“จตุพร” ดื้อแพงยืนยันนำหางแดงชุมนุม 17 ต.ค. ทวงถามฎีกาช่วย “แม้ว” อ้างเที่ยงคืนก็เลิก อัดรัฐดองเรื่องไว้จนครบ 60 วันแล้ว ยังตะแบงใช้ รธน.40 เท่านั้น ไล่ตะเพิดคนเห็นด้วยกับประชาธิปัตย์พ้นพรรค พร้อมขู่แยกทางกับพรรค แต่เชื่อ “วิทยา” ได้บทเรียนแล้ว
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 13.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตดุสิตระหว่างวันที่ 15-25 ต.ค.ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงยืนยันที่จะชุมนุมในวันที่ 17 ต.ค.บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลกตามกำหนดการเดิม และจะเลิกชุมนุมในเวลาเที่ยงคืน โดยการชุมนุมในวันดังกล่าวนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจะทวงถามรัฐบาลถึงใบฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รัฐบาลดองเอาไว้โดยอ้างว่าต้องทำการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ครบ 60 วันแล้ว ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลรีบส่งเรื่องต่อไปยังสำนักราชเลขาธิการ หากยังดองเอาไว้ก็จะเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมยืดเยื้อแตกหักเร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน พ.ย.ก็อาจจะเปลี่ยนมาชุมนุมในเร็วๆนี้
นายจตุพรยังกล่าวถึงจุดยืนของกลุ่มคนเสื้อแดงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงมีความชัดเจนว่าต้องการรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และไม่เอารัฐธรรมนูญปี 2550 การเสนอแก้ไขใน 6 ประเด็นนั้นประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เป็นการทำตามข้อตกลงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น และประเด็นที่จะแก้ไขนั้นล้วนเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลทั้งสิ้น ขณะเดียวกันก็มีหลายประเด็นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้เลย เช่น การต่ออายุให้ ส.ว. ส่วนการทำประชามตินั้นเป็นเพียงการซื้อเวลา เป็นมารยาของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่อ้างว่าพรรคเพื่อไทยไม่ให้ความร่วมมือจนทำให้แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้นั้นก็เป็นความเท็จ เป็นข้ออ้างที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้หลีกเลี่ยงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยที่เปลี่ยนไปนั้นเพราะได้รับสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณพูดอย่างนั้นคนเสื้อแดงและ ส.ส.ส่วนใหญ่ก็เห็นแบบนั้น คนที่มีหูก็ควรฟัง ไม่ใช่เอาแต่ตัวเองรอด คนอื่นหรือหัวหน้าจะเป็นอย่างไรช่างหัวมัน เชื่อว่าทุกคนในพรรคคิดเหมือนกันว่าต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 แต่ถ้าใครคิดเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ขอให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยดีกว่า
“อยากฝากให้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจเรื่องนี้ให้ดี เพราะอาจเสียการใหญ่ ควรรอการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าได้รับการเลือกตั้งเกินครึ่งก็นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ทันที แต่ถ้าหากพรรคเพื่อไทยไปร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นด้วยก็หมายความว่าละทิ้งประชาชน ผมจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรคนี้อีก” นายจตุพรกล่าว
ส่วนจะลาออกจากพรรคเพื่อไทยทันทีหรือไม่นั้น นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ต้อง ถ้าทำแบบนั้นพรรคก็เจ๊งอยู่แล้ว สำหรับการทำงานของวิปฝ่ายค้านนั้นจะต้องฟังพรรคต้องฟังสมาชิกด้วย พรรคว่าอย่างไรค่อยไปแจ้งกับวิปอีก 2 ฝ่าย ตอนนี้นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านคงเข้าใจแล้ว ถ้าไปเอาด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์แก้ไข 6 ประเด็นก็จะต้องเจอกับการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่องผัวเมียเขาจะว่ากันเราไปยุ่งอะไรกับเขา
