“สมศักดิ์”สวนกลับนักการเมืองเอา ปชช.เป็นตัวประกัน ให้ตัวเองได้โกงกินต่อ เหน็บ “มาร์ค”เมินกฏ 9 ข้อ ปล่อยพรรคร่วมเขมือบรถไฟ ด้าน “สาวิทย์”ซัดผู้บริหาร เมินข้อเสนอปรับปรุงอุปกรณ์ แต่พอเกิดอุบัติเหตุ กลับโยนผิดให้พนักงาน แฉเกมสร้างภาพทำลายสภาพ ทิ้งผู้โดยสารที่ละแม ปล่อยข่าวยึดรถจักร ขับรถฝ่าไฟแดง ยันข่าวชุมนุมใหญ่เร็วๆ นี้แค่ลือ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันศุกร์ที่ 30 ต.ค. ในช่วงสนทนา นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ และว่าที่รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายอรุณ วีระชาติ กรรมการสหภาพรถไฟ ได้มาร่วมรายการ เพื่อตีแผ่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาภายในการรถไฟ
นายสาวิทย์ กล่าวว่า การไล่ออกพนักงานการรถไฟ โดยมีกรรมการสหภาพฯ 6 คนที่หาดใหญ่รวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงนั้น ถือเป็นข้อหาที่ร้ายแรง ถ้าสังคมไม่รู้ข้อเท็จจริงจะคิดว่าไปทำอะไรที่ชั่วอย่างรุนแรง ทั้งที่ในข้อเท็จจริงสหภาพฯ เรียกร้องเรื่องความปลอดภัยของประชาชน โดยต้องการให้ผู้บริหารทำตามระบบและหลักเกณฑ์เรื่องความปลอดภัย แต่ผู้บริหารไม่ทำ จนทำให้เดิอุบัติเหตุบ่อยครั้งและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก สหภาพฯ จึงต้องลุกขึ้นมาทำเอง พอกันทีกับการนับศพ แต่พอพนักงานลุกมาเรียกร้อง กลับมาหาว่าพนักงานทำให้เกิดความเสียหาย และไล่พนักงานออก
ส่วนกล่าวหาที่ว่าสหภาพฯ ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นักการเมืองกับผู้บริหารการรถไฟต่างหากที่เอาประชาชนเป็นตัวประกัน พอสหภาพประท้วงก็อ้างว่าประชาชนจะเดือดร้อน แต่ประเด็นที่ต้องตั้งคำถาม คือปัญหาการทุจริตภายในการรถไฟ ซึ่งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ชี้มูลแล้วว่า ผู้ว่าการรถไฟคนปัจจุบันกระทำผิด(กรณีให้เช่าที่ดินตลาดนัดซันเดย์) ต้องลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ประเด็นอยากให้สื่อดูข้อเท็จจริง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถไฟบ่อยครั้งมาก เพราะรถเก่า พนักงานก็มีน้อย พอเกิดอุบัตคิเหตุพนักงานกลับเป็นฝ่ายรับผิดชอบคนเดียว ทั้งที่เขาเสนอเบิกอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยไปตั้งหลายครั้ง เช่น กรณีเครื่องวิจิแลนซ์ที่ใช้การไม่ได้ แต่ก็ไม่ให้ พอเกิดปัญหากลับโยนผิดให้พนักงาน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมกับพนักงานหรือไม่ เขาเสนอให้แก้กลับไม่แก้ แล้วมาสั่งให้เขาขับรถออกไป พอไปชนคนตาย ใครติดคุก แต่คนสั่งไม่รับผิดชอบ โยนว่าคนขับประมาท
นายสมศักดิ์ ระบุว่า ทุกวันนี้ เกิดอุบัติเหตุกับรถไฟทุกวัน เมื่อเช้าก็ไฟไหม้เครื่องยนต์หัวรถจักร เพราะไฟฟ้าช็อต เนื่องจากเครื่องยต์เก่า เมื่อวานก็ตกรางที่มหาชัย วันก่อนชนคนตายที่อุดรธานี ลากไปถึง 330 เมตร ทั้งที่ตามมาตรฐานถ้าอุปกรณ์อยู่ในสภาพดี สามารถหยุดได้ในระยะเพียง 120 เมตร และอาจหยุดรถทัน โดยไม่ชนคนตาย ตนเป็นประธานสหภาพรถไฟโลกอยู่ด้วย รถไฟทั่วโลกเขายึดหลักความปลอดภัยต้องมาก่อน และกฎหมายของเราก็มี หากออกรถโดยไม่พร้อมและเกิดอุบัติ คนสั่งให้ออกรถต้องติดคุก แต่ที่ผ่านมา กลับโยนผิดให้พนักงานฝ่ายเดียว
นายอรุณ กล่าวว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานรถไฟนั้น มีหลักที่ต้องทำตาม ตั้งแต่เรื่องมารยาท ห้ามกระทำการให้เกิดความเสียหาย เกิดภัยพิบัติแก่การเดินรถ หรือเป็นอัตรายต่อชีวิตมนุษย์ เรื่องความปลอดภัย พนักงานทุกคนต้องระมัดระวังในการเดินรถให้ปลอดภัยแก่ประชาชน หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดบกพร้องในขบวนรถ หรือมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะอันตรายให้แก้ไขทันที นี่คือหลักปฏิบัติที่เราต้องทำ
นายสมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาแม้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยจะไม่พร้อม แต่ก็มีการขอกันมาตลอด ให้วิ่งไปก่อน แต่พอเกิดอุบัติเหตุ กลับเป็นคนขับที่ติดคุก
นายสาวิทย์ กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นเราเห็นว่ามันไม่ไหวแล้ว มันต้องเปิดให้สังคมให้เห็น ต้องเปิดกายภาพภายในให้เห็นว่ารถไฟสามารถปรับปรุงได้ อุบัติเหตุไม่เกิด ถ้าอุปกรณ์สมบูรณ์พร้อม กฎหมายรถไฟก็มีระบุไว้ตั้งแต่แรกว่า ต้องเดินรถด้วยความปลอดภัย
สาเหตุที่ผู้บริหารไม่ยอมรับข้อเสนอของสหภาพ ก็เพราะการวางแผนจัดการที่ล้มเหวมาตลอด การยอมรับว่าอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ เท่ากับว่ายอมรับความล้มเหลวของตัวเอง จึงปัดความรับผิดชอบออกไป เวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ไม่มีการพูดถึงปัญหาอุปกรณ์ ทั้งที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั่วโลกต้องมี
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่ผู้ว่าการรถไฟบอกว่า วีจิแลนซ์ เป็นแค่อุปกรณ์เสริม เป็นการโกหก เพราะมันอุปกรณ์ที่ต้องมี อุปกรณ์ตัวนี้จะทำงาน โดยตั้งเวลาไว้ ถ้าคนขับรถไฟหลับหรือวูบ ไม่เหยียบอุปกรณ์นี้ภายใน 1 นาที 42 วินาที มันจะหยุดรถ มันเป็นอุปกรณ์สำคัญของระบบความปลอดภัย เป็นมามตรฐานของระบบขนส่งทุกชนิกทั่วโลกต้องมีระบบความปลอดภัย แต่เมื่อมีการออกสื่อ กลับมาโยนความผิดให้พนักกงาน
