม่ได้ หากฝ่ายค้านต้องการโค่นรัฐบาล ให้โค่นตามแนวทางรัฐธรรมนูญจะดีกว่า ด้วยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการมาต่อสู่ให้มีบทเฉพาะการว่าหลังจากแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะต้องยุบสภาภายในกี่วันจะดีกว่า” นายชินวรณ์กล่าว
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำประชาธิปัตย์ไม่ได้มีส่วนไหนการยื้อเวลาหรือขัดขวางกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่สาระหรือกระบวนการทำประชามติ แต่ปัญหาการแก้ไขต้องกลับมายังสมาชิกรัฐสภาที่ต้องร่วมกันเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากรัฐสภาไม่เห็นร่วมกันก็แสดงว่ากระบวนการที่ร่วมทำกันมาล้มเหลวทั้งหมด เพราะปัญหาทีเกิดขึ้นนอกจากพรรคฝ่ายค้านไม่เอาด้วยแล้วยังมี ส.ว.บางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข
เมื่อถามถึงกรณีการนำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปต่อรองกับการปรับเก้าอี้ ครม. นายชินวรณ์กล่าวว่า คงไม่มีใครต่อรองกับนายกรัฐมนตรี ได้เพราะนายกยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลจะอยู่ได้กี่วันไม่สำคัญ แต่ทุกวันที่อยู่ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เชื่อว่าหากรัฐบาลฝ่าวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจได้ ทุกฝ่ายควรลดละ และหันหน้าเข้าหากัน มองไปหาสิ่งที่ดีกว่า
