“เทพไท” แก้ต่างแทน “มาร์ค” ปัดเตะถ่วงแก้ รธน. เปรียบ ปชช.คือคนออกกฎ

“โฆษกมาร์ค” ยันรัฐไม่คิดเตะถ่วงยื้อเวลาแก้รัฐธรรมนูญ แนะควรให้ทุกภาคส่วนควรเข้าร่วมเพราะเป็นกฎหมายสำคัญ เปรียบเกมฟุตบอล ส.ว.-ส.ส. แค่ผู้เล่น ประชาชนคนทั้งชาติควรเป็นผู้ออกกฎกติกา

วันนี้ (19 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่ารัฐบาลยื้อเวลาและเตะถ่วงว่า ไม่เป็นความจริง เชื่อว่านายกฯมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยปัญหารัฐธรรมนูญคลี่คลายได้ต้องให้มีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม แม้คณะกรรมการสมานฉันท์ที่รัฐสภา ตั้งขึ้นจะมีข้อสรุปแต่ก็ไม่มี ถือว่าเป็นมติของสมาชิกทั้งรัฐสภา จึงได้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 ซึ่งนายกฯจำเป็นต้องมีท่าที หากไม่เช่นนั้นจะถูกข้อครหาว่าโยนปัญหา ดังนั้นจึงได้มีข้อเสนอออกไป ซึ่งก็เป็นเรื่องที่วิปทั้ง 3 ฝ่ายจะได้ไปพูดคุยกัน แต่หากพรรคร่วมและ ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับนายกฯ นายกฯก็ยืนยันว่าก็คงต้องมอบหมายให้รัฐสภา ซึ่งถือเป็นฝ่ายนิติบัญญัติดำเนินการต่อไปเพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องมีส่วนร่วม ไม่อยากให้ถูกมองว่ามุบมิบ หากเปรียบเป็นเกมฟุตบอลส.ส.และส.ว.ก็เป็นเพียงผู้เล่น ก็ควรให้ประชาชนคนส่วนใหญ่ในชาติทุกสาขาอาชีพที่ไม่ใช่ผู้เล่นมาเขียนกติกา มาจากทุภาคส่วนก็จะถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด สังคมรับได้

เมื่อถามว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ได้รับปากพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเทพไทตอบว่า ไม่แน่ใจว่าเรื่องดังกล่าวมีหรือไม่ แต่ถ้าจะมีก็เป็นเรื่องภายในที่มีการคุยกัน แต่ที่นายกฯสรุป เป็นท่าที่ขอสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ซึ่งนายกฯได้แสดงจุดยืนในฐานะที่รับฟังความเห็นสมาชิกรัฐสภา แต่ถ้าหากพรรคร่วมเอาตามแนวทางที่พรรคร่วมต้องการก็ไม่เป็นไร เสนอมาได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนว่าเสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไร เราก็เอาตามนั้น ไม่ขัดข้อง แต่พรรคก็ควรมีจุดยืนของพรรค

เมื่อถามต่อว่าจะขัดกันหรือไม่ ระหว่างท่าทีของนายกฯและท่าทีของนายสุเทพ นายเทพไท ตอบว่า นายสุเพทไม่เคยแสดงท่าทีต่อสาธารณชน เลยไม่รู้ว่านายสุเทพมีท่าทีอย่างไร แต่ถ้าเป็นเรื่องที่คุยภายในก็เป็นเรื่องของภายใน ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีข้อตกลงกันอย่างไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่น่าจะเป็นปัญหาภายในพรรคร่วม เพราะเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอให้มีการหารือกัน

ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร.3 และทำประชามติ เพราะเกรงว่าจะใช้เวลานานเกินไปนั้น นายเทพไทกล่าวว่า จะนานหรือเร็วตนคิดว่าอยู่ที่เป้าหมายมากกว่าว่าจะแก้สำเร็จหรือไม่ แก้แล้วได้ประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นตนคิดว่าถ้าช้าไป แต่ได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ก็จะได้รัฐธรรมนูญที่ดี ก็น่าจะเสียเวลาได้ แต่ถ้าจะรวบรัดแก้ 2 ประเด็น ให้เสร็จโดยเร็ว ตนคิดว่าสังคมรับไม่ได้ เพราะเป็นพฤติกรรมปิดประตูตีแมว ซึ่งคนอื่นไม่มีส่วนร่วมว่าจะเป็นปัญหาตามมา

เมื่อถามว่า เป็นเพราะพรรคร่วมเกรงว่านายกฯจะตัดสินใจยุบสภา แล้วเรื่องดังกล่าวค้างอยู่ รัฐธรรมนูญไม่ได้รับการแก้ไข นายเทพไทตอบว่า นายกฯก็บอกแล้วว่า รอให้กติกาเสร็จก่อนจึงจะยุบสภา ดังนั้น ไม่ต้องกังวลอะไร และนายกฯได้ประกาศ 3 เงื่อนไขไว้แล้ว ในเรื่องของความสามัคคีของคนในชาติ เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น และแก้รัฐธรรมนูญแล้วจึงจะยุบสภา ดังนั้นจึงไม่น่ากังวลอะไรอีกทั้งอยู่ในสมัยนิติบัญญัติจึงไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอะไร