นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน ปฏิเสธที่จะร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ก็ต้องทำให้ฝ่ายค้านเปลี่ยนใจ โดยคิดว่าประชาชนน่าจะทำให้ฝ่ายค้านเปลี่ยนใจได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นที่คณะกรรมการสมานฉันท์เสนอและมีการยกร่างแก้ไขเสร็จแล้ว ไม่ใช่ประเด็นของฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน มันเป็น 6 ประเด็นที่คณะกรรมการทุกฝ่ายตกลงกัน แล้วเราก็ควรจะทำประชามติ เพราะปีทีแล้วที่เราเกิดวิกฤติทางการเมืองเพราะมีประชาชนจำนวนมากไม่ยอมรับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขาตีความว่าแก้ไปแล้วจะเป็นประโยชน์กับนักการเมือง หรือเป็นประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ตนจึงพูดว่าในเมื่อเรา อยากจะได้ประชาธิปไตย ก็ใช้ประชามติเป็นตัวนำในการแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านอ้างว่ากลัวรัฐบาลจะใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยื้อเวลา และอาจถุกกลอกหากร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีการยื้อเวลา และตนไม่เคยมีประวัติหลอกใคร
ส่วนที่บอกว่าอยากให้ประชาชนเปลี่ยนใจฝ่ายค้านควรทำอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้ก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าประชาชนก็ต้องการที่จะเห็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ และถ้าดูจากการแสดงความคิดเห็นผ่านการสำรวจ บ้าง ความรู้สึกที่เราสัมผัสได้ว่าเขาไม่ต้องการที่จะให้สังคมมีความขัดแย้งกันไปเรื่อยๆ คิดว่าตรงนี้ต้องช่วยกันส่งสัญญาณ มันไม่ได้ยากอะไร เพราะในแต่ละชุมชนช่วยกันพูดว่าจริงๆ แล้วทุกฝ่ายมีโอกาสได้รับความเป็นธรรมอยู่แล้ว แต่ช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองให้ผ่านจุดนี้ไป ทุกอย่างก็จะเดินหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการฝากความหวังกับการแก้รัฐธรรมนูญมากเกินไป หรือเปล่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องของการฝากความหวัง แต่ในเมื่อข้อเรียกร้องมันเป็นจุดที่พูดกันมานาน และหาข้อยุติไม่ได้ และมีความกังวลว่า ถ้ายังไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้วไปเลือกตั้งกัน เดี๋ยวกลับมาก็มีปัญหาเหมือนกับที่เจอกันอยู่ขณะนี้ ก็ควรจะสะสางปัญหาให้จบเรียบร้อยก่อน
ต่อข้อถามว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังไงพรรคเพื่อไทยก็จะไม่มาร่วมด้วยจะทำยังไง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ยังมองว่า หากไม่มาร่วม การเดินต่อก็จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์เท่าไร ยกเว้นแต่ว่าจะมีวิธีที่จะทำให้ประชาชนมองว่านี่เป็นทางออกจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะชัดเจนว่าเพื่อไทยไม่ร่วมแล้ว จะหยุดเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการประสานงาน(วิป) คงต้องทำหน้าที่ต่อ คณะทำงานที่ดูแลเรื่องนี้ เขาก็คงทำหน้าที่ต่อ ในหมู่นักการเมือง ก็ต้องคุยกัน และสำหรับประชาชนที่สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆ ก็อยากจะให้มีกติกาที่ตกลงกันได้ ก็น่าจะเชิญชวนทุกพรรคมา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ตอนหนึ่งว่า การประชุมสภาสมัยประชุมนิติบัญญัติสิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนจึงขอถือโอกาสขอบคุณสมาชิกรัฐสภาตลอด 1 เดือน ที่ได้ทำงาน หรือปฏิบัติหน้าที่ทั้งในเรื่องของกฎหมาย และในเรื่องของกระทู้ถามการตรวจสอบของรัฐบาล ในสัปดาห์สุดท้ายนี้เราก็สามารถที่จะผ่าน คือให้ทางสภาฯ รับหลักการกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกลไกที่จะมาบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปได้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามตลอดทั้งปีที่ผ่านมาเรื่องปัญหาขององค์ประชุมนั้นก็เป็นเรื่อง