ทีมโฆษก ปชป.หวั่นเสื้อแดงใช้ 19 ก.ย.ปลุกระดม จี้รัฐบาลประกาศใช้ กม.ความมั่นคงรับมือ เชื่อสถาปนารัฐใหม่-ปูดปฏิวัติ ส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะมิคสัญญีเต็มพิกัด
วันนี้ (13 ก.ย.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มเสื้อแดงขับไล่ที่ จ.ลพบุรี ว่าเป็นการสร้างเหตุการณ์ของคนส่วนน้อยที่ใช้การปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จ เช่น คลิปเสียงนายกฯ ระบุว่าการเสียชีวิตของพลทหารว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ซึ่งคนลพบุรีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นคนนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจจะสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดความวุ่นวายในวันที่ 19 ก.ย.ที่จะมีการนัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ดังนั้น พรรคขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเช่นที่พัทยา เหตุการณ์เดือนเมษายน และที่ จ.ลพบุรี
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า นอกจากนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าว ยังสอดรับกับการจัดสัมมนาของกลุ่ม นปช.ที่มีการพูดถึงการล้มอำนาจรัฐบาล และสถาปนารัฐใหม่ ซึ่งพรรควิตกกังวลต่อคำพูดดังกล่าว และเชื่อว่ามีความพยายามทำให้เกิดขึ้นจริง ทั้งจากการออกมาพูดหลายครั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มผู้เสียอำนาจจากเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสร้างความวุ่นวาย พรรคจึงอยากถามกลุ่ม นปช.ว่ามีเจตนาอะไรจึงต้องการสถาปนารัฐใหม่ขึ้นมา แม้จะมีการอ้างว่า จะยังคงมีสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ไม่สอดคล้องกับการกระทำที่ผ่านมาของกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น การออกมาแถลงการณ์สยามแดงของนายใจ อึ้งภากรณ์ ดา ตอร์ปิโด รวมทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.ที่พาดพิงถึงสถาบัน จนนำมาซึ่งคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า พรรควิเคราะห์ว่าจากความรุนแรง ของการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ผ่านมา อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ย. โดยมีการเตรียมการไว้ 3 วิธี คือ 1.สร้างความวุ่นวายจากคนส่วนน้อย ที่เจ้าหน้าที่อาจจะต้องใช้ความรุนแรงเข้าดำเนินการ 2.สร้างความปลุกระดมให้เกิดความแตกแตกกับคนไทย โดยให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มเสื้อแดงออกมาเผชิฐหน้า และ 3.เครือข่ายทักษิณ นปช.และพรรคเพื่อไทย พยายามให้เกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการทำลายชาติ ทำให้บ้านเกิดอาจเกิดภาวะมิคสัญญี ตามที่ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ได้กล่าวเตือนสติเอาไว้ ซึ่งพรรคเห็นว่าวิธีการจะแก้ปัญหาด้วยการนำเรื่องนี้เข้าสู่รัฐสภาด้วยการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองกลับมาเกิดการปรองดองได้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ต่อต้านที่ จ.ลพบุรี จะกระทบต่อการลงพื้นที่ของนายกฯในครั้งต่อไปหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการของคนส่วนน้อยที่มีทรัพยากร และการวางแผนสนับสนุน คนเสื้อแดงที่ชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เข้าร่วม และนายกฯ ไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรคที่จะลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชน และหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและความมั่นคงจะต้องเข้มงวดมากขึ้น และหลังจากนี้กลุ่ม นปช.จะหมดความชอบธรรมในการอ้างการชุมนุมอย่างสงบปราศจากความรุนแรงได้อีกต่อไป
ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเปิดโรงเรียน นปช.เป็นการแสดงเจตนารมที่ดำเนินการ มาไว้บนดินครั้งแรก ก่อนหน้านี้ทำใต้ดินมาหลายครั้งภายใต้ชื่อปฏิบัติการจรยุทธ์เมือง ซึ่งเป็นการสอดรับกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ผ่านมา จึงกังวลว่าในวันที่ 19 ก.ย.จะมีการเคลื่อนไหวดังกล่าว จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรอบรอบไม่ให้เกิดความรุนแรง
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ส.ส. ลูกพี่ลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วยกับ นปช.ให้มีการปฏิวัติเพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับสู่ประเทศ ซึ่งเป็นการพูดตรงกันของ 3 กลุ่ม คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กลุ่ม นปช. และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการพูดเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ เพราะหากตนเองมีอำนาจก็ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ แต่หากตนเองไม่ได้ประโยชน์ก็เห็นด้วยกับการปฏิวัติ บ้านเมืองจะเกิดความสมานฉันท์ได้อย่างไร ส่วนที่มีการพูดถึงวุฒิภาวะของนายกฯนั้นหากย้อนเวลากลับไปถ้า พ.ต.ท.ทักษิณปฏิบัติตามที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์พูด ปัญหาบ้านเมืองก็คงไม่เกิด และนายกฯ ก็มีวุฒิภาวะภายใต้ผลประโชยน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก
“ผมขอตั้งคำถามไปที่กลุ่ม นปช.ที่จะมาชุมนุมนั้น อยากถามว่า พล.อ.เปรม เกี่ยวอะไรด้วยกับชุมนุม และอำมาตยาธิปไตยที่แท้จริงคือะไร หมายถึงข้าราชการประจำ องคมนตรี หรือการทำผิดของรัฐบาลหรือไม่ ตอบมาให้ชัดเจน” นายสาธิตกล่าว และเห็นว่าคนเสื้อแดงจะไม่หมดไปจากแผ่นดินไทย แต่อาจจะลดน้อยลงไปจนเหลือเป็นกลุ่มเล็กๆ ในรูปแอบบของลัทธิ หากอยู่อย่างสงบไม่ผิดกฎหมายก็สามารถอยู่ได้ แต่หากอยู่อย่างก่อการร้ายรัฐบาลก็ต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด
