“ชินวรณ์” เผยหลังหารือวิปรัฐบาล ระบุเตรียมเสนอตั้ง ส.ส.ร.3 ต่อที่ประชุมสภา แก้รัฐธรรมนูญ ตั้งคณะทำงานประมวลประเด็นถกสภาร่วม พร้อมชูรัฐธรรมนูญปี 40 - รัฐธรรมนูญ 50 เป็นตุ๊กตา อ้างแก้ปัญหาพ้นกติกาไม่ชอบธรรม คมช.
วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาตามที่ครม.ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 ระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.ซึ่งที่ประชุมได้หยิบยกหารือถึงประเด็นที่จะมีการอภิปรายตามกรอบรายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ซึ่งขณะนี้ ส.ส.ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลแสดงความจำนงที่จะอภิปรายจำนวน 60 คน และได้ขอให้อภิปรายในเชิงสร้างสรรค์ตามที่ได้กำหนดกรอบไว้ นอกจากนั้น การอภิปรายจะให้มีการถ่ายทอดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยด้วย
นายชินวรณ์กล่าวว่า นอกจากนั้นมีความเห็นให้ตั้งคณะทำงานเพื่อประมวลความเห็นการอภิปรายเพื่อนำไปสรุปประเด็นที่จะดำเนินการต่อไปและให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การอภิปราย 2 เรื่อง คือ การอภิปรายจะต้องเป็นไปในแนวทางสร้างสรรค์ โดยกำหนดกรอบว่าในส่วนของการสร้างความสมานฉันท์และปฏิรูปทางการเมืองก็จะเน้นให้รัฐบาลเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นเพื่อไปดำเนินการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย เพื่อให้การสร้างความสมานฉันท์เป็นจริง ส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นที่ประชุมเห็นว่าให้คณะทำงานรับฟังความคิดเห็นและถ้าหากมีประเด็นที่เห็นพ้องต้องกันและมีความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 ต่อไป
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวด้วยว่า ในส่วนประเด็นที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกันและความเห็นขัดแย้งกันของรัฐสภาในเรื่องสถานะของสมาชิกรัฐสภาซึ่งจะต้องเป็นผู้ขอเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญตาม ม.122 ที่ประชุมส่วนให้เห็นว่าควรจะมีการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมา โดยจะเอาส่วนดีและส่วนด้อยของรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 มาดำเนินการปรับปรุงเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับสมานฉันท์ต่อไป เรายืนยันว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นกระบวนการหนึ่งในการจะสร้างความสมานฉันท์ แต่พรรคร่วมรัฐบาลได้ยืนยันแล้วว่า การจะแก้ไขก็ต้องแสวงหาความเห็นที่สอดคล้องต้องกันและเราเห็นว่าความเห็นที่แตกต่างของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่ความแตกแยก อยากจะเรียกร้องทั้งฝ่าย ส.ว.และฝ่ายค้านได้ร่วมกันประมวลประเด็นกันให้ชัดเจนเพราะว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะนำไปสู่การมีเสียงเพียงพอที่จะดำเนินการให้ถึงเป้าหมายต่อไปคือจะต้องมีเสียงสนับสนุนเกิน 311 เสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วจะยุบสภาเลยใช่หรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า เป้าหมายที่จะต้องดำเนินการตามรายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ก็เพื่อต้องการสร้างความสมานฉันท์เพื่อต้องการสร้างกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับและถ้าหากจะมีการเลือกตั้งก็จะต้องเป็นการเลือกตั้งแบบสันติวิธี ที่สำคัญที่สุดคือกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมจากทุกภาคส่วนด้วย
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อให้พ้นจากข้อครหาที่ว่า เป็นกับดัก คมช.อย่างที่กล่าวว่ากัน และเพื่อช่วยข้ามพ้นกติกาไม่ชอบธรรมจาก คมช. โดยเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากที่สุดโดยการเข้าชื่อตั้ง ส.ส.ร.3” นายชินวรณ์กล่าว
