“จตุพร” ปากดีย้อน “ปชป.” กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง พฤติกรรมต่อรองสถาบัน ลั่นหลัง 14 พ.ย.นัดชุมนุมเสื้อแดงหน้าทำเนียบ ไล่รัฐบาลมาร์ค ให้ได้ ชี้นัดนี้เทหมดหน้าตัก เชื่อล้มรัฐบาลได้ มั่นใจรัฐบาลไปก่อนได้แก้ รธน.
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น.ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า 3 ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ 1. หวังใช้โลกล้อม เพื่อหวังต่อรองกับสถาบัน 2.เพื่อล้มรัฐบาลประชาธิปัตย์ และ 3.กล่าวหาการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดง ว่า ไม่เห็นแก่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงประชวรอยู่ ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสิทธิ์สร้างจินตนาการกล่าวหาบุคคลอื่น เพราะวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไปต่อรองกับสถาบันเสียเอง ตั้งแต่การแต่งตั้ง ผบ.ตร. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่รู้เลยหรืออย่างไร ว่า นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปรับสัญญาณพิเศษจากใครมาหรือไม่ มากล่าวหาคนเสื้อแดงกำลังต่อรองสถาบันนั้น ถือเป็นความเท็จ เราไม่เคยต่อรอง เราทำหน้าที่พสกนิกร แต่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปจาบจ้วงเสียเอง และมีปัจจัยพิเศษอื่นๆ อีกมากที่รัฐบาลนี้ไปกระทำจาบจ้วง กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ต้องรู้ ตัวเองไปทำอะไรไว้
นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดคอนเสิร์ตระดมทุน “เพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ” ในวันที่14 พ.ย.ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เพื่อระดมทุนล้มรัฐบาลนั้น รายได้จากการจำหน่ายบัตรราคา 300 บาท 50,000 ใบ และ 3,000 บาท 1,000 ใบนั้น หากจำหน่ายหมดจะได้เงินทั้งสิ้น 18 ล้านบาท ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 14 พ.ย.คนเสื้อแดงจะจัดชุมนุมใหญ่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล งานนี้เป็นการเทหมดหน้าตัก จะมีคนมาร่วมชุมนุม 1 ล้านคน เป้าหมายล้มรัฐบาล มีทางออกให้รัฐบาล คือ ยุบสภา เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นตัวบอกว่าประชาชนต้องการใคร แต่หากลากยาวไปถึงเดือนธันวาคม ช่วงงานพระราชพิธีก็อาจพักการชุมนุม แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่ถึงช่วงนั้น
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นนั้น เชื่อว่า จะไม่ได้แก้อย่างแน่นอน รัฐบาลจะไปก่อน เพราะวันนี้ทุกกระทรวงพร้อมใจกันทุจริต อย่างไรก็ตาม การแก้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้หวังจากรัฐบาลชุดนี้ เรายังเรียกร้องรัฐธรรมนูญ 2540 กลับคืนมา และจะเสนอแก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์ กรณีผู้สำเร็จราชการที่วันนี้เขียนหวยล็อกให้ประธานองคมนตรี เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ซึ่งต่อไปจะเสนอแก้ผู้สำเร็จราชการแทนต้องเป็นรัชทายาท หรือพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง เท่านั้น