เหมือนกรณีการทิ้งผู้โดยสารที่สถานีละแม ตอนแรกก็ด่าว่าสหภาพฯ ทิ้งผู้โดยสาร แต่ต่อมาผู้ว่าการรถไฟก็ยอมรับว่าเป็นคนสั่งหยุด โดยอ้างว่า กลัวสหภาพฯ จะยึดหัวรถจักรจึงให้หยุดขบวนรถ ทั้งที่รถไฟขบวนนี้จะไปกันตัง ขณะที่สหภาพฯ อยู่ที่หาดใหญ่ กรณีนี้ถือว่าสังคมไม่ให้ความเป็นธรรม ตอนแรกสื่อก็ด่าว่าเราทิ้งผู้โดยสาร แต่พอผู้ว่าการฯ ออกมาสารถภาพก็บอกว่าไม่เป็นไร
นายสาวิทย์กล่าวเสริมว่า ขบวนรถถที่ปล่อยผู้โดยสารลงที่ละแมนั้นได้ ถูกสั่งให้เอาหัวรถเปล่าไปเก็บที่สุราษฎร์ธานี ซึ่งแทนที่จะเอาผู้โดยสารไปลงที่สุราษฎร์ด้วย กลับทั้งผู้โดยสารไว้ที่ละแมทั้งหมด แล้วตีหัวรถเปล่าไป ทำให้เกิดดภาพว่ารถไฟทิ้งผู้โดยสาร
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรณีการเอานักศึกษาฝึกงานไปขับรถไฟที่หาดใหญ่ โดยที่อุปกรณ์ไม่พร้อม แถมยังฝ่าไฟแดง พอคนสหภาพออกไปดู กลับกล่าวหาว่า เราไปขัดขวางและวางยา ทั้งที่จริง การขับรถ ต้องทำตามหอสัญญาณ ไม่ใช่คนขับคิดจะขับไปทางไหนก็ขับไป มันจึงฝ่าไฟแดง เพราะเอาคนจากส่วนกลางลงไป ซึ่งไม่รู้ระบบ
นายอรุณย้ำว่า การฝ่าไฟแดงมีภาพให้เห็นชัดเจน ทั้งที่สัญญาณไฟยังแดงอยู่ คือห้ามรถออก แต่คนขับกลับขับออกไป ก็ตกราง พอคนสหภาพออกไปดู ก็หาว่าเราไปวางยา
นายสาวิทย์ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นการทำให้สภาพการรถไฟอ่อนแอค่อนข้างแน่นอน เพราะงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งมีประมาณ 2 แสนล้านจะลงในการรถไฟ และมีแผนจะแปรรูปจึงต้องทำให้สหภาพอ่อนแอลง
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บทบาทของสหภาพที่ผ่านมาต่อต้านการโกงมาตลอด นักการเมืองและผู้บริหารรถไฟต้องการให้สหภาพฯ อ่อนแอ แล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ทำตามกฎ 9 ข้อ ล่าสุดรัฐมนตรีคมนาคม ก็หาเรื่องซื้อหัวรถจกัรใหม่แล้ว
นายสาวิทย์ กล่าวถึงความไม่โปร่งใสในการรถไฟ กรณีการให้เช่าที่ดินของการรไฟซึ่งมีอยู่ 3 หมื่นกว่าไร่ แต่มีรายได้แค่ปีละ 1 พันกว่าล้านบาท ขณะที่ที่ดินที่ถูกนัการเมืองโกงไปอย่างที่ดินเขากระโดง กลับไม่มีการทวงคืน จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
นายสมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า นักการเมืองที่ต้องการเข้ามาหาผลประโยชน์จากรถไฟ มักจะตั้งคนที่สั่งได้มาเป็นผู้ว่าฯ สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ให้ไล่คนออกก็ไล่ แม้สหภาพฯ จะยื่นข้อเรียนกร้องให้ปรับปรุงการรถไฟมาตลอด แต่ผู้บริหารไม่ยอมทำตาม พอเกิดปัญหาขึ้นก็โยนความผิดให้พนักงาน
