ASTVผู้จัดการรายวัน - สั่งได้ "สุเทพ" ป่วย ประชุม ก.ตร.โยกย้ายตำรวจ ขอเลื่อนไม่มีกำหนด ท่ามกลางข่าวบัญชีโยกย้ายไม่ลงตัว โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญ ผบช.น.ที่ เจ้าตัวดัน "สัญฐาน" จอมฉาวถูกตั้ง กก.สอบ 7 เรื่อง "หมอมาร์ค" ยันป่วยจริง ปัดไม่เกี่ยวทาบ "ธานี" ดูงานความมั่นคง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วานนี้ (2 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการ ข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้เรียกประชุม ก.ตร. ในเวลา 13.00 น. เพื่อพิจารณา แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจตั้งแต่ รอง ผบ.ตร.ลงมา แต่ปรากฎว่า วันเดียวกัน นายสุเทพ ได้ส่งหนังสือเลื่อนประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 14/2552 ถึง ก.ตร.ทุกท่าน โดยให้เลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งนายสุเทพ ให้เหตุผลที่ต้องเลื่อนการประชุม ก.ตร. เนื่องจากตนเองไม่สบาย
พล.ต.ท. อาจิณ โชติวงศ์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ผบช.ก.ตร.) ยืนยันว่า นายสุเทพได้มีหนังสือเลื่อนการประชุม ก.ตร.จริง เนื่องจาก นายสุเทพมีอาการป่วยไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะเลื่อนประชุมไปจนถึงวันไหน
พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือ บอร์ดกลั่นกรอง ชุดใหม่ กล่าวว่า ก.ตร.ครั้งนี้ไม่ได้ล่ม ถ้าล่มน่าจะหมายถึงการเข้าประชุมแล้วไปไม่รอด แต่ครั้งนี้ยังไม่ได้ประชุม เพราะนายสุเทพ ในฐานะประธาน ก.ตร. ป่วยจริงๆ ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีการนัดหารือนอกรอบกันเมื่อวันที่ 1 พ.ย.นั้น ตนไม่ทราบเพราะเมื่อในวันนั้น ตนไม่ได้เดินทางไปไหน
ส่วนสาเหตุที่เลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปนั้นเพราะรายชื่อตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ลงตัวนั้น พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ทราบจริง ๆ เพราะตนเองยังไม่เห็นรายชื่อ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนนัดพิจารณารายชื่อข้าราชการตำรวจออกไปนั้น ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตำรวจ ซึ่งรวมไปถึงการดูแล ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมให้กับประชาชน และการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย
**"มาร์ค"ยัน"เทพเทือก"ป่วยจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับทราบว่านายสุเทพ ค่อนข้างป่วยหนัก เป็นไข้หวัด เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ไปงานแต่งงานก็ใส่หน้ากากไป เมื่อเดินทางกลับก็ให้ไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล ในช่วงบ่ายนี้ตนจะสอบถามอาการ อีกครั้ง ช่วงนี้อยู่ระหว่างการพักผ่อน ซึ่งการลาป่วยของนายสุเทพ ไม่เกี่ยวกับนายสุเทพไม่พอใจที่นายกรัฐมนตรี ได้ทาบทามให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร. มาช่วยงานด้านความมั่นคง เพราะนายสุเทพทราบมานานแล้วว่า มีความคิดที่จะชวน พล.ตงอ.ธานีมาช่วยงาน ความจริงนายสุเทพก็เคยชวน พร้อมย้ำให้ไปฟังเสียงของนายสุเทพเมื่อวานก็จะรู้ว่าป่วยจริง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การลาป่วยของนายสุเทพ ทำให้ต้องเลื่อนการประชุม ก.ตร. ออกไป เมื่อถามว่าจะทำอย่างไร หากประชุม ก.ตร.ไม่ทันจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของตำรวจด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) นายสุเทพก็ป่วยมาก แต่ว่าคงไม่นาน ต้องนอน โรงพยาบาลหรือไม่ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะให้ตรวจเชื้อไปเมื่อคืน
**เลื่อกถก ก.ตร.เหตุโผไม่ลงตัว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ตั้งข้อสังเกตุว่าการส่งหนังสือเลื่อนประชุม ก.ตร.ของนายสุเทพ โดยระบุว่าป่วยนั้น ความจริงควรจะเลื่อนการประชุม ก.ตร.ไปคณะเดียว แต่กลับเลื่อนการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน ออกไปด้วย ทั้งๆ ที่เป็นคนละส่วนกับ ก.ตร.ที่มีนายสุเทพ เป็นประธาน จึงเป็นไปได้ว่าการเลื่อนบอร์ดกลั่นกรองฯ เพราะนายสมศักดิ์ ซึ่งมีความสนิทสนามตั้งแต่เป็นอัยการที่จังหวุดสุราษฎร์ธานี ได้รับสัญญาณจากนายสุเทพ
แหล่งข่าวยอมรับว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ยังมีปัญหาการจัดสรรบุคคลลงในตำแหน่งสำคัญๆ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่งนายสุเทพ ต้องการผลักดัน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ. 8 ซึ่งทำงานในพื้นที่ภาค 8 พื้นที่ของนายสุเทพ มายาวนานถึง 17 ปี อีกทั้ง พล.ต.ท.สัณฐาน ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ตร. ที่ฝากฝังไว้ก่อนหน้านี้
**"สุเทพ"ดัน"สัญฐาน"ทั้งที่มีปัญหา
แหล่งข่าวกล่าวว่าผู้ใหญ่หลายท่านไม่เห็นด้วย เพราะพล.ต.ท.สัญฐาน มีปัญหาอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในข้อกล่าวหาเข้าข่ายผิดวินัยตำรวจ ผิดกฎระเบียบทางราชการ 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ยกเลิกการจัดซื้อครุภัณฑ์ไฟฟ้าและวิทยุสื่อสาร จำนวน 634 เครื่อง วงเงิน 10 ล้านบาท 2.ซ่อมแซมบ้านพักผู้บัญชาการภาค 8 วงเงิน 7 หมื่นบาท ขัดระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ 3.ซ่อมแซมห้องทำงานผู้บัญชาการ ภาค 8 ขัดระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ 4. มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ประกอบการ ทำผิดกฎหมายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
5. ออกคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่นโดยไม่เป็นธรรม 6.มีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถืออาวุธปืนติดตามในสนามบิน ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามและ7.ออกคำสั่งห้ให้รองผู้บัญชาการตำรวจ ภาค 8 รักษาราชการแทนโดยไม่คำนึงถึงลำดับอาวุโส
จาก 7 กรณีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากการสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูล ทำให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ในขณะนั้นได้ลงนามสอบเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2552 ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีพล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ (สบ.8) เป็นประธานกรรมการและให้ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวในวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธานี ได้เข้าพบหารือกับ นายกรัฐมนตรี ที่ร้านอาหารใกล้บ้านพักนายกรัฐมนตรี ย่านสุขุมวิท ซอย 31 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะดึงพล.ต.อ.ธานีมาช่วยงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าทาบทามให้มาช่วยงานด้านความมั่นคง
แหล่งข่าวจาก สตช. ยอมรับเช่นกันว่าสาเหตุที่นายสุเทพ เลื่อนการประชุม ก.ตร. น่าจะมาจากบัญชีโยกย้ายยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผบช.น. , ผบช.ก. , ผบช.ส. ซึ่งก่อนหน้านี้นายสุเทพ ต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงอยากได้บุคคลที่เหมาะสมและไว้ใจได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพได้นัดรับประทานอาหารกับ ก.ตร. บางท่าน ที่โรงแรมสยามซิตี ซึ่งเป็นการหารือนอกรอบเกี่ยวกับบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งได้มี ก.ตร.บางท่าน ทักท้วงกรณีนายตำรวจบางคน ที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ มีลำดับอาวุโสต่ำ แต่กลับได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ขณะที่บางท่านหยิบยกเหตุผลที่มีการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือบอร์ดกลั่นกรองชุดใหม่ ที่มี ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมด้วย ดังนั้นเมื่อเทียบกับบัญชีโยกย้ายที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรอง ในยุคของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รรท.ผบ.ตร. บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ควรจะดูดีกว่า ซึ่งหลายท่านเป็นกังวลว่าหากมีการแต่งตั้งข้ามหลักอาวุโส โดยให้นายตำรวจซึ่งมีอาวุโสต่ำกว่ามากมาดำรงตำแหน่งสำคัญ จะทำให้ภาพลักษณ์ของ ก.ตร.ดูแย่ลง
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า บัญชีรายชื่อบางตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์ ห็นด้วยกับบุคคลที่จะมานั่งในตำแหน่งนั้นๆ แต่ นายสุเทพ กลับไม่เห็นด้วย และหากมีการประชุมเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่การประชุม ก.ตร.อาจจะล่มอีก จึงทำให้นายสุเทพ แจ้งเลื่อนการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าไม่สบาย ขณะที่การให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ถึงการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายว่า จะจบภายในวันนี้
**"ชวรัตน์"อุบไต๋เลือก ผบ.ตร.
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการ นโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) เพื่อพิจารณาหาตำแหน่งที่ว่างอยู่ และเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีนัด ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ว่า จุดยืนของตนในเรื่องการเลือก ผบ.ตร. ยังคงเป็นแบบเดิมหรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันภายใน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไร กรณีที่นายกรัฐมนตรีทาบทามให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร.มาช่วยงานด้านความมั่นคง นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบจากสื่อ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็คงเห็นฝีมือ พล.ต.อ.ธานีจึงทาบทาม.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วานนี้ (2 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการ ข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้เรียกประชุม ก.ตร. ในเวลา 13.00 น. เพื่อพิจารณา แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจตั้งแต่ รอง ผบ.ตร.ลงมา แต่ปรากฎว่า วันเดียวกัน นายสุเทพ ได้ส่งหนังสือเลื่อนประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 14/2552 ถึง ก.ตร.ทุกท่าน โดยให้เลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งนายสุเทพ ให้เหตุผลที่ต้องเลื่อนการประชุม ก.ตร. เนื่องจากตนเองไม่สบาย
พล.ต.ท. อาจิณ โชติวงศ์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ผบช.ก.ตร.) ยืนยันว่า นายสุเทพได้มีหนังสือเลื่อนการประชุม ก.ตร.จริง เนื่องจาก นายสุเทพมีอาการป่วยไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะเลื่อนประชุมไปจนถึงวันไหน
พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือ บอร์ดกลั่นกรอง ชุดใหม่ กล่าวว่า ก.ตร.ครั้งนี้ไม่ได้ล่ม ถ้าล่มน่าจะหมายถึงการเข้าประชุมแล้วไปไม่รอด แต่ครั้งนี้ยังไม่ได้ประชุม เพราะนายสุเทพ ในฐานะประธาน ก.ตร. ป่วยจริงๆ ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีการนัดหารือนอกรอบกันเมื่อวันที่ 1 พ.ย.นั้น ตนไม่ทราบเพราะเมื่อในวันนั้น ตนไม่ได้เดินทางไปไหน
ส่วนสาเหตุที่เลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปนั้นเพราะรายชื่อตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ลงตัวนั้น พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ทราบจริง ๆ เพราะตนเองยังไม่เห็นรายชื่อ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนนัดพิจารณารายชื่อข้าราชการตำรวจออกไปนั้น ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตำรวจ ซึ่งรวมไปถึงการดูแล ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมให้กับประชาชน และการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย
**"มาร์ค"ยัน"เทพเทือก"ป่วยจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับทราบว่านายสุเทพ ค่อนข้างป่วยหนัก เป็นไข้หวัด เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ไปงานแต่งงานก็ใส่หน้ากากไป เมื่อเดินทางกลับก็ให้ไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล ในช่วงบ่ายนี้ตนจะสอบถามอาการ อีกครั้ง ช่วงนี้อยู่ระหว่างการพักผ่อน ซึ่งการลาป่วยของนายสุเทพ ไม่เกี่ยวกับนายสุเทพไม่พอใจที่นายกรัฐมนตรี ได้ทาบทามให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร. มาช่วยงานด้านความมั่นคง เพราะนายสุเทพทราบมานานแล้วว่า มีความคิดที่จะชวน พล.ตงอ.ธานีมาช่วยงาน ความจริงนายสุเทพก็เคยชวน พร้อมย้ำให้ไปฟังเสียงของนายสุเทพเมื่อวานก็จะรู้ว่าป่วยจริง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การลาป่วยของนายสุเทพ ทำให้ต้องเลื่อนการประชุม ก.ตร. ออกไป เมื่อถามว่าจะทำอย่างไร หากประชุม ก.ตร.ไม่ทันจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของตำรวจด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) นายสุเทพก็ป่วยมาก แต่ว่าคงไม่นาน ต้องนอน โรงพยาบาลหรือไม่ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะให้ตรวจเชื้อไปเมื่อคืน
**เลื่อกถก ก.ตร.เหตุโผไม่ลงตัว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ตั้งข้อสังเกตุว่าการส่งหนังสือเลื่อนประชุม ก.ตร.ของนายสุเทพ โดยระบุว่าป่วยนั้น ความจริงควรจะเลื่อนการประชุม ก.ตร.ไปคณะเดียว แต่กลับเลื่อนการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน ออกไปด้วย ทั้งๆ ที่เป็นคนละส่วนกับ ก.ตร.ที่มีนายสุเทพ เป็นประธาน จึงเป็นไปได้ว่าการเลื่อนบอร์ดกลั่นกรองฯ เพราะนายสมศักดิ์ ซึ่งมีความสนิทสนามตั้งแต่เป็นอัยการที่จังหวุดสุราษฎร์ธานี ได้รับสัญญาณจากนายสุเทพ
แหล่งข่าวยอมรับว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ยังมีปัญหาการจัดสรรบุคคลลงในตำแหน่งสำคัญๆ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่งนายสุเทพ ต้องการผลักดัน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ. 8 ซึ่งทำงานในพื้นที่ภาค 8 พื้นที่ของนายสุเทพ มายาวนานถึง 17 ปี อีกทั้ง พล.ต.ท.สัณฐาน ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ตร. ที่ฝากฝังไว้ก่อนหน้านี้
**"สุเทพ"ดัน"สัญฐาน"ทั้งที่มีปัญหา
แหล่งข่าวกล่าวว่าผู้ใหญ่หลายท่านไม่เห็นด้วย เพราะพล.ต.ท.สัญฐาน มีปัญหาอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในข้อกล่าวหาเข้าข่ายผิดวินัยตำรวจ ผิดกฎระเบียบทางราชการ 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ยกเลิกการจัดซื้อครุภัณฑ์ไฟฟ้าและวิทยุสื่อสาร จำนวน 634 เครื่อง วงเงิน 10 ล้านบาท 2.ซ่อมแซมบ้านพักผู้บัญชาการภาค 8 วงเงิน 7 หมื่นบาท ขัดระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ 3.ซ่อมแซมห้องทำงานผู้บัญชาการ ภาค 8 ขัดระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ 4. มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ประกอบการ ทำผิดกฎหมายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
5. ออกคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่นโดยไม่เป็นธรรม 6.มีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถืออาวุธปืนติดตามในสนามบิน ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามและ7.ออกคำสั่งห้ให้รองผู้บัญชาการตำรวจ ภาค 8 รักษาราชการแทนโดยไม่คำนึงถึงลำดับอาวุโส
จาก 7 กรณีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากการสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูล ทำให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ในขณะนั้นได้ลงนามสอบเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2552 ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีพล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ (สบ.8) เป็นประธานกรรมการและให้ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวในวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธานี ได้เข้าพบหารือกับ นายกรัฐมนตรี ที่ร้านอาหารใกล้บ้านพักนายกรัฐมนตรี ย่านสุขุมวิท ซอย 31 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะดึงพล.ต.อ.ธานีมาช่วยงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าทาบทามให้มาช่วยงานด้านความมั่นคง
แหล่งข่าวจาก สตช. ยอมรับเช่นกันว่าสาเหตุที่นายสุเทพ เลื่อนการประชุม ก.ตร. น่าจะมาจากบัญชีโยกย้ายยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผบช.น. , ผบช.ก. , ผบช.ส. ซึ่งก่อนหน้านี้นายสุเทพ ต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงอยากได้บุคคลที่เหมาะสมและไว้ใจได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพได้นัดรับประทานอาหารกับ ก.ตร. บางท่าน ที่โรงแรมสยามซิตี ซึ่งเป็นการหารือนอกรอบเกี่ยวกับบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งได้มี ก.ตร.บางท่าน ทักท้วงกรณีนายตำรวจบางคน ที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ มีลำดับอาวุโสต่ำ แต่กลับได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ขณะที่บางท่านหยิบยกเหตุผลที่มีการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือบอร์ดกลั่นกรองชุดใหม่ ที่มี ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมด้วย ดังนั้นเมื่อเทียบกับบัญชีโยกย้ายที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรอง ในยุคของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รรท.ผบ.ตร. บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ควรจะดูดีกว่า ซึ่งหลายท่านเป็นกังวลว่าหากมีการแต่งตั้งข้ามหลักอาวุโส โดยให้นายตำรวจซึ่งมีอาวุโสต่ำกว่ามากมาดำรงตำแหน่งสำคัญ จะทำให้ภาพลักษณ์ของ ก.ตร.ดูแย่ลง
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า บัญชีรายชื่อบางตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์ ห็นด้วยกับบุคคลที่จะมานั่งในตำแหน่งนั้นๆ แต่ นายสุเทพ กลับไม่เห็นด้วย และหากมีการประชุมเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่การประชุม ก.ตร.อาจจะล่มอีก จึงทำให้นายสุเทพ แจ้งเลื่อนการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าไม่สบาย ขณะที่การให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ถึงการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายว่า จะจบภายในวันนี้
**"ชวรัตน์"อุบไต๋เลือก ผบ.ตร.
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการ นโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) เพื่อพิจารณาหาตำแหน่งที่ว่างอยู่ และเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีนัด ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ว่า จุดยืนของตนในเรื่องการเลือก ผบ.ตร. ยังคงเป็นแบบเดิมหรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันภายใน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไร กรณีที่นายกรัฐมนตรีทาบทามให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร.มาช่วยงานด้านความมั่นคง นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบจากสื่อ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็คงเห็นฝีมือ พล.ต.อ.ธานีจึงทาบทาม.