รมต.สำนักฯ สั่งจับตา “จักรภพ” โฟนอินสุ่มเสี่ยงป่วนบ้านเมือง จาบจ้วงสถาบัน ขู่เอาผิดอิมพีเรียล ฐานเป็นหอกระจายข่าว ชำแหละ “อภิวันท์” เจตนาเทียบโรมานอฟหวังกระทบฟ้า เชื่อแผนจับกุม “ศิวรักษ์” ยัดเยียดข้อหามีเบื้องลึกเบื้องหลัง ยันไม่ย้ายทำเนียบฯ หนีเสื้อแดง แฉเจตนานัดชุมนุมใหญ่โดยใช้เงื่อนเวลาวันมหามงคลเป็นเครื่องต่อรอง วอนสื่ออย่าตีแผ่ข่าวโจร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (19 พ.ย.)ที่รัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำ นปช.จะโฟนอินเข้ามาที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลว่า เรื่องของนายจักรภพนั้นมีหมายจับอยู่จะต้องดูว่ามาจากที่ไหนอย่างไร ประเด็นใหญ่มี 2 เรื่อง คือ เนื้อหาที่แถลงจะเป็นเรื่องอะไร เพราะหากเป็นเรื่องที่เสี่ยงผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินการ คนที่ทำตัวเป็นผู้อำนวยความสะดวกหรือเผยแพร่ข่าวที่มีการแถลงออกไปก็จะต้องระมัดระวังเนื้อหาด้วย เพราะหากผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการ แต่คิดว่าเรื่องนี้ไม่มีความประสงค์ดีแน่
นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า ประการที่ 2 คงเป็นการดำเนินการที่ร่วมกันเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง ตั้งแต่การเดินทางไปกัมพูชาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย การเข้าไปเป็นที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีเหตุการณ์ต่อเนื่องและทำให้เกิดความวุ่นว่ายในประเทศ ดังนั้น เรื่องนี้รัฐบาลจับตาแน่นอนกับคนที่มีท่าทีปรปักษ์กับประเทศ และสถาบัน อย่างนายจักรภพไม่ใช่เรื่องประสงค์ดีแน่ๆ คิดว่าการโฟนอินครั้งนี้จะต้องดูที่มาที่ไปของตัวโฟนอินด้วยว่าใช้ที่ไหนอย่างไร ส่วนอิมพิเรียล ลาดพร้าว ต้องดูด้วยว่าเข้าข่ายกฎหมายใดที่จะต้องดำเนินการ และถึงเวลาแล้วที่จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะมิเช่นนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จะสร้างความวุ่ยวายให้แก่ประเทศไม่รู้จักจบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการกับนายจักรภพจะเหมือนกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ นายสาทิตย์กล่าวว่า ก็ติดตามกันอยู่ตลอด แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องระหว่างประเทศนั้นมีกฎหมายและระเบียบของมันอยู่ ใม่ใช่เรื่องง่าย จะเห็นว่าการออกหมายนั้นก็ทำไปตามขั้นตอน ก็ตามกันอยู่
สำหรับกรณีที่นายจักรภพระบุว่าจะมีการขนอาวุธเบาเข้ามาทางภาคอีสานนั้น รัฐบาลได้ตรวจสอบหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงก็ตามอยู่ คิดว่าต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น คนกลุ่มนี้พยายามทุกทางที่จะล้มรัฐบาลเพื่อกลับเข้าสู่อำนาจ ข่าวสารที่ออกมาไม่อยากให้ประชาชนสับสน และสื่อมวลชนจะต้องกรองข่าวสารด้วย ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะรับสถานการณ์ทุกประเภท
ส่วนกรณีที่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย พูดถึงราชวงศ์โรมานอฟนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า คนพูดมีเจตนาชัดเจน คือ มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปเปรียบเทียบราชวงศ์โรมานอฟ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศรัสเซีย ประเทศไทยมีสถาบันสูงสุดที่เคารพของคนไทยหลายร้อยปี คนที่พูดมีเจตนาชัดที่มีความประสงค์ที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงในสถาบัน ครั้งหนึงนายจักรภพที่เคยคุมกรมประชาสัมพันธ์ เคยเอาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสถาบันในเนปาลมาเผยแพร่แล้ว ในที่สุดก็พิสูจน์ชัดว่านายจักรภพที่ไปอภิปรายและไปพูดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทุกอย่างมันชัดเจน ทั้งนี้ สถาบันอันสูงสุดที่เป็นที่เคารพในประเทศไทยกับความรู้สึกของคนไทยนั้นต่างจากราชวงศ์โรมานอฟอย่างสิ้นเชิง ราชวงศ์ไทยมีการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อคนไทยมาตลอดระยะเวลาหลายปีอย่างเห็นได้ชัด
นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า เชื่อว่าเป็นขบวนการเดียวกัน ขณะนี้เป็นช่วงมหามงคล ประชาชนคนไทยเฝ้ารอช่วงเวลาในวันที่ 5 ธ.ค. คนที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้จะสวนทางกับความรู้สึกของประชาชน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีกฎหมายระบุอยู่ หากพูดอะไรชัดเจนจะต้องดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รัฐบาลจะปล่อยให้ผู้เป็นภัยกับบ้านเมืองเคลื่อนไหวอยู่อย่างนี้อีกนานหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลจัดการตลอด เขาก็หนี โจรก็หนี รัฐบาลมีหน้าที่จับโจรก็ดำเนินการตามกฎหมาย สำคัญก็คือว่าอย่าเอาข่าวสารของโจรเปิดเผย
สำหรับกรณีที่ประเทศกัมพูชาจับตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องนี้มีที่มาที่ไปแน่อน จู่ๆ กัมพูชาก็ไปจับตัวคนไทยโดยไม่มีคนไทยที่เป็นไส้ศึก เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้รัฐบาลมีความชัดเจนคือดูแลคนไทย การดูแลคนไทยภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและข้อตกลงระหว่างประเทศมันมีความชัดเจน หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการวางแผนดำเนินงานอย่างชัดเจน
ส่วนมองว่าเป็นฝีมือประเทศเพื่อนบ้านหรือฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล นายสาทิตย์กล่าวว่า คนไทยที่เป็นไส้ศึกมั๊งครับ แต่เรื่องนี้มีความซับซ้อนมากกว่านั้น เดี๋ยวข้อมูลจะเปิดมามากกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องจัดการคนไทยคนหนึ่งโดยกลุ่มคนไทยไม่หวังดี ลักษณะแก้แค้น มีเบื้องลึกเบื้องหลัง และเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ด้วย อีกสักพักจะทราบข้อเท็จจริง
นายสาทิตย์ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 29 พ.ย.ด้วยว่า ยืนยันว่าจะไม่ย้ายทำเนียบรัฐบาลเพราะมีอยู่ที่เดียว ไม่ย้ายไปไหน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงจะปิดเป็นเวลาเท่าไหร่รัฐบาลมีความมั่นใจว่าจะสามารถเข้าไปได้ รัฐบาลมีวิธีการ ประสบการณ์ก็มีแล้ว รู้กันอยู่
ส่วนจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน ต้องประเมินสถานการณ์ก่อน ตอนนี้เท่าที่ฟังดูแนวโน้มรุนแรง ฝ่ายที่มาชุมนุมต้องการความรุนแรง โดยรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงจะได้เอาเป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวต่อไป เรื่องนี้ต้องรู้เขารู้เรา อยากให้คนเข้าใจรัฐบาลติดตามเขาอยู่ตลอด