00 ในที่สุดมันก็ยังไม่จบอย่างที่นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ลั่นปากเอาไว้ล่วงหน้า เพราะการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เพื่อแต่งตั้งตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงมาจะให้เรียบร้อยภายในวันจันทร์ที่ 2 พ.ย. ก็ต้องเลื่อนออกไปอีก เนื่องจาก สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธาน ก.ตร.อ้างว่าป่วยกระทันหัน
00 ป่วยก็ป่วยไม่ว่ากัน แต่อีกมุมหนึ่งกลับมีแมงเมาท์ป้องปากกระซิบกันให้แซ่ดว่างานนี้น่าจะมีรายการ “ป่วยการเมือง” เพราะโผตำรวจในตำแหน่งสำคัญไม่ลงตัว โดยเฉพาะความเห็นที่แย้งกันเองระหว่าง “มาร์ค” กับ “เทือก” นั่นแหละ โดยฝ่ายแรกเริ่มมองเห็นแล้วว่าหากยังขืนปล่อยให้ฝ่ายหลังรวบอำนาจดันคนใกล้ชิดเข้ามากุมตำแหน่งกันยกแผง ต่อไปในอนาคตแม้ว่าตัวเองจะนั่งเก้าอี้นายกฯแต่มันก็ไร้อำนาจ ไม่มีมือไม้ที่ไว้ใจได้ใช้สอยได้เลยสักคน
00 อีกปมหนึ่งที่บังเอิญประจวบเหมาะเข้ามาก็คือการดึง “ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” มาช่วยงานด้านความมั่นคงในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี ทำเหมือนกับว่าจะต้องลด “น้ำหนัก” ของรองสุเทพ เอาไว้บ้าง และเรื่องนี้อาจไปเพิ่มอาการป่วยให้หนักขึ้นก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าให้สรุปนาทีนี้ก็ต้องบอกว่าน่าจะเป็นรายการงัดข้อกันเล็กๆระหว่างคู่หูพลิกล็อกดังกล่าว โดยฝ่ายหนึ่งต้องการกระชับอำนาจมากขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายเมื่อรู้ว่าอำนาจที่เคยอยู่ในมือเต็มเปี่ยมทำท่าจะถูกแบ่งออกไปมันก็อาจมีอาการฮึดฮัดออกมาบ้าง แต่เชื่อเถอะทั้งคู่ยังตัดกันไม่ขาด ยังต้องลากถูลู่ถูกังกันไปจนกว่าจะจบเกมนั่นแหละ !!
00 ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี หลังจาก ราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงแบ๊งก์บีบีซีถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย ในทำนองตัดบทว่าคงสาวไปถึงผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นได้ยากโดยอ้างว่าเวลาผ่านไปนานกว่า 10 ปี ฟังดูแล้วไม่ค่อยสวยและอาจทำให้สังคมเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ ว่ามาตรฐานเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะแทนที่จะพูดแบบหนักแน่นจริงจังว่า จะต้องเร่งรัดให้ตำรวจเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อลากคอเอาผิดผู้ที่ร่วมขบวนการโกงออกมาให้เข้าคุกให้หมด แม้ว่าจะยาก แต่ก็ต้องพยายามก่อนและที่สำคัญต้องส่งสัญญาณให้ถูกต้องด้วย
00 เพราะนาทีนี้สิ่งที่สังคมกำลังเฝ้าจับตามองว่าตำรวจจะสามารถดำเนินคดีผู้ร่วมทำผิดรายอื่นๆได้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มนักการเมืองที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 16 หรือไม่ก็ตาม เพราะแค่ ราเกซ และ เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้จัดการใหญ่ บีบีซีที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้า แม้จะเป็นตัวละครเอก แต่มันยังไม่ครบวงจร เพราะตามสูตรมันต้องมีนักการเมืองขี้โกงมาผสมโรงด้วยมันถึงจะไหลลื่น
00 ว่ากันตามข้อเท็จจริงข้อมูลทั้งหมดล้วนอยู่ในมือคนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น สุเทพ เทือกสุบรรณ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ หรือแม้แต่ สุวโรช พะลัง ชนิดที่เรียกว่ามีรายชื่อนักการเมืองที่ร่วมขบวนการโกงบีบีซีอยู่ในแฟ้มเป็นตั้งรู้ที่มาที่ไปเอาไว้หมด เพียงแต่ว่ามาวันนี้จะมีท่าทีอย่างไรเท่านั้น เพราะอย่างที่รู้กันเต็มอกนักการเมือง “กลุ่ม 16” ดันกลายเป็นตัวแปรสำคัญค้ำบัลลังก์รัฐบาลเสียด้วยซี แม้ไม่ได้ปรักปรำใคร แต่หันไปทางซ้ายก็เจอ เนวิน หันไปทางขวาก็เจอ ไพโรจน์ หันไปอีกทางก็เจอหน้า “ตี๋สุชาติ” เข้าให้อีก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯว่าจะใจถึงยึดมั่นในหลักการผิดถูกว่ากันไปตามกระบวนการ หรือไม่ แต่คำพูดเหมือนกับ “ตัดตอน” คนที่ได้ยินมันก็ห่อเหี่ยวหัวใจนะ !!
00 ป่วยก็ป่วยไม่ว่ากัน แต่อีกมุมหนึ่งกลับมีแมงเมาท์ป้องปากกระซิบกันให้แซ่ดว่างานนี้น่าจะมีรายการ “ป่วยการเมือง” เพราะโผตำรวจในตำแหน่งสำคัญไม่ลงตัว โดยเฉพาะความเห็นที่แย้งกันเองระหว่าง “มาร์ค” กับ “เทือก” นั่นแหละ โดยฝ่ายแรกเริ่มมองเห็นแล้วว่าหากยังขืนปล่อยให้ฝ่ายหลังรวบอำนาจดันคนใกล้ชิดเข้ามากุมตำแหน่งกันยกแผง ต่อไปในอนาคตแม้ว่าตัวเองจะนั่งเก้าอี้นายกฯแต่มันก็ไร้อำนาจ ไม่มีมือไม้ที่ไว้ใจได้ใช้สอยได้เลยสักคน
00 อีกปมหนึ่งที่บังเอิญประจวบเหมาะเข้ามาก็คือการดึง “ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” มาช่วยงานด้านความมั่นคงในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี ทำเหมือนกับว่าจะต้องลด “น้ำหนัก” ของรองสุเทพ เอาไว้บ้าง และเรื่องนี้อาจไปเพิ่มอาการป่วยให้หนักขึ้นก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าให้สรุปนาทีนี้ก็ต้องบอกว่าน่าจะเป็นรายการงัดข้อกันเล็กๆระหว่างคู่หูพลิกล็อกดังกล่าว โดยฝ่ายหนึ่งต้องการกระชับอำนาจมากขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายเมื่อรู้ว่าอำนาจที่เคยอยู่ในมือเต็มเปี่ยมทำท่าจะถูกแบ่งออกไปมันก็อาจมีอาการฮึดฮัดออกมาบ้าง แต่เชื่อเถอะทั้งคู่ยังตัดกันไม่ขาด ยังต้องลากถูลู่ถูกังกันไปจนกว่าจะจบเกมนั่นแหละ !!
00 ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี หลังจาก ราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงแบ๊งก์บีบีซีถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย ในทำนองตัดบทว่าคงสาวไปถึงผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นได้ยากโดยอ้างว่าเวลาผ่านไปนานกว่า 10 ปี ฟังดูแล้วไม่ค่อยสวยและอาจทำให้สังคมเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ ว่ามาตรฐานเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะแทนที่จะพูดแบบหนักแน่นจริงจังว่า จะต้องเร่งรัดให้ตำรวจเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อลากคอเอาผิดผู้ที่ร่วมขบวนการโกงออกมาให้เข้าคุกให้หมด แม้ว่าจะยาก แต่ก็ต้องพยายามก่อนและที่สำคัญต้องส่งสัญญาณให้ถูกต้องด้วย
00 เพราะนาทีนี้สิ่งที่สังคมกำลังเฝ้าจับตามองว่าตำรวจจะสามารถดำเนินคดีผู้ร่วมทำผิดรายอื่นๆได้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มนักการเมืองที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 16 หรือไม่ก็ตาม เพราะแค่ ราเกซ และ เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้จัดการใหญ่ บีบีซีที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้า แม้จะเป็นตัวละครเอก แต่มันยังไม่ครบวงจร เพราะตามสูตรมันต้องมีนักการเมืองขี้โกงมาผสมโรงด้วยมันถึงจะไหลลื่น
00 ว่ากันตามข้อเท็จจริงข้อมูลทั้งหมดล้วนอยู่ในมือคนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น สุเทพ เทือกสุบรรณ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ หรือแม้แต่ สุวโรช พะลัง ชนิดที่เรียกว่ามีรายชื่อนักการเมืองที่ร่วมขบวนการโกงบีบีซีอยู่ในแฟ้มเป็นตั้งรู้ที่มาที่ไปเอาไว้หมด เพียงแต่ว่ามาวันนี้จะมีท่าทีอย่างไรเท่านั้น เพราะอย่างที่รู้กันเต็มอกนักการเมือง “กลุ่ม 16” ดันกลายเป็นตัวแปรสำคัญค้ำบัลลังก์รัฐบาลเสียด้วยซี แม้ไม่ได้ปรักปรำใคร แต่หันไปทางซ้ายก็เจอ เนวิน หันไปทางขวาก็เจอ ไพโรจน์ หันไปอีกทางก็เจอหน้า “ตี๋สุชาติ” เข้าให้อีก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯว่าจะใจถึงยึดมั่นในหลักการผิดถูกว่ากันไปตามกระบวนการ หรือไม่ แต่คำพูดเหมือนกับ “ตัดตอน” คนที่ได้ยินมันก็ห่อเหี่ยวหัวใจนะ !!