xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง : ลากคอ “ราเกซ” กลับไทย ปชป.หวังใช้เป็นเกมบี้ “เนวิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง : ลากคอ “ราเกซ” กลับไทย ปชป.หวังใช้เป็นเกมบี้ “เนวิน” หลังสุดทนพฤติกรรม "ภูมิใจห้อย" มูมมามต่อรองผลประโยชน์จนไม่มีสมาธิบริหารประเทศ จึงดึงตัว "ราเกซ" กลับ เพื่อขู่พรรคร่วม ชี้ คดีนี้ต้องมีวาระซ่อนเร้นไทย-แคนาดา แอบแฝง


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิปทั้งหมด

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “เคาะข่าวริมโขง”

รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ และนายสำราญ รอดเพชร ว่าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่ถูกจับตามองรอบวัน โดยเฉพาะ การเกาะติดและย้อนปูมหลังกับคดียักยอกทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ซึ่ง นายราเกซ สักเสนา เป็นกุญแจสำคัญที่จะไขปริศนาคดีนี้ ที่เกี่ยวพันกับนักการเมืองไทยหลายคน และหลายตระกูลใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีการหยิบยกประเด็น นางศุภรัตน์ นาคบุญนำ อดีตพิธีกรและผู้ประกาศข่าวที่มีชื่อเสียง ซึ่งปัจจุบันได้หันเหชีวิตไปรับใช้ระบอบทักษิณ โดยมีประเด็นร้อนเกิดขึ้นเมื่อ นางศุภรัตน์ ได้บุกพาไปชมบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรส์

น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็นถึงคดี นายราเกซ ว่า 13 ปีแล้วที่คดีนี้ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน โดยคืนนี้กุญแจสำคัญที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวพันกับเรื่องนี้โดยตรง จะเดินทางด้วยเครื่องบินมาเหยียบที่ประเทศไทยประมาณ 21.00 น.เศษ ซึ่งขณะนี้ทัพสื่อมวลชนจำนวนมากได้ไปเกาะติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว เพื่อรอรับและทำข่าว นายราเกซ สักเสนา ที่ไปพักพิงอยู่ที่ประเทศแคนาดานานหลายปี ทั้งนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้เตรียมมาตรการป้องกันความปลอดภัยให้แก่ นายราเกซ นั่นคือ เมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบินจะให้ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนทันที ต่อจากจะมีรถลวง ไม่ให้ทราบได้ว่า นายราเกซ อาศัยอยู่ในรถคันใด พร้อมนำเฮลิคอปเตอร์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะมีการแวะที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะ นายราเกซ ป่วยด้วยหลายโรค จึงต้องตรวจเช็คร่างกาย

น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า ก่อนที่วิเคราะห์ถึงคดีนี้ ตนขอเอ่ยปูมหลังของคดีดังกล่าว ทั้งนี้ การยักยอกทรัพย์ บีบีซี เคยสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง ซึ่งผู้ที่เปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้ คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นำไปอภิปรายในสภา เพื่อทำลายนักการเมืองบางกลุ่ม ที่มีผลประโยชน์ในการยักยอกครั้งนี้ โดยหลังจากที่เรื่องราวเปิดเผย ทำให้ประชาชนแห่ไปถอนเงินจากธนาคารจำนวนมาก ทั้งนี้ สมัยนั้น นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการสั่งให้ระงับการเปิดเผยข้อมูล นายสุเทพ เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักธุรกิจและนักลงทุน ที่ไม่มั่นใจสภาพของสถาบันการเงินไทย จึงทยอยขนเงินออกนอกประเทศ

น.ส.อัญชะลี กล่าวอีกว่า ต่อมาได้มีการประกาศค่าเงินบาทลอยตัว และพอเข้าสู่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ชวลิต ยงใยยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่ถือเป็นช่วงกลียุคของระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ การที่ นายสุเทพ นำเรื่องดังกล่าวมาอภิปรายในสภา เนื่องจากต้องการดิสเครดิต นายเนวิน และกลุ่ม 16 ที่มีนักการเมืองหลายตระกูลดังรวมอยู่ สำหรับสาเหตุที่ นายสุเทพ ต้องออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ เพื่อแก้แค้นที่ นายเนวิน เคยออกมาเปิดเผยเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.-401 ซึ่ง นายสุเทพ มีส่วนเอี่ยวเรื่องนี้ด้วย

นายโสภณ กล่าวเสริมประเด็นนี้ ว่า ปัญหาบีบีซีจะไม่เกิดหากแบงค์ชาติไม่ปล่อยกู้ จนทำให้นักเล่นหุ้น นำเงินไปปั่น จนเกิดความเสียหาย ทำให้บีบีซีหลายสภาพพร่อง เพราะเกิดหนี้เสียจำนวนมาก เนื่องจากสมัยนั้นมีการตกแต่งตัวเลขในบัญชีกัน

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ตอนนี้กลุ่ม 16 ได้กระจายเป็น ส.ส.อยู่ที่หลายพรรคการเมือง ไม่ว่าจะพรรคเพื่อไทย หรือพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งคดีนี้ หากมองอย่างลึกซึ้งมีได้ 2 ประเด็น คือ การเอาตัว นายราเกซ กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยครั้งนี้ มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า กลุ่ม 16 มีนักการเมืองหลาย

ตระกูลดังรวมอยู่ในนั้น อาทิ ตระกูลศิลปอาชา ตระกูลคุณปลื้ม ตระกูลตันเจริญ และทีเด็ด คือ ตระกูลชิดชอบ สิ่งเหล่านี้ พอดูจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้น่าสงสัยว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่รัฐบาลนำตัว นายราเกซ เพื่อเป็นเครื่องต่อรองและข่มขู่พรรคร่วม ไม่ให้กล้าขอหรือลองดีกับรัฐบาล ไม่เช่นนั้นอาจโดนเปิดโปงความจริง ซึ่งอาจทำให้มีหลายคนต้องติดคุก

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การที่นำตัว นายราเกซ มา เงินที่ยักยอกไปมูลค่ามหาศาลจาก บีบีซี ใช้หมดหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่ นายราเกซ หนีไปอยู่ประเทศแคนาดานานถึง 13 ปี โดยใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย โดยการตามตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย รัฐบาลและทางการประเทศแคนาดา มีการตกลงเจรจาผลประโยชน์ใดๆ หรือไม่ แต่ทั้งหมดนี้ ต้องอย่าลืมว่าเวลานี้ นายราเกซ เป็นลูกไก่ในกำมือ รัฐบาล เนื่องจากการดำเนินคดีทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรม ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ปกครองอยู่ ตนจึงว่าเรื่องนี้ ไม่ปกติ

นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องเจรจาผลประโยชน์ระหว่างกับรัฐบาลไทยกับแคนาคา ต้องไปสืบดูว่า รัฐบาลมีการใช้งบเพื่อซื้ออาวุธจากประเทศดังกล่าวหรือไม่ หรือเงินยักยอกของ นายราเกซ มูลค่ามหาศาลก็น่าสนใจ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ตนอยากให้ลองดูว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ก่อนเข้าห้องขังที่ถูกจัดไว้เป็นพิเศษ นายราเกซ ต้องไปโรงพยาบาลก่อน เพื่อตรวจร่างกายและสภาพจิตใจ ซึ่งจากการเปิดเผย เวลาการรักษาตัวจะนานเท่าใด ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำหน้าที่ ดังนั้น สำคัญมากว่าดุลยแพทย์จะให้รักษาตัวกี่วัน โดยต้องจับตามองว่า ระหว่างการรักษาตัวมีอะไรผิดปกติหรือไม่ เนื่องจากอย่างที่ทราบไปแล้วว่า คดีนี้อาจทำให้นักการเมืองตระกูลใหญ่หลายคนติดคุก

นายโสภณ กล่าวอีกว่า อีกคนที่มีบทบาทเรื่องนี้ คือ นายปิ่น จักรภาพ ซึ่งถือเป็นคนหนุ่มที่ได้รับฉายาเป็นพ่อมดทางการเงินอีกคน ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีช่องทางหาเงินได้มหาศาล จนในช่วงเกิดวิกฤตฟองสบู่แตกในประเทศ ทำให้ได้รับผลกระทบมาก เพราะเป็นผู้เล่นหุ้นตัวยง และดำเนินการขยายธุรกิจใหญ่โตมากเกินไป โดยไม่ฟังเสียงจากคนรอบข้างที่เคยเตือนเรื่องทำธุรกิจ จนเมื่อเข้าไปพัวพันคดียักยอกทรัพย์บีบีซี จึงได้หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบป้องกันประชากรอย่างดีเยี่ยม ทางการไทยจึงสาวไม่ถึงตัว

น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็นถึง นางศุภรัตน์ บุกไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงนครดูไบ โดย นายสำราญ กล่าวกรณีนี้ว่า ตนรู้จักกับ นางศุภรัตน์ มาเป็นเวลานาน จึงรู้สึกเสียดายที่ไปหลงเชื่อและตกเป็นทาสเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะก่อนหน้านี้ นางศุภรัตน์ เป็นสื่อมวลชนนิสัยดี แต่ด้วยปัญหาบางอย่าง ทำให้ต้องจำใจยอมรับสถานการณ์ในการตกเป็นทาสเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการถามคำถามที่ป้ายสีว่า คนใต้รักแต่ประชาธิปัตย์ มันที่เป็นเรื่องโกหก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไม สามเกลอหัวขวด ถึงเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่เป็นคนใต้ทั้งแก๊งค์

นายสำราญ กล่าวอีกว่า นางศุภรัตน์ ถือเป็นสื่อที่เซ็นเซอร์ตัวเอง คือ ทำทุกอย่าง แม้แต่พูดเรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จึงไม่นำเสนอข่าวในแง่ลบของบุคคลที่จ่ายเงินเรา ซึ่งตนถือเป็นสื่ออีแร้ง ที่รุมทึ้งประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น