ซึ่งนายสาวิทย์ ระบุว่า การไล่พนักงานออกนั้น กระทำรุนแรงถึงขั้นละเลมิอดสิทธิ เพราะห้ามพนักงานที่เป็นกรรมการสหภาพ6 คนเข้าไปในเขตการรถไฟ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้วเขาจะไปแก้ข้อกล่าวหาให้ตัวเองได้อย่างไร ขณะที่อุบัติเหตุรถไฟเกิดขึ้นมาตลอด เดือนกันยายนที่ผ่านมาเดือนเดียว รถไฟสายใต้จอดตายคาราง 123 ครั้ง เพราะอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ นี่คตือการจัดเการที่ล้มเหลวของผู้บริหารรถไฟ
นายสาวิทย์ ย้ำว่า สหภาพฯ ไม่เคยเรียกร้องเรื่องเงินเดือนหรือผลประโยชน์ของตัวเอง มีแต่เรียกร้องเรื่องความปลอดภัยของประชาชน ที่เราทำมาตลอด ส่วนข่าวการชุมนุมใหญ่ของสหภาพฯ ภายใน 1-2 วันนี้ นายสาวิทย์ ยืนยันว่า ไม่มีอย่างแน่นอน เป็นการรปล่อยข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงของสหภาพ เหมือนการทิ้งผู้โดยสารที่ละแม หรือการปล่อยข่าวว่าสหภาพฯ จะยึดหัวรถจักร
นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ไปสหภาพฯ จะพยามยามทะลุแนวกั้นเรื่องข้อมูลข่าวสาร จะเอาความจริงออกไปสู่ประชาชนให้ได้มากที่สุด ที่ผ่านมาตนไม่โทษสื่อ เห็นใจพี่น้องสื่อในพื้นที่ เห็นสายตาก็รู้ถึงความใสซื่อ แต่เมื่อให้สัมภาษณ์ไปแล้ว กระบวนการที่จะสื่ออกไปก็เป็นเรื่องหนึ้ง แต่หลังจากนี้เราจะให้ข้อมูลมากขึ้น ตอนนี้มีกลุ่มรักรถไฟ รวมตัวกันเพื่อเผยแพร่ความจริงสู่สังคม ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ภายในรถไฟเองก็จะบอกพี่น้องพนักงาน
ส่วนความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นก็ต้องสู้ต่อ ผู้ว่าฯ ผิดขนาดนี้ สตง.สอบสวนชี้มูลความผิดชัดเจน แทนที่จะถูกดำเนินคดกีอาญา กลับแต่งตั้งให้ตำแหน่งสูงขึ้น ขณะที่พนักงานออกมาสู้เพื่อปกป้องความปลอยภัยของประชาชนกลับถูกไล่ออก ด้วยข้อหาประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เราต้องสู้ด้วยวิถีทางที่เรามี ความจริงคือความจริง เราต้องยืนหยัด ถ้าปล่อยไป การคอร์รัปเต็ฌมบ้านเต็มเมือง ลูกหลานก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่
สำหรับข้อกล่าวหาจากนักการเมืองบางพรรคที่บอกว่ามีพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของสหภาพฯ นั้น นายสมศักดิ์ กล่าสวว่า ตนเคยเป็นประธานสหภาพฯ มาก่อน ปัจจุบันก็เป็นรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งตนอยู่เบื้องหน้ามาตลอด แต่อยากให้ใช้เหตุผลว่า ถ้าพรรคการเมืองใหม่ทำจะได้อะไร ปัญหาการในรถไฟ ทุกคนก็รู้ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่มีการตระหนักกันบ้างหรือไม่ คนรถไฟที่เป็นผู้บริหารทั้งปัจจุบันและที่เกษียณแล้ว ไม่รักศักดิ์ศรีของคนรถไฟ ไม่ออกมาปกป้อง นักการเมืองจะเข้ามาโกงมากิน ก็ไม่ออกมาต่อสู้ หลักฐานการทุจริตก็มีชัดเจน ทั้งเรื่องที่ดินเขากระโดง และผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน แต่ก็ไม่ทำอะไร