xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” ปรับแผน รอจังหวะทุ่มกำลังยึดเมือง!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
“ผ่าประเด็นร้อน”


แม้ว่า ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้ม็อบเสื้อแดงล่าถอยออกไปชั่วคราว หลังจากที่ได้เตรียมการเคลื่อนกำลังเข้ามายึดเมืองในช่วงวันที่ 28 พ.ย.ถึงวันที่ 2 ธ.ค.นี้ก็ตาม และในเบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการชุมนุมครั้งต่อไป โดยจะนัดหารือกันอีกรอบราวกลางเดือนหน้า

ส่วนข้ออ้างจากบรรดาลูกน้องคนสำคัญของเขา อย่าง เช่น วีระ มุสิกพงศ์ บอกว่าเป็นการถอยเพื่อถวายความจงรักภักดี หลีกทางให้กับงาน “มหามงคล” ฟังเผินๆ แล้วดูดีน่าชื่นชม รวมไปถึงคนที่เป็น “เจ้าของ” เสื้อแดง อย่าง ทักษิณ ด้วย เพราะก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งวันเขาก็ส่งสัญญาณถอยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นเรื่อง “มิบังควร”

อย่างไรก็ตาม หากมองในอีกมุมหนึ่ง และในสถานการณ์ที่เป็นจริงก็คือ สาเหตุที่ต้องสั่งถอยก็เป็นเพราะ “เกมใกล้โอเวอร์” แล้ว การเดินหมากแทบจะมาถึงช่วงท้ายๆและกำลังเดินเข้ามุมอับเข้าไปทุกที

เพื่อให้เห็นภาพก็ต้องตีแผ่กันทีละประเด็น ก่อนที่สถานการณ์ทุกอย่างจะพลิกผันเดินมาถึงวันนี้ ก็ต้องเริ่ม “โฟกัส” มาจากเหตุการณ์ก่อ “จลาจลเลือด” เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีภาพการปิดถนนทั่วกรุงเทพฯ ทำให้คนเจ็บคนป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลต้องได้รับความเดือดร้อนกันทั่ว ซึ่งรวมไปถึงการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เป็นการสร้างภาพพจน์ที่ติดลบในสายตาของคนไทยทั่วไป โดยเฉพาะในสายตาของคนที่อยู่กลางๆ แต่เคยมองทักษิณ ในแง่บวกมาก่อน และยังรวมไปถึงคนเสื้อแดงอีกกลุ่มใหญ่ด้วย


เพราะเป็นพฤติกรรมที่จงใจทำร้าย ทำลายประเทศชาติของตัวเองให้ฉิบหายป่นปี้ และเลยเถิดเกินกว่าจะให้อภัยกันได้แล้ว

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในวันนั้นทำให้หลายคนต้อง “ชิ่งหนี” เนื่องจากทนไม่ได้ที่เห็นกลุ่มอันธพาลการเมืองเที่ยวไล่ทุบตี ไล่ฆ่า รุมทำร้ายฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่พอมีจิตใจดีงาม มีเหตุมีผลย่อมรับไม่ได้กับพฤติกรรมป่าเถื่อนแบบนั้นแน่นอน

ขณะที่บรรดาแกนนำแทนที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ตรงกันข้ามกลับพูดหน้าตาเฉยว่าคนที่ก่อเหตุวุ่นวายดังกล่าวล้วนเป็นพวก “เสื้อแดงปลอม” แล้วโยนให้คนอื่นรับผิดหน้าตาเฉย

อย่างไรก็ดีสิ่งที่คนไทยทั้งชาติยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง ทำให้อารมณ์ต้อง “ขาดผึง” ก็คือการสมคบคิดกันขายชาติของตัวเองให้กับผู้นำทรราชกัมพูชา คือ “ฮุนเซน” โดยยอมรับเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา โดยภาพที่เดินทางไปรับตำแหน่งอย่างเอิกเกริก และมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้นำประเทศอีกฝ่ายที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นก็ได้บริภาษกระบวนการยุติธรรมของไทย ศาลไทย ที่กระทำภายใต้พระปรมาภิไธยพระเจ้าอยู่หัวทำนองว่าไม่ได้มาตรฐาน

ภาพที่เกิดขึ้นน่าจะเหมือนกับ “ออกญาจักรี” ในสมัยอยุธยาที่หลบหนีไปเข้ากับศัตรูแล้วเปิดประตูให้เข้ามาเผาเมืองจนย่อยยับไม่มีผิด

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันจะด้วยเป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ไม่อาจทราบได้ เป็นเพราะอาการ “หลุด” หลังจากให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่เป็น “คนกันเอง” จาก “ไทมส์ออนไลน์” จึงสามารถพูดจาได้อย่างเปิดอกเปิดเผยธาตุแท้ออกมาอย่างหมดเปลือก เพราะในเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ความยาวกว่า 12 หน้า ทักษิณ ได้บังอาจกล่าววาจาจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง และวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงการสืบสันตติวงศ์ อย่างชนิดที่เรียกว่าไม่น่าจะมีคนไทยคนไหนกล้าพูดเช่นนี้ออกมา

ทั้งสองประเด็นหลักๆ ดังกล่าวทำให้คนไทยทั้งมวลไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไรต่างก็ยอมรับไม่ได้ และเป็นครั้งแรก ทักษิณ ชินวัตร ถูกชี้หน้าว่าเป็นคน “ขายชาติ-จาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว” มีแต่เสียงประณามดังลั่นเข้มมารอบทิศ หันไปทางไหนมีแต่เสียงก่นด่า

กระแสความนิยมที่ก่อนหน้านี้เคยสูสีแบบนำหน้า นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล่าสุดทรุดฮวบอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับทักษิณ ที่ดำรงอยู่ได้ด้วยฐานมวลชนสนับสนุน หากไร้ซึ่งกระแสดังกล่าวเขาก็ย่อมมีแต่ตายกับตายเท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้จะรู้ว่าทุกอย่างกำลังติดลบแบบดิ่งลงเหวก็น่าจะใช้วิธีการซื้อเวลาให้ทอดยาวออกไป เพื่อรอจังหวะฉกฉวยความนิยมให้กลับฟื้นคืนมา แต่สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร นั้นรอไม่ได้ เพราะสถานะของเขาเป็นนักโทษที่กำลังหลบหนีคดีอยู่แบบหัวซุกหัวซุน รอจังหวะแบบนั้นไม่ได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีคดีอายัดทรีพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทจากข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใกล้จะตัดสินเต็มทีแล้ว คาดว่าไม่น่าจะเกิดปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

คดีหลังนี่แหละที่ทำให้เขาร้อนรน และรอไม่ได้อีกต่อไป และนี่คือสาเหตุสำคัญที่เขาสั่งม็อบเสื้อแดงลุยแบบม้วนเดียวจบ แบบแตกหัก ลุ้นได้เสียกันไปเลย ตั้งเป้าว่าเริ่มดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.และปิดเกมไม่เกินวันที่ 2 ธ.ค.ทำให้หลายคนเริ่มหวั่นวิตกว่างานนี้ “น่ากลัว” เพราะหากพิจารณาเข้าไปข้างในจิตใจของเขาที่ต้องดิ้นรนอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจว่าในเรื่องของความไม่บังควร เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงบรรยากาศของวันมหามงคล

แต่อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นก็คือ ทักษิณ รอไม่ได้ ต้องเร่งเกมให้เร็วขึ้น เพราะหากยังจำกันได้ในตอนแรกจะมีการนัดชุมนุมกันตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.เป็นต้นไป แต่ในที่สุดร่นเวลาเข้ามาเป็นที่ 28 พ.ย.ด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ดีจะด้วยผลกรรมที่ทำไว้ก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นกรณีถูกชี้หน้าเป็นคน “ขายชาติ-ให้ร้ายพระเจ้าอยู่หัว” แล้วยังมาก่อเหตุชุมนุมทำลายบรรยากาศในวันมหามลคล ก็ยิ่งเพิ่มเสียงด่ามาจากรอบทิศ แม้กระทั่งพวกเดียวกันเองก็ยังทนไม่ไหวต้องออกมารั้งขากางเกงให้หยุดเอาไว้ก่อน เพราะเช็กทุกกระแสล้วนออกมาโทนเดียวกันก็คือ ยับเยินป่นปี้ ขนาดเอแบคโพลล์ที่เปิดเผยผลสำรวจเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนชาวบ้านไม่เห็นด้วยถึงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ถ้ายังดึงดันก็มีหวังได้ฝังทั้งเป็นแน่

อีกทั้งฝ่ายทางการคือรัฐบาลก็เตรียมการรับมือเต็มที่ เห็นได้จากการประกาศพื้นที่ความมั่นคงทั่วพระนคร รวมไปถึง “อำมาตย์” ที่ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว เพราะรู้ว่างานนี้เดิมพันสูง เพราะนี่คือแผน “ยึดเมือง-ชิงเมือง” ไม่มีทางอ่อนข้อเป็นอันขาด

ดังนั้น เมื่อประเมินสถานการณ์ล่าสุดผลออกมาน่าเป็นห่วง ทำให้ต้องส่งสัญญาณถอยชั่วคราว รอเป่านกหวีดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายเดือน ธ.ค. เพราะเมื่อนับนิ้วดูแล้วยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง อดใจรออีกนิด แต่รับรองว่าแผนชั่วที่เตรียมป่วนกันเต็มพิกัดเพื่อหวัง “ยึดเมือง” ยังคงไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง!!

กำลังโหลดความคิดเห็น