“คำนูณ” จี้ รบ.ช่วยเหลือวิศวกร ถูกเขมรยัดเยียดข้อหา

“ส.ว.คำนูณ” จี้รัฐบาลใช้ช่องทางการทูต เร่งให้ความช่วยเหลือวิศวกรที่ถูกยัดเยีดยข้อหาจารกรรมไฟลต์บินแม้วโดยด่วน แนะให้เปิดเจรจาเขมร หวั่นความขัดแย้งบานปลายสู่ประชาชนทั้งสองฝ่าย จนนำไปสู่สงครามประชาชน เชื่อมีความเป็นได้อาจเกิดกระแสคลั่งชาติเข่นฆ่ากันกลางเมือง

วันนี้ (13 พ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจับวิศวกรชาวไทยที่ทำงานกับบริษัทบริการการเดินอากาศกัมพูชา (Cambodia Air Traffic Services) โดยกล่าวหาว่าเป็นสายลับสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเข้ากัมพูชาในวันอังคารที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือคนไทยรายนี้ให้ถึงที่สุด และทุกวิถีทาง ในฐานะคนไทยด้วยกัน โดยใช้วิธีทางการทูตที่เหลืออยู่ด้วยการขอให้กัมพูชาอย่าเลือกปฏิบัติ และเปิดโอกาสให้ใช้ทนายความ พร้อมใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม

นายคำนูณกล่าวอีกว่า ตนเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายจากเรื่องปกติจะกลายเป็นเรื่องทางการเมืองได้ เนื่องจากขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาไม่ค่อยดี ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากัมพูชาเริ่มเปิดเกมอย่างไร ทั้งนี้ ตนเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเจรจาทำความเข้าใจกับรัฐบาลกัมพูชา เรื่องการดำเนินการว่าจะทำอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่กระทบกับประชาชนของทั้งสองประเทศ อย่าให้ประชาชนทั้งสองประเทศเดือดร้อนจากผลความขัดแย้งของรัฐบาลสองประเทศ เพราะรัฐทะเลาะกับรัฐด้วยกันยังมีความหวังว่าจะสามารถคืนดีทำความเข้าใจกันได้ แต่หากเกิดเหตุประชาชนทั้งสองประเทศเข้าใจผิดกันจะเป็นเรื่องยากในการทำความเข้าใจ อาจก่อให้เกิดปัญหาสงครามประชาชนแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันได้ ซึ่งรัฐบาลทั้งสองประเทศต้องพึงระวัง

“อย่าลืมว่ามีขอทาน คนงานหรือแรงงานเขมรที่ประจำในไทยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่กัมพูชาเองก็มีคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก อาจเกิดเหตุการณ์นองเลือดฆ่ากันเพียงเพราะความเข้าใจผิดที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่ารักชาติของตัวเอง” นายคำนูณกล่าว

ด้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าววว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานว่าบุคคลที่ถูกจับกุมตัวไว้นั้นมีพฤติการณ์เตรียมลอบทำร้าย อีกทั้งเหตุที่กัมพูชาจับกุมเนื่องจากเข้าเชื่อว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เพราะตามหลักกฎหมายทั้งสองประเทศบุคคลใดก็ตามที่เตรียมก่อเหตุหรือก่อเหตุไม่สงบจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี อย่างไรก็ตามการดำเนินการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายวรวัจน์กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายจนเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เกิดจากรัฐบลาลไทยทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้กลายเป็นเรื่อง เล่นเกมวุ่นวาย ซึ่งเห็นว่าไม่ได้ก่อประโยชน์ต่อฝ่ายใดเลย ส่วนเหตุผลที่ต้องทำให้วุ่นวายเป็นเรื่องใหญ่อาจเป็นเพราะต้องการปกปิดปัญหาของรัฐบาลที่ได้ก่อและสร้างไว้หรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งฝ่ายค้านไม่หลงกระแสตามฝ่ายรัฐบาลที่พยายามดึงความสนใจประชาชนไปทางการขัดแย้งระหว่างประเทศ แต่ฝ่ายค้านจะยังติดตามตรวจสอบการทุจริตอย่างใกล้ชิดเพราะมีการทุจริตหลายโครงการแต่ละมีมูลค่ามหาศาล โดยฝ่ายค้านจะเตรียมเอกสารหลักฐานไว้เพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป