โฆษก ชทพ.เตือนรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงอย่างรอบคอบ อาจเกิดเหตุรุนแรง เกรงอำนาจนอกระบบเข้ามาควบคุม วอนทุกฝ่ายช่วยวิศวกรไทยอย่าเอาชีวิตคนไทยเป็นเครื่องมือการเมือง วอนรัฐบาลให้อำนาจ “อานันท์” เดินหน้าแก้ปัญหามาบตาพุดอย่างเต็มที่
วันนี้ (20 พ.ย.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 28 พ.ย.ว่า สิ่งที่พรรคเป็นห่วงคือเป้าหมายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ต้องการให้มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก พรรคเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากการชุมนุม จากกรณีที่แกนนำยืนยันว่าจะใช้ยุทธวิธีดาวกระจายเคลื่อนมวลชนไปตามที่ต่างๆ จึงเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ จึงขอให้แกนนำควบคุมมวลชนให้อยู่
นายวัชระกล่าวอีกว่า ส่วนที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ฯนั้น เท่าที่นับได้รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง หากรัฐบาลประกาศใช้บ่อยอาจกระทบต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย พรรคขอให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนจะประกาศใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้หน่วยข่าวทำงานอย่างรอบคอบ โดยขอให้การตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาจากเหตุผล มากกว่าการใช้อารมณ์ ทั้งนี้ หากการชุมนุมครั้งนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเกรงว่าอำนาจนอกระบบจะเข้ามาควบคุม ซึ่งประชาชนไม่ว่าสีใดคงไม่ชอบ อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.เป็นเดือนมหามงคล จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมระมัดระวังอย่างเต็มที่
“มีการตั้งข้อสังเกตของหลายฝ่ายว่า หากปัญหาเป็นไปเช่นนี้อาจมีการล้างไพ่ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการทำรัฐประหารปี 49 ยังไม่สะเด็ดน้ำ จึงอาจต้องล้างไพ่กันอีกครั้ง เรามองว่าหากเหตุการณ์ปลายเดือน พ.ย.มีความรุนแรง อำนาจนอกระบบอาจเอาเป็นเงื่อนไขในการแสดงบทบาทอีกครั้ง ซึ่งคนไทยจำนวนมากคงไม่สบายใจและไม่ยอมรับ ส่วนถ้ารัฐบาลจะชิงยุบสภาพรรคชาติไทยพัฒนาพร้อมครับ เพียงแต่อย่าให้เหตุการณ์จบนอกสภา” นายวัชระกล่าว
เมื่อถามต่อว่าผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันจะกล้าปฏิวัติหรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า ทหารไม่ได้มีแค่ ผบ.ทบ. เหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ใครก็นึกว่าจะไม่เกิดแต่ก็เกิดมาแล้ว ขอย้ำว่าอำนาจนอกระบบในความหมายที่ตนพูดถึงคือการยึดอำนาจไม่ใช่การรัฐประหาร ดังนั้นอะไรก็อาจเกิดขึ้นได้
นายวัชระกล่าวถึงการเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคมาตุภูมิของ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบกและประกาศคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่าตนไม่อยากบอกการทำงานการเมืองมีความยากลำบากมากกว่าการรัฐประหาร
“รู้สึกว่าการให้สัมภาษณ์ของท่าน เวลาพูดถึงประชาธิปไตยท่าน มักจะอิหลักอิเหลื่อ จึงขอทำนายว่า พล.อ.สนธิ จะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักการเมืองได้ หากในใจของท่านยังไม่มีความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ อยากฝากถามว่าหากในวันข้างหน้ามีการยึดอำนาจหรือรัฐประหารขึ้นมาอีก พล.อ.สนธิจะมีจุดยืนอย่างไร” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระกล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์กับเดอะ ไทมส์ ออนไลน์ พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตามที่มีการกระพือข่าวให้ตรวจสอบว่า บทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ แต่เท่าที่ติดตามดู แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่หรือคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่ต้องการให้กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องมือ สำหรับประหัตประหารของนักการเมืองที่เป็นคู่แข่งกัน
นายวัชระกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการจับกุมตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรชาวไทย พรรคมีความเป็นห่วงว่าขณะนี้สถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างเอาชีวิตของนายศิวรักษ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบจากอีกฝ่าย พรรคของเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคิดถึงนายศิวรักษ์ ในฐานะที่เป็นคนไทย โดยหากฝ่ายใดช่วยนายศิวรักษ์ได้ขอให้ช่วยเพราะถือเป็นหน้าที่ของคนไทยที่จะช่วยคนไทยด้วยกัน อย่าเอาชีวิตของเขาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายวัชระกล่าวถึงการเปิดโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างเป็นทางการว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีและหน้าสนับสนุนเพราะมีความเกี่ยวข้องกับคนรากหญ้าและคนชั้นกลาง อย่างไรก็ดีโครงการเช่นนี้เคยเกิดขึ้นสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ พรรคเป็นห่วงว่าการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้เกิดการก่อหนี้ซ้ำขึ้นมาอีก โดยเฉพาะก่อนที่จะมีการปล่อยเงินช่วยเหลือชำระหนี้รัฐบาลควรแก้ไขปัญหา ที่หัวใจของหนี้นอกระบบในส่วนของการกำหนดดอกเบี้ยเงินกู้สูงเพื่อเอาผลกำไรจากผู้กู้
“ในส่วนนี้รัฐจะเอาเงินไปจ่ายคืนให้เขา ซึ่งเรามองว่าไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เพราะเจ้าหนี้จะเอาผลประโยชน์จากดอกเบี้ย การคืนเงินต้นอาจไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ที่สำคัญรัฐต้องมีข้อมูลลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อดึงเอาทุกฝ่ายเข้ามาอยู่ในระบบ ทั้งนี้เจ้าหนี้เหล่านี้รวยจากดอกเบี้ยเขาจึงไม่ต้องการเงินต้นอย่างที่รัฐบาลคิด การแก้ปัญหายั่งยืนควรแก้ไขปัญหาให้คนหายจนจะดีกว่า” นายวัชระกล่าว
นายวัชระกล่าวถึงการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ของคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นว่า พรรคมองนอกจากจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาแล้วการเชิญนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแลคณะกรรมการชุดนี้ รัฐบาลควรให้อำนาจแก่นายอานันท์อย่างเต็มที่ อย่าให้มีนักการเมืองเข้าไปก้าวก่ายอำนาจการแก้ไขปัญหาของนายอานันท์ ทั้งนี้ พรรคของให้กำลังใจนายอานันท์ โดยขอให้อดทนทำงานต่อไปแม้ว่าจะเจออุปสรรค อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้เพราะประชาชนและนักธุรกิจกำลังรอคอยการแก้ไขปัญหาอยู่
วันนี้ (20 พ.ย.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 28 พ.ย.ว่า สิ่งที่พรรคเป็นห่วงคือเป้าหมายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ต้องการให้มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก พรรคเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากการชุมนุม จากกรณีที่แกนนำยืนยันว่าจะใช้ยุทธวิธีดาวกระจายเคลื่อนมวลชนไปตามที่ต่างๆ จึงเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ จึงขอให้แกนนำควบคุมมวลชนให้อยู่
นายวัชระกล่าวอีกว่า ส่วนที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ฯนั้น เท่าที่นับได้รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง หากรัฐบาลประกาศใช้บ่อยอาจกระทบต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย พรรคขอให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนจะประกาศใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้หน่วยข่าวทำงานอย่างรอบคอบ โดยขอให้การตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาจากเหตุผล มากกว่าการใช้อารมณ์ ทั้งนี้ หากการชุมนุมครั้งนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเกรงว่าอำนาจนอกระบบจะเข้ามาควบคุม ซึ่งประชาชนไม่ว่าสีใดคงไม่ชอบ อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.เป็นเดือนมหามงคล จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมระมัดระวังอย่างเต็มที่
“มีการตั้งข้อสังเกตของหลายฝ่ายว่า หากปัญหาเป็นไปเช่นนี้อาจมีการล้างไพ่ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการทำรัฐประหารปี 49 ยังไม่สะเด็ดน้ำ จึงอาจต้องล้างไพ่กันอีกครั้ง เรามองว่าหากเหตุการณ์ปลายเดือน พ.ย.มีความรุนแรง อำนาจนอกระบบอาจเอาเป็นเงื่อนไขในการแสดงบทบาทอีกครั้ง ซึ่งคนไทยจำนวนมากคงไม่สบายใจและไม่ยอมรับ ส่วนถ้ารัฐบาลจะชิงยุบสภาพรรคชาติไทยพัฒนาพร้อมครับ เพียงแต่อย่าให้เหตุการณ์จบนอกสภา” นายวัชระกล่าว
เมื่อถามต่อว่าผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันจะกล้าปฏิวัติหรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า ทหารไม่ได้มีแค่ ผบ.ทบ. เหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ใครก็นึกว่าจะไม่เกิดแต่ก็เกิดมาแล้ว ขอย้ำว่าอำนาจนอกระบบในความหมายที่ตนพูดถึงคือการยึดอำนาจไม่ใช่การรัฐประหาร ดังนั้นอะไรก็อาจเกิดขึ้นได้
นายวัชระกล่าวถึงการเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคมาตุภูมิของ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบกและประกาศคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่าตนไม่อยากบอกการทำงานการเมืองมีความยากลำบากมากกว่าการรัฐประหาร
“รู้สึกว่าการให้สัมภาษณ์ของท่าน เวลาพูดถึงประชาธิปไตยท่าน มักจะอิหลักอิเหลื่อ จึงขอทำนายว่า พล.อ.สนธิ จะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักการเมืองได้ หากในใจของท่านยังไม่มีความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ อยากฝากถามว่าหากในวันข้างหน้ามีการยึดอำนาจหรือรัฐประหารขึ้นมาอีก พล.อ.สนธิจะมีจุดยืนอย่างไร” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระกล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์กับเดอะ ไทมส์ ออนไลน์ พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตามที่มีการกระพือข่าวให้ตรวจสอบว่า บทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ แต่เท่าที่ติดตามดู แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่หรือคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่ต้องการให้กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องมือ สำหรับประหัตประหารของนักการเมืองที่เป็นคู่แข่งกัน
นายวัชระกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการจับกุมตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรชาวไทย พรรคมีความเป็นห่วงว่าขณะนี้สถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างเอาชีวิตของนายศิวรักษ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบจากอีกฝ่าย พรรคของเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคิดถึงนายศิวรักษ์ ในฐานะที่เป็นคนไทย โดยหากฝ่ายใดช่วยนายศิวรักษ์ได้ขอให้ช่วยเพราะถือเป็นหน้าที่ของคนไทยที่จะช่วยคนไทยด้วยกัน อย่าเอาชีวิตของเขาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายวัชระกล่าวถึงการเปิดโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างเป็นทางการว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีและหน้าสนับสนุนเพราะมีความเกี่ยวข้องกับคนรากหญ้าและคนชั้นกลาง อย่างไรก็ดีโครงการเช่นนี้เคยเกิดขึ้นสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ พรรคเป็นห่วงว่าการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้เกิดการก่อหนี้ซ้ำขึ้นมาอีก โดยเฉพาะก่อนที่จะมีการปล่อยเงินช่วยเหลือชำระหนี้รัฐบาลควรแก้ไขปัญหา ที่หัวใจของหนี้นอกระบบในส่วนของการกำหนดดอกเบี้ยเงินกู้สูงเพื่อเอาผลกำไรจากผู้กู้
“ในส่วนนี้รัฐจะเอาเงินไปจ่ายคืนให้เขา ซึ่งเรามองว่าไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เพราะเจ้าหนี้จะเอาผลประโยชน์จากดอกเบี้ย การคืนเงินต้นอาจไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ที่สำคัญรัฐต้องมีข้อมูลลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อดึงเอาทุกฝ่ายเข้ามาอยู่ในระบบ ทั้งนี้เจ้าหนี้เหล่านี้รวยจากดอกเบี้ยเขาจึงไม่ต้องการเงินต้นอย่างที่รัฐบาลคิด การแก้ปัญหายั่งยืนควรแก้ไขปัญหาให้คนหายจนจะดีกว่า” นายวัชระกล่าว
นายวัชระกล่าวถึงการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ของคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นว่า พรรคมองนอกจากจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาแล้วการเชิญนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแลคณะกรรมการชุดนี้ รัฐบาลควรให้อำนาจแก่นายอานันท์อย่างเต็มที่ อย่าให้มีนักการเมืองเข้าไปก้าวก่ายอำนาจการแก้ไขปัญหาของนายอานันท์ ทั้งนี้ พรรคของให้กำลังใจนายอานันท์ โดยขอให้อดทนทำงานต่อไปแม้ว่าจะเจออุปสรรค อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้เพราะประชาชนและนักธุรกิจกำลังรอคอยการแก้ไขปัญหาอยู่