“เด่น โต๊ะมีนา” เออออแนวคิด “จิ๋ว” ตั้ง “นครปัตตานี” ดับไฟใต้ อ้างเป็นการแสดงความจริงใจของรัฐบาลให้คนในพื้นที่ได้สัมผัส โดยให้ดูแลตนเอง แต่ยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมินร่วมขบวน ปธ.พรรคเพื่อไทยลงใต้ เหตุติดภารกิจ ด้าน “สุเทพ” เย้ยกลับแค่้เกมรุกทางการเมือง เตือนอย่าทำ ปชช.สับสน นำประเทศสู่ความเสี่ยง
นายเด่น โต๊ะมีนา อดีต ส.ว.ปัตตานี กล่าวถึงแนวคิดของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่นำเสนอก่อนที่จะเดินทางไปจังหวัดปัตตานี ในวันนี้ ว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของ พล.อ.ชวลิต ที่จะให้ จ.ปัตตานี ดูแลตนเอง เป็นนครปัตตานีภายใต้รัฐธรรมนูญไทย เพราะเชื่อว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างจริงจังได้ และถือเป็นการแสดงความจริงใจให้คนในพื้นที่ได้สัมผัส ซึ่งที่ผ่านมาชาวปัตตานีไม่เคยได้เห็นผลในทางปฏิบัติจากรัฐบาลเลย ทั้งที่จริงแล้วตัวหนังสือ หรือรัฐธรรมนูญ ก็ให้โอกาสไว้ แต่ในทางปฏิบัติไม่ทำกันเอง และเชื่อว่าหากจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้จริง ก็น่าจะขยายผลสู่จังหวัดอื่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนได้เช่นกัน
นายเด่นกล่าวต่อว่า ตนเองได้รับการติดต่อให้เดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ด้วยเช่นกัน แต่ติดภารกิจที่กรุงเทพฯ และยังเป็นห่วงเรื่องการตีความภายหลังการเดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พล.อ.ชวลิต ซึ่งอาจจะมีผู้เข้าใจผิดและเกิดปัญหา เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้ง พล.อ.ชวลิต เดินทางไปกัมพูชา
อนึ่ง พล.อ.ชวลิต ได้แถลงข่าวเปิดตัวนโยบาย “ไทยร่มเย็น เป็นมิตรเพื่อนบ้าน” ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยส่วนกนึ่งของนโยบายดังกฃ่าว คือการเสนอให้มีการจัดตั้ง “นครปัตตานี” เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ โดยอ้างว่านครปัตตานีจะมีลักษณะคล้ายกับนครเชียงใหม่ คือให้มีการออก พ.ร.บ.ให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเอง แต่ยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายไทย ส่วนรายละเอียดขึ้นอยู่กับรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเพียงแค่การสร้างภาพทางการเมือง เพื่อรองรับบทบาทของ พล.อ.ชวลิต มากกว่าจะหวังผลในทางปฏิบัติ เพราะหากดูพฤติกรรมของ พล.อ.ชวลิต ก็น่าจะเปลี่ยนนโยบายนี้เป็น “ไทยร้อนรุ่ม ชักศึกเข้าบ้าน” มากกว่า เมื่อดูจากการไปเยือนกัมพูชาของ พล.อ.ชวลิตเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งพยายามนำเรื่องการลี้ภัยในเขมรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นประเด็นเพื่อก่อกวนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ส่วนการแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้น ถือว่า พล.อ.ชวลิตไม่มีน้ำยาพอ เนื่องจากปัญหาความรุนแรงในภาคใต้นั้นล้วนแต่ปะทุขึ้นมาในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มี พล.อ.ชวลิต เป็นรองนายกฯ ทั้งสิ้น
สำหรับแนวคิดจัดตั้งนครปัตตานีนั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าหมิ่นเหม่ต่อการแบ่งแยกดินแดน แต่หาก พล.อ.ชวลิตอ้างว่า นครปัตตานีมีลักษณะคล้ายนครเชียงใหม่ ก็จะไม่มีอะไรแตกต่างจากรูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนครเชียงใหม่เป็นเพียงการปกครองในรูปแบบเทศบาลที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น และในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีเทศบาลที่เป็นเทศบาลนครอยู่แล้วหลายแห่ง เช่น เทศบาลนครยะลา เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลนครสงขลา เป็นต้น
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการเสนอแนวคิดในการตั้งนครปัตตานีว่า ต้องขอบคุณที่ พล.อ.ชวลิต แสดงความคิดเห็น แต่ตนเองไม่เข้าใจในรายละเอียด จึงไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ต้องขอศึกษารายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตาม หากจะให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปกครองเป็นเอกเทศคงเป็นไปไม่ได้ เพราะประเทศไทยเป็นรัฐเดียวไม่สามารถแบ่งแยกได้
นายสุเทพยังมองว่า การเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต เป็นการปฏิบัติเกมรุกทางการเมือง แต่ขอร้องอย่าทำให้ประชาชนสับสน หรือทำให้ประเทศเสียหาย และอย่านำประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ยังคงใช้ความจริงในการนำเสนอ
นายสุเทพบอกอีกว่า ไม่กังวลหากนายกรัฐมนตรีทาบทาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาดูแลงานด้านความมั่นคง เนื่องจากตนเองกับ พล.ต.อ.ธานี รู้จักกันเป็นอย่างดี และเห็นว่าเป็นการดีที่จะมีคนมาช่วยงานด้านความมั่นคงเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่