“จตุพร” จวกรัฐประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพราะบ้าอำนาจ-ขี้ขลาด เย้ย “มาร์ค” กลัวเสื้อแดงนักก็ลาออกไปขู่ ถ้าใช้วิธีหมาลอบกัดจำเป็นต้องชุมนุมยืดเยื้อ เชื่อเป็นเงื่อนไขเพิ่มจำนวนผู้ชุมนุม ด้าน “เฉลิม” เหน็บรัฐบาลเจ้าอารมณ์งานเข้าแน่
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงถึงกรณีที่ ครม.มีมติประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.ในพื้นที่เขตดุสิตว่า การใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าววุฒิสภาก็ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ล่าสุดเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ออกมาแสดงความเห็นสอดคล้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน ไม่ใช่ประกาศก่อนที่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น มิฉะนั้นรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ที่ระบุให้ประชาชนชุมนุม โดยสงบได้ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นั้น ยืนยันว่าจะเป็นไปโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ แต่รัฐบาลชุดนี้บ้าอำนาจขึ้นทุกวัน ซ้ำยังขี้ขลาดตาขาว เข้าใจผิดคิดว่าพ.ร.บ.นี้จะทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เหมือนครั้งประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วการประชุมครั้งนั้นราบรื่น ก็เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เดินทางไป ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังแก้ปัญหาประเทศ ด้วยวิธีเด็กๆ แบบนี้ ต่อไปก็คงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการปรากาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่สร้างความหวั่นเกรงให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และยืนยันที่จะชุมนุมตามกำหนดการเดิม โดยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะประชุมกันในวันที่ 26 ส.ค. เวลา 10.00 น. และจะแถลงข่าวในเวลา 13.00 น.
นายจตุพรกล่าวอีกว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวไปตามแผน เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบหมาลอบกัด สร้างสถานการณ์ใช้ทหารมาใส่เสื้อแดง ใช้ตำรวจมาใส่เสื้อน้ำเงิน รวมทั้งทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะเป็นเงื่อนไขให้ต้องมีการชุมนุมยืดเยื้อ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวของรัฐบาลจะยิ่งเป็นการระดมคนให้มาชุมนุม มากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพราะมันเหมือนเผด็จการเข้าไปทุกที ส่วนการที่รัฐบาลพยายามดึงเรื่องถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงเอาไว้โดยนำรายชื่อของประชาชนส่งให้กับกระทรวงยุติธรรม และส่งต่อให้กับกรมราชทัณฑ์ทั้งๆ ที่เขาบอกแล้วว่า ไม่มีประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมที่จะดำเนินการ เมื่อเล่นเกมกันอย่างนี้คนเสื้อแดงก็จำเป็นต้องเคลื่อนไหว ตอนแรกเราบอกว่าจะหยุดเคลื่อนไหวเมื่อถวายฎีกาเสร็จสิ้น แต่เมื่อทำแบบนี้เราก็ต้องดำเนินการต่อควบคู่ไปกับการขับไล่รัฐบาล
นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งย้าย ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยด้วยว่า ถือเป็นการลุแก่อำนาจ สร้างมาตรฐานว่านายอภิสิทธิ์แตะต้องไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสามารถที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ นอกจากนี้ อยากขอเตือนคนที่มาจัดรายการในช่อง 11 ในช่วง 2 วันนี้ที่มีการนำเสนอทำนองว่ากลุ่มคนเสื้อแดงกำลังทำการล้มเจ้าด้วยว่า เป็นการหมิ่นประมาทคนเสื้อแดง 100 เปอร์เซ็นต์ ขอให้ระวังตัวให้ดี
จากนั้นเวลา 15.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ ครม.มีมติใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นเรื่องน่าแปลก เพราะรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำพูดมาตลอดว่ายึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ยึดมั่นระบบรัฐสภา แต่กลับไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 63 ระบุชัดเจนว่า สามารถชุมนุมได้โดยปราศจากอาวุธ และไม่สร้างความวุ่นวาย การประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวถือว่า มีศักดิ์ศรีเล็กกว่ารัฐธรรมนูญและถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ จึงไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเป็นแบบนี้ก็งานเข้าแน่ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน รัฐบาลชุดนี้ทำตัวเจ้าอารมณ์ ใครจะชุมนุมหรือทำอะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อก่อนอีกกลุ่มหนึ่งมาชุมนุมก็ไปกับเขาทั้งพรรค เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ที่เกิดอาการพาล อารมณ์เสีย ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาก็เพื่อความสะใจ แต่จะเกิดผลเสียแก่ประเทศ เพราะทำให้ต่างชาติไม่มาเที่ยว ไม่มาลงทุน อีกทั้งเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย ไม่เข้าใจว่าความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการดำเนินการของรัฐบาลมีแต่ยิ่งสร้างให้เกิดรอยร้าว การเอาชนะคะคาน
“พ.ร.บ.ความมั่นคงเขาจะประกาศใช้เมื่อมีเหตุ แต่นี่ประกาศกันไปก่อน ตกใจเกินเหตุ เหมือนยังไม่ทันนอนแต่คุยแล้วว่าคืนนี้จะฝันอะไร ถ้ากลัวนักก็ประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ตลอดไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ไปเลย ขอแนะนำนายอภิสิทธิ์ว่า ถ้ากลัวมากก็ลาออกไปเลยดีกว่า จากนี้ไปพรรคเพื่อไทยจะตรวจสอบรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เข้มข้น เข้มแข็ง ถ้ายุบเมื่อไหร่ก็ไปเป็นฝ่ายค้าน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว