“บุรณัชย์” ชี้ จ่อถูกยึด ทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน กับคดีให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ ทำ “นช.แม้ว” เข้าตาจน เร่ง เสื้อแดง เดินเกมป่วนเหมือนช่วงเมษาทมิฬ แต่ขยายวงกว้างกว่าเดิม โดยบาปให้มือที่สาม เพื่อเสี้ยม ปชช.ตีกัน พร้อมหนุน รบ.ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง กรุงเทพฯ เชียงใหม่
วันนี้(21พ.ย.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คณะปฏิบัติการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ (วอร์รูม) ได้ประเมินความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ในขณะนี้จนถึงปลายเดือนพ.ย.และต้นเดือนธ.ค. โดยแสดงความห่วงใยถึงการส่งสัญญาณ ที่ชัดเจนว่าจะเกิดความรุนแรงใน 4 รูปแบบคือ
1.การวางแผนเตรียมการชุมนุมที่จ.เชียงใหม่ และต้องการทำร้ายนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 หากความพยายามดังกล่าวสำเร็จ ก็จะมีการสร้างสถานการณ์ให้มีการทำร้ายนายกฯ เหมือนที่เคยทำมาแล้วที่เมืองพัทยา และที่กระทรวงมหาดไทย โดยในเรื่องนี้พรรคได้ดำเนินการแจ้งความ และรัฐบาลได้ขยายผลผู้ที่ปลุกระดม และมีการเตรียมการสร้างเหตุการณ์ทำร้ายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) 2.การเตรียมการเพื่อสร้างเหตุเผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยการยั่งยุและใช้ความรุนแรง เพื่อให้เกิดการตอบโต้และอาจนำไปสู่การใช้กำลัง และสิ้นสุดลงที่การก่อการจราจล เช่นเดียวกับเหตุการณ์เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา แต่ลักษณะที่แตกต่างกันคือ คาดว่าจะมีการเตรียมการในหลายพื้นที่ และในหลายจังหวัด โดยจะขยายผลกว้างขวางกว่าเหตุการณ์เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
3.มีการเตรียมการโดยใช้วิธีปลุกระดมด้วยสื่อแขนงต่างๆ เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาจากมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่มคนเสื้อแดงในลักษณะทำให้เกิดการรวมตัว เพื่อปกป้องชุมชนของตัวเอง และการปลุกระดมเพื่อให้เกิดการเผชิญหน้าต่างๆ นั้น หวังว่าจะนำไปสู่การปะทะกันระหว่างคนไทยด้วยกันเอง และ4.การใช้วิธีการสร้างความหวาดกลัว ใช้ความรุนแรงเป็นจุดในการสร้างสถานการณ์ เช่น ลอบวางระเบิดแบบเดียวกับเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ในระหว่างที่มีการชุมนุมเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ โดยจะมีการอ้างว่าเป็นมือที่สาม ซึ่งได้มีการทำนายว่าจะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นจากนปช. พรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จากนั้นก็จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตามคำทำนายดังกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมวอร์รูมยังได้ประเมินว่า การเตรียมการที่จ.เชียงใหม่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งนายกฯ จะเดินทางไปในวันที่ 29 พ.ย. และประกาศเตรียมการชุมนุมที่กทม. มีการเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน และ 2 วันที่ผ่านมาก็มีการปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จะใช้ยุทธวิธีดาวกระจาย โดยแกนนำนปช.ที่กทม.อ้างว่า อาจจะไม่รับประกันว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ใด หรือกรณีของผู้จัดรายการที่จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวไว้แล้วว่าหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้พรรคประเมินว่าเกิดจากความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการต่อต้านเพื่อล้มรัฐบาลด้วยกำลัง โดยมีสาเหตุจากการที่กรณีของคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ที่กำลังจะสิ้นสุดในเร็วๆ นี้ และการดำเนินคดีที่อยู่ในขั้นสอบสวนของคดีการให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ ซึ่ง 2 เรื่องนี้จะสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากไม่เร่งปฏิบัติการในช่วงนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว วอร์รูมของพรรคเห็นว่ารัฐบาลควรประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรที่จ.เชียงใหม่อย่างเร่งด่วน และพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในกทม.ด้วย เพื่อป้องกันเหตุก่อนที่จะเกิดการกระทำการของกลุ่มคนเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวถาม ว่า วอร์รูมได้ประเมินหรือไม่ว่า การชุมนุมครั้งนี้จะแรงมากน้อยแค่ไหน นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เราไม่มีสิทธิประมาท เพราะมีการปฏิบัติการบนเงื่อนไขของเงื่อนเวลา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 มีการปราศรัยที่จ.สมุทรปราการพาดพิงถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ และนายกฯ อย่างรุนแรง ซึ่งเป็นการเปิดเผยตัวตนที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร นอกจกานี้ พรรคมองว่าเป็นการปลุกระดมเพื่อสร้างความเกลียดชัง แต่ในเรื่องของการดำเนินการนั้นคาดว่าคงเป็นกลุ่มในระดับรองลงมาที่เคยมีส่วนในการก่อเหตุและมีคดีติดตัวอยู่หลายคน ซึ่งเรื่องนี้เป็นสัญญาณให้เห็นว่ามีการเชื่อมโยงกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและนปช.อย่างชัดเจน และสอดรับกันด้วย
เมื่อถามว่าพรรคได้ประเมินหรือไม่ว่าในเดือนธ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณจะบินเข้ามาในประเทศไทย เพื่อมาบัญชาการเองหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดเองว่าถ้าจำเป็นจะบินไปที่ชายแดน เมื่อถามย้ำหากพ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาประเทศไทยในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น คิดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วรัฐบาลอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาต่อสู้คดี แต่ไม่อยากให้ทำอะไรที่เกิดความรุนแรง ยุยงให้เกิดความวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวถาม ว่า รัฐบาลได้ประเมินหรือไม่ว่าจะมีความน่ากลัวในระดับไหน ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาประเทศไทย เพราะขนาดอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ยังป่วนได้มากขนาดนี้ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงไม่แตกต่างกันว่าเขาจะอยู่ที่ไหน เพราะปัจจัยสำคัญคือเงื่อนเวลามากกว่า โดยเฉพาะในเรื่องคดีต่างๆ