ที่ตนทราบดีว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำเอากลับไปปรับปรุง และอยากจะขอความร่วมมือจากฝ่ายค้านและจากวุฒิสภาในการทำงานนิติบัญญัติให้เป็นที่พึงพอใจ และเป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชนเมื่อเปิดสมัยประชุมกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงเดือนมกราคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านอ้างว่ากลัวรัฐบาลจะใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยื้อเวลา และอาจถุกกลอกหากร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีการยื้อเวลา และตนไม่เคยมีประวัติหลอกใคร
ส่วนที่บอกว่าอยากให้ประชาชนเปลี่ยนใจฝ่ายค้านควรทำอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้ก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าประชาชนก็ต้องการที่จะเห็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ และถ้าดูจากการแสดงความคิดเห็นผ่านการสำรวจ บ้าง ความรู้สึกที่เราสัมผัสได้ว่าเขาไม่ต้องการที่จะให้สังคมมีความขัดแย้งกันไปเรื่อยๆ คิดว่าตรงนี้ต้องช่วยกันส่งสัญญาณ มันไม่ได้ยากอะไร เพราะในแต่ละชุมชนช่วยกันพูดว่าจริงๆ แล้วทุกฝ่ายมีโอกาสได้รับความเป็นธรรมอยู่แล้ว แต่ช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองให้ผ่านจุดนี้ไป ทุกอย่างก็จะเดินหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการฝากความหวังกับการแก้รัฐธรรมนูญมากเกินไป หรือเปล่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องของการฝากความหวัง แต่ในเมื่อข้อเรียกร้องมันเป็นจุดที่พูดกันมานาน และหาข้อยุติไม่ได้ และมีความกังวลว่า ถ้ายังไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้วไปเลือกตั้งกัน เดี๋ยวกลับมาก็มีปัญหาเหมือนกับที่เจอกันอยู่ขณะนี้ ก็ควรจะสะสางปัญหาให้จบเรียบร้อยก่อน
ต่อข้อถามว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังไงพรรคเพื่อไทยก็จะไม่มาร่วมด้วยจะทำยังไง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ยังมองว่า หากไม่มาร่วม การเดินต่อก็จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์เท่าไร ยกเว้นแต่ว่าจะมีวิธีที่จะทำให้ประชาชนมองว่านี่เป็นทางออกจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะชัดเจนว่าเพื่อไทยไม่ร่วมแล้ว จะหยุดเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการประสานงาน(วิป) คงต้องทำหน้าที่ต่อ คณะทำงานที่ดูแลเรื่องนี้ เขาก็คงทำหน้าที่ต่อ ในหมู่นักการเมือง ก็ต้องคุยกัน และสำหรับประชาชนที่สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆ ก็อยากจะให้มีกติกาที่ตกลงกันได้ ก็น่าจะเชิญชวนทุกพรรคมา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ตอนหนึ่งว่า การประชุมสภาสมัยประชุมนิติบัญญัติสิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนจึงขอถือโอกาสขอบคุณสมาชิกรัฐสภาตลอด 1 เดือน ที่ได้ทำงาน หรือปฏิบัติหน้าที่ทั้งในเรื่องของกฎหมาย และในเรื่องของกระทู้ถามการตรวจสอบของรัฐบาล ในสัปดาห์สุดท้ายนี้เราก็สามารถที่จะผ่าน คือให้ทางสภาฯ รับหลักการกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกลไกที่จะมาบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปได้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามตลอดทั้งปีที่ผ่านมาเรื่องปัญหาขององค์ประชุมนั้นก็เป็นเรื่อง ที่ตนทราบดีว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำเอากลับไปปรับปรุง และอยากจะขอความร่วมมือจากฝ่ายค้านและจากวุฒิสภาในการทำงานนิติบัญญัติให้เป็นที่พึงพอใจ และเป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชนเมื่อเปิดสมัยประชุมกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงเดือนมกราคม