นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ จ.ลพบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีกลุ่มเสื้อแดงขัดขวาง และนำสิ่งของมาขว้างปา ว่า มันคงไม่ใช่เรื่องจุดอ่อนของเจ้าหน้าที่ ครั้งที่แล้วที่ตนไป จ.ลพบุรี เมื่อต้นปี ก็มีการชุมนุมคล้ายๆ แบบนี้ และมีคนขว้างขวดน้ำ ขว้างของออกมา คนมาจำนวนเป็นสิบ เป็นร้อย และมีคนหนึ่งคนขว้างมา มันก็ต้องดู หากทำผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการแต่คิดว่า เขาหวังผลทางด้านข่าวเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการลักษณะนี้ เหมือนเป็นการตอกย้ำวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงมีมากขึ้นในหมู่ประชาชน ที่จะทำต่อนักการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มากขึ้นหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะจริงๆ แล้ว ลักษณะอยู่เป็นกลุ่มของคนที่มาในพื้นที่นั้น เป็นประจำ อย่างที่ตนไปลพบุรี 2 ครั้ง อ่างทอง 1 ครั้ง น่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพราะตนไม่เห็นตอนขว้างปา ขว้างไปที่ไหน อย่างไร และที่ไปรายงานข่าวว่า ต้องไปหยุดล้างรถก็ไม่ใช่ ตนยังไม่ทราบเลย เพราะตนหยุดเพื่อที่จะคุยกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการ ผบ.ตร. อีกทั้งไมค์โครโฟน มันติดอยู่ที่ตัวของตนเอง จะคืนเขาไม่อยากเอากลับบ้าน
" การขว้างปา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ผมไม่ได้เห็น ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องดูว่าผิดข้อไหนอย่างไร ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ หากไม่ผิดก็ไปดำเนินการไม่ได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าจะลงพื้นที่ต่อไป เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น และประชาชนส่วนใหญ่ ก็ไม่อยากให้เกิด ตนก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองต่อ ลงพื้นที่ต่อ
เมื่อถามว่า จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่ทหาร มีการตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไม่ยังปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พื้นที่ทุกจังหวัดกว้างขวาง ทหารไม่ได้อยู่ทั้งจังหวัด ในวันนั้นการดูแลค่อนข้างดีพอสมควร หากพูดตามจริงสภาพของจุดพื้นที่ ทางเข้าออก ค่อนข้างแคบ การบริหารจัดการเรื่องนี้ค่อนข้างยาก แต่เจ้าหน้าทีก็ทำได้ดี
ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มเสื้อแดงขับไล่ระหว่างลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ว่า เป็นการสร้างเหตุการณ์ของคนส่วนน้อยที่ใช้การปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จ เช่น คลิปเสียงนายกฯ ระบุว่า การเสียชีวิตของพลทหารว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ซึ่งคนลพบุรีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นคนนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งอาจจะสอกรับกับการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ที่จะถึงนี้
ดังนั้นพรรคขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ต่อต้านนายกฯ ที่จ.ลพบุรี จะกระทบต่อการลงพื้นที่ของนายกฯ ในครั้งต่อไปหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการของคนส่วนน้อย ที่มีทรัพยากร และการวางแผนสนับสนุน คนเสื้อแดงที่ชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เข้าร่วม และนายกฯ ไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรคที่จะลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชน และหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง จะต้องเข้มงวดมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการลักษณะนี้ เหมือนเป็นการตอกย้ำวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงมีมากขึ้นในหมู่ประชาชน ที่จะทำต่อนักการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มากขึ้นหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะจริงๆ แล้ว ลักษณะอยู่เป็นกลุ่มของคนที่มาในพื้นที่นั้น เป็นประจำ อย่างที่ตนไปลพบุรี 2 ครั้ง อ่างทอง 1 ครั้ง น่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพราะตนไม่เห็นตอนขว้างปา ขว้างไปที่ไหน อย่างไร และที่ไปรายงานข่าวว่า ต้องไปหยุดล้างรถก็ไม่ใช่ ตนยังไม่ทราบเลย เพราะตนหยุดเพื่อที่จะคุยกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการ ผบ.ตร. อีกทั้งไมค์โครโฟน มันติดอยู่ที่ตัวของตนเอง จะคืนเขาไม่อยากเอากลับบ้าน
" การขว้างปา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ผมไม่ได้เห็น ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องดูว่าผิดข้อไหนอย่างไร ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ หากไม่ผิดก็ไปดำเนินการไม่ได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าจะลงพื้นที่ต่อไป เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น และประชาชนส่วนใหญ่ ก็ไม่อยากให้เกิด ตนก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองต่อ ลงพื้นที่ต่อ
เมื่อถามว่า จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่ทหาร มีการตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไม่ยังปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พื้นที่ทุกจังหวัดกว้างขวาง ทหารไม่ได้อยู่ทั้งจังหวัด ในวันนั้นการดูแลค่อนข้างดีพอสมควร หากพูดตามจริงสภาพของจุดพื้นที่ ทางเข้าออก ค่อนข้างแคบ การบริหารจัดการเรื่องนี้ค่อนข้างยาก แต่เจ้าหน้าทีก็ทำได้ดี
ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มเสื้อแดงขับไล่ระหว่างลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ว่า เป็นการสร้างเหตุการณ์ของคนส่วนน้อยที่ใช้การปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จ เช่น คลิปเสียงนายกฯ ระบุว่า การเสียชีวิตของพลทหารว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ซึ่งคนลพบุรีส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นคนนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งอาจจะสอกรับกับการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ที่จะถึงนี้
ดังนั้นพรรคขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ต่อต้านนายกฯ ที่จ.ลพบุรี จะกระทบต่อการลงพื้นที่ของนายกฯ ในครั้งต่อไปหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการของคนส่วนน้อย ที่มีทรัพยากร และการวางแผนสนับสนุน คนเสื้อแดงที่ชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เข้าร่วม และนายกฯ ไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรคที่จะลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชน และหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง จะต้องเข้มงวดมากขึ้